Saturday, March 31, 2007

ตอนที่ 21

ก่อนที่เหตุการณ์จะเลยเถิดไปยิ่งกว่านั้น ทันใดนั้นเอง ผมรู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งมาตบไหล่ผม แล้วเสียงไอ้นัยก็ดังขึ้นข้างๆหู

“อู อย่าทำเค้า”

สั้นๆแค่นั้นเองครับ คำพูดเพียงประโยคสั้นๆของไอ้นัยแต่ก็สามารถเรียกสติสัมปชัญญะของผมกลับคืนมาได้ ในขณะที่แม้ไอ้ตุ้มจะแหกปากร้องผมก็ไม่สนใจ เพื่อนๆที่เคยมีความรู้สึกดีๆเป็นพิเศษกับใครสักคนคงเข้าใจนะครับ ว่ามันเป็นความรู้สึกอย่างไร คำพูดของคนคนนั้นมีอิทธิพลกับเรามากเพียงไหน ตอนนั้นผมเองก็ยังไม่เข้าใจหรอกครับ ไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าทำไมต้องฟังมัน จำได้แต่ว่าตอนเด็กๆ มีไอ้นัยคนเดียวเท่านั้นที่หยุดอารมณ์อันมุทะลุของผมได้

ผมหยุดทันที ปล่อยตัวไอ้ตุ้ม และเหตุการณ์ที่กำลังตึงเครียดหน้าสิ่วหน้าขวานก็สงบลง ไอ้ตุ้มพอหลุดจากวงแขนผมได้ก็ด่าๆๆๆๆผมเสียไม่มีชิ้นดี แต่ก็ยังเล่นน้ำต่อ มันเองก็คงโกรธแบบว่าโดนแกล้งเท่านั้นแหละครับ คงไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าหวุดหวิดจะเสียความบริสุทธิ์ หรือมีท้องกับไอ้อูเสียแล้ว และเรื่องนี้เอง ที่ผมยังสำนึกถึงบุญคุณของไอ้นัยเสมอ นี่ถ้าไม่ได้มันห้ามเอาไว้ เกิดผมทำสำเร็จขึ้นมาจริงๆ เรื่องคงใหญ่โตบานปลายไม่น้อย

แต่มาคิดอีกที นี่ถ้าผมทำสำเร็จ มันจะมีส่วนเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมไม่ให้เบี่ยงเบนมามากขนาดนี้ได้ไหมครับเนี่ย เฮ้อ

หลังจากนั้น เราก็เล่นน้ำกันต่อ และอีกเพียงครู่เดียว ไอ้ตุ้มก็ดูเหมือนจะลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเสียทั้งหมด นี่แหละครับ เด็ก

เล่นกันไปอีกพักใหญ่ ตุ้มกับตุ้ยก็ขอกลับก่อน เพราะว่าขี้เกียจเล่นแล้ว มันกลัวพ่อแม่มันว่าที่หนีออกมาเล่นนานๆ ก็เลยแยกกลับไปก่อน ก็เลยเหลือแค่เราสามคนเช่นเดิม

เราสามคนเลยไปนอนแก้ผ้าผึ่งลมที่ริมบึงแทน บึงน้ำในสมัยนั้นสวยงาม บรรยากาศดีมาก ยิ่งในหน้าร้อน ลมริมบึงพัดแผ่วๆเย็นสบาย นอนดูฟ้าใสๆที่มีปุยเมฆลอยผ่าน บางก้อนวิ่งช้า บางก้อนวิ่งเร็ว เหมือนดูรถกำลังแข่งกัน อากาศที่ริมบึงกรุ่นไปด้วยกลิ่นหญ้าและกลิ่นเขียวๆ บึงน้ำและร่องสวนในวัยเด็กเป็นความทรงจำอันแสนวิเศษของผม เมื่อใดที่ผมเป็นทุกข์มักจะหวนนึกถึงฤดูร้อนตอน ป.5 เสมอ

ผมชวนไอ้สองตัวนี่ไปเก็บลูกเม่ากัน ในสวนของพ่อมีต้นใหญ่ๆอยู่ต้นหนึ่ง มันขึ้นเอง ไม่มีใครไปปลูก อยู่ไม่ห่างจากจุดที่เรานอนกันอยู่เท่าไร

ต้นเม่านี้เป็นไม้ยืนต้น สูงใหญ่ครับ ผลของมันเป็นลูกกลมๆ หน้าตาคล้ายลูกอมดับเบิลแอมเพล็กซ์ แต่ใหญ่กว่าหน่อยและมีสีม่วง ประโยชน์ของมันน่ะหรือครับ กินได้หรือเปล่าก็จำไม่ได้แล้ว แต่ที่แน่ๆคือเด็กชอบเอามาเล่นขว้างใส่กัน เพราะน้ำจากผลของมันสีม่วงเข้ม เหมือนหมึกเลย ทำเสื้อเปื้อนดีนัก

ผมชวนมันไปเก็บลูกเม่าโดยไม่ได้บอกว่าจะเอามาทำอะไร ไอ้ชัชเลยไม่สนใจ ผมเลยไปกับไอ้นัยสองคน ต้นมันอยู่ไม่ไกลนัก ก็เลยไม่ได้ใส่เสื้อผ้าไป ตอนนั้นชักคุ้นเคยกับการแก้ผ้าแล้วครับ อิอิ เลยแก้ผ้าเดินไป

ต้นเม่านี่สูงนะครับ หลายเมตรทีเดียว การจะเอาลูกมันมาเล่นได้ต้องปีนป่ายขึ้นไปเก็บ เด็กบ้านนอกกับการปีนต้นไม้น่ะเรื่องปกติอยู่แล้ว ผมกับไอ้นัยปีนขึ้นไปเสียสูงเลย แก้ผ้าปีนต้นไม้นี่มันก็เย็นดี ยังนึกในใจเลยว่าเราแน่กว่าทาร์ซานอีก เพราะทาร์ซานยังนุ่งผ้าเตี่ยวปีนต้นไม้ แต่เรานี่ไม่นุ่งอะไรเลย

พอผมเล่าความคิดนี้ให้ไอ้นัยฟัง มันก็ตีหน้าตายบอกว่า “ถ้าไม่แปลว่าแน่กว่าทาร์ซาน ก็แปลว่าเราจนกว่า เพราะทาร์ซานยังมีผ้าเตี่ยวนุ่ง”

ไอ้นัยเวลาปีนแล้วเซ็กซี่มาก เวลามันเกร็งแขนขานี่กล้ามขึ้นเลย ก้นก็งอน ยิ่งหว่างขานี่... เลยเกิดอารมณ์ครับ เอ ทำไมกับอีตุ้มมันไม่เกิดอารมณ์ยังงี้มั่งหว่า นี่ผมกำลังเบี่ยงแล้วแล้วใช่ไหมครับ

ปีนไปปีนมา ควยเลยแข็ง ไอ้นัยเห็นเข้าก็หัวเราะฮุฮุ ทำนองว่ารู้นะว่าผมคิดอะไร ในเมื่อมันรู้ทันผม ผมก็เลยชักว่าวกับมันบนต้นเม่าเสียเลย ชักว่าวบนต้นไม้ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ แต่ต้องระวังตกต้นไม้หน่อย เวลามองน้ำว่าวตกลงไปข้างล่างหายลับไป อารมณ์มันต่างกับเห็นมันหยดลงบนพื้นดิน

เมื่อชักว่าวเสร็จ ผมป้ายเอาน้ำว่าวของมันกับของผมไปป้ายกับต้นไม้

“นี่ อนุสรณ์ของการชักว่าวบนต้นเม่า อีกสักสิบปีมาดูกันว่ามันยังอยู่ไหม” ผมพูด


เราได้ลูกเม่ามาคนละกำมือ เอามามากไม่ได้ ไม่มีที่ใส่ ตอนขาลงนี่ไปเจอเอามดคันไฟเข้าครับ ตัวใหญ่ๆ กัดเจ็บมากกกกกก ไอ้นัยโดนกัดเข้าที่ไข่ บวมเลยครับ ส่วนผมโดนเข้าไปตามแขนขา บวมเหมือนกัน เจอมดเข้าทีวิ่งกันป่าราบ

พอมาถึงริมบึง ผมก็แสดงการใช้งานลูกเม่าให้ไอ้นัยดู โดยใช้ไอ้ชัชเป็นพรีเซ็นเตอร์ พูดง่ายๆก็คือเอาลูกเม่าละเลงลงบนตัวเปล่าเปลือยของมันนั่นแหละครับ ตอนนั้นมันกำลังเคลิ้มอยู่ ไอ้นัยก็เอาตามบ้าง เพียงครู่เดียวไอ้ชัชก็เหมือนถูกบอดี้เพนท์ ม่วงไปทั้งตัว สารรูปไอ้ชัชตอนนั้นตลกมาก

เหตุการณ์ตอนไปเที่ยวบ้านของผมก็ไม่มีอะไรมากแล้วละครับ ปีนั้นคึกมาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันจะแก้ผ้าและมีเซ็กซ์กันตลอด แต่ก็แค่ชักว่าวถูไถกันเท่านั้นแหละครับเพราะว่าทำเป็นแค่นั้น รีดน้ำกันจนตัวซีดไปตามๆกัน

หลังจากการเที่ยวบ้านครั้งนั้น มิตรภาพระหว่างเราสามคนก็งอกงามแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตอนขากลับ พ่อพาพวกเรามาส่งที่กรุงเทพฯ โดยนัดกันที่โรงเรียน ไอ้นัยนี่อาผู้ชายมารับ ส่วนไอ้ชัชนี่อามันหรือใครก็ไม่รู้มารับ เพราะพ่อมันไม่ว่าง

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น โชคดีที่ไอ้ตุ้มกับไอ้ตุ้ยไม่ได้เล่าให้พ่อแม่ของมันฟัง (ผมคิดยังงั้นนะครับ เพราะถ้าเล่าผมคงเละไปแล้ว) ส่วนลุงหนู ปีรุ่งขึ้นก็หายตัวไป ได้ความว่าไปก่อเรื่องลวนลามสาว ลวนลามสาวนะครับ ไม่ใช่ลวนลามเด็ก เลยอยู่ไม่ได้ ที่จริงแกก็เป็นคนถิ่นอื่นอยู่แล้ว พอย้ายออกไปก็เลยไม่มีใครรู้ แต่ว่าป่านนี้คงไม่อยู่ในโลกแล้วละครับ เพราะเหตุการณ์มันก็นานแล้ว

พูดถึงต้นเม่าหน่อย อีกประมาณห้าปีให้หลัง หลังจากที่ผมจบ ม. 3 ผมก็แวะไปดูเม่าต้นนั้นอีกครั้ง ดูไปยังงั้นแหละครับ รู้ๆอยู่ว่าไม่มีอะไรเหลือ เพราะพอเข้าหน้าฝนคราบน้ำว่าวมันก็คงโดนฝนชะหมดไปตั้งแต่ปีแรกแล้ว แต่ที่ไปนี่เพื่อไปรำลึกถึงความหลังครับ เม่าต้นนั้นก็ยังอยู่ดี แต่หลังจากนั้นอีกหลายปีก็ถูกโค่นไปเพราะมีการปรับปรุงพื้นที่สวน น่าเสียดายอนุสรณ์ของผมกับไอ้นัยจังเลยครับ

เรื่องของผมกับไอ้ชัช ไอ้นัย ในสมัยป. 5 ก็คงจบแล้วละครับ คราวหน้าจะเล่าเรื่องที่เราติดต่อกันระหว่างปิดเทอมต่ออีกหน่อย แล้วจะได้ขึ้น ป. 6 กันเสียที ตอน ป. 6 นี่ก็มีสีสันไปอีกแบบ เพราะมีนักเรียนโค่ง 2 คนมาเรียนด้วย ชื่อพงษ์หรือว่าพงษ์ศักดิ์ กับไอ้ชิดหรือว่าชิดชัย

มีเพื่อนๆที่เป็นผู้อ่านรายหนึ่งบอกว่าอยากให้สรุปตอนจบว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร เรื่องนี้ขอคิดอีกทีครับ เพราะเดิมทีตั้งใจว่าจะเล่าแค่จบ ม. 3 แค่ไหนก็แค่นั้น เพราะช่วงชีวิตที่บรรเจิดที่สุดของพวกเราคือวัยเด็กกับวัยรุ่นตอนต้น ความน่ารักต่างๆ (ถ้าจะมีอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ว่าแก่แดดกันนี่ครับ อาจจะไม่ค่อยน่ารักเท่าไร) มันอยู่ในวัยนี้ เรื่องของผู้ใหญ่ก็มีแต่ความทุกข์ อยากให้เพื่อนๆรับรู้เฉพาะส่วนที่น่าประทับใจ ให้เก็บเอาไปฝันได้ดีกว่ามั้งครับ แต่ยังไงก็ขอฟังเสียงเพื่อนๆอีกที ถ้าอยากรู้กันจริงๆอาจจะเล่าแบบสรุปให้ฟัง แต่กว่าจะเล่าถึงตอนนั้นสงสัยว่าจะยังอีกนาน เพราะว่าเล่ามายี่สิบกว่าตอนแล้วยังเพิ่งจะ ป. 5 เอง

2 comments:

jakrathan said...

ขอบคุณนะครับ อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศสมัยผมยังเด็กอย่างแรง 5555

INo said...

ฟู่............... นึกว่าจะได้กับ ยัยตุ้มกับยัยตุ้ยแล้วซะอีกน่ะเนี่ย ดีน่ะที่พี่นัยผมเปนคนมีสติดดี ไม่บ้าไปตามอารมเหมือนพี่อู 555+

แต่ถ้าเปนเด๋วนี้ล่ะก้อ อาจจะใช้ถุงยางกันเสร็จไปแล้วก้อได้ เหอะๆ ถ้าเปนแบบนั้นอย่าให้รู้เลยว่าอยู่กันที่ไหน จะไปแจมด้วยเลยล่ะงานนี้ อุวะหะๆๆๆ