Friday, March 23, 2007

ตอนที่ 10

ตอนบ่าย อาของไอ้นัยก็กลับมา คู่นี้เป็นคนที่วุ่นวายกับการทำมาหากินมากครับ กลับมาบ้านก็ยังต้องมานั่งทำงานกันต่อ ไม่รู้ว่าจะทำงานไปถึงไหนกัน คิดแล้วก็สงสารไอ้นัยอยู่เหมือนกันครับ เพราะว่ามันเหงา เป็นใครก็ต้องเหงาครับแบบนี้

มื้อเย็น ทายซิครับว่ากินอะไรกัน กินกับข้าวถุงอ่ะ คือซื้อเป็นถุงๆมาแล้วหุงข้าวเอาที่บ้าน มีพวกแกง ผัด 3-4 อย่าง โห นี่ยุ่งขนาดไม่มีเวลาทำอาหารเลย คือต้องเข้าใจว่าสมัยเมื่อสิบกว่าปีก่อน วัฒนธรรมอาหารถุงซื้อกลับบ้านยังไม่เหมือนตอนนี้ สมัยนั้นส่วนใหญ่ก็ทำกับข้าวกินกันเอง ไม่อย่างนั้นก็รับปิ่นโต การซื้อกับข้าวถุงกินยังค่อนข้างน้อย หรือว่าผมรู้ชีวิตในกรุงเทพฯน้อยก็ไม่ทราบ เพราะว่าเด็กประจำนี่ครับ โรงเรียนทำให้กิน ปิดเทอมกลับบ้าน แต่ที่บ้านต่างจังหวัดไม่มีใครซื้อกับข้าวถุงหรอก

เราทั้งสี่คนนั่งกินอาหารเย็นด้วยกันที่โต๊ะอาหาร คุณอาทั้งสองคนของไอ้นัยเป็นคนดีมาก มีอัธยาศัยดี แม้กับเด็กอย่างผม ชวนผมคุยบ้าง แต่รวมๆแล้วก็คุยไม่มากเท่าไร เพราะได้คุยกันแค่ช่วงกินอาหารเท่านั้น

“ไอ้นัย วันๆอามึงคุยกับมึงบ้างมั้ยวะ” ผมแอบถามในตอนค่ำหลังอาหารเย็น

“ก็คุยกันตอนกินข้าวนี่แหละ” มันว่า

“วันๆได้คุยกันแค่นี้ แล้วน้ำลายมึงไม่บูดมั่งเหรอ”

“คุณอาเค้ายุ่งโว้ย ก็ไม่รู้จะทำยังไง” ไอ้นัยพูดแบบเฉยๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไร ไอ้นี่มันเหมือนดินน้ำมันหรือตุ๊กตาจริงๆเลยครับ ใครจับมันทำอย่างไร มันก็ยอมทั้งนั้น ไม่หือไม่อือ แต่พอผมโตแล้วจึงค่อยมาได้คิดว่าที่จริงใช่ว่ามันไม่รู้สึกหรอกครับ แต่มันเก็บความรู้สึกเอาไว้มากกว่า เก็บกดไงครับ

“วันหยุดไม่พามึงไปเที่ยวไหนเลยเหรอ” ผมถามอีก

“ไม่ค่อยอ่ะ นานๆที”

“โฮ้ย ยังงี้มึงมาอยู่โรงเรียนประจำกับกู กับไอ้ชัชดีกว่า สนุกกว่าเยอะ” ผมยุส่งไปเลย

หลังจากกินอาหารเย็น พวกเราก็นั่งดูทีวีกัน ผมก็ดูไปงั้นๆแหละครับ ไม่ค่อยจะใส่ใจเท่าไร ก็อยู่กับผู้ใหญ่นี่ครับ จะไปสนุกอะไร สักสามทุ่มก็ได้เวลาแยกย้าย ต่างคนต่างก็เข้าห้องนอนของตน

ลืมบอกไปว่าบ้านไอ้นัยนั้นมี 3 ห้องนอน อาทั้งสองใช้ห้องนอนใหญ่ ในนั้นมีห้องน้ำในตัว (ไม่ได้เข้าไปดูหรอกครับ ไอ้นัยมันบอก) ส่วนอีก 2 ห้องนอนใช้ห้องน้ำร่วมกัน สรุปก็คือยังมีห้องนอนเหลือว่างอีกห้องหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าห้องนอนนั้นจะเอาไว้สำหรับแขกหรือกะจะมีลูกสักคนแล้วให้ลูกอยู่ห้องนั้น

ผมไม่ได้ไปนอนห้องว่างนั้นหรอกครับ นอนกับไอ้นัยนี่แหละ เรื่องอะไรจะไปนอนคนเดียว ก็นอนเตียงไอ้นัย เบียดกันหน่อยก็นอนได้แล้ว ตอนนั้นเด็กๆ ตัวไม่โตหรอก

แต่ยังก่อนครับ เข้าห้องแล้วยังไม่นอนกันหรอก อิอิ ต้องอาบน้ำก่อน คืนนี้ต้องของแช่ตัวในอ่างอาบน้ำให้สะใจสักที เมื่อบ่ายแช่เดี๋ยวเดียวเอง

ผมอาบน้ำแล้วลงไปแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ อือม์ แสนสบายเลยครับ ยังนึกในใจว่าที่บ้านผมน่าจะเปลี่ยนจากตุ่มมาเป็นอ่างอาบน้ำบ้างก็ดี ไอ้นัยไม่ได้มาอาบด้วยครับ เพราะกลัวอามันรู้ว่าเราทำอะไรกันในห้องน้ำ อิอิ มันก็เลยนั่งเล่นเกมรอผมอยู่ในห้องนอน ก็ห้องติดกันแหละครับ

เมื่ออาบน้ำเสร็จ ผมก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา แล้วไอ้นัยก็เข้าไปอาบต่อ หลังจากนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับ ล็อคห้องเรียบร้อย ปิดไฟแล้วแก้ผ้านอนกัน เราปิดไฟเพดาน แล้วเปิดโคมไฟอ่านหนังสือที่โต๊ะเขียนหนังสือแทน ไฟสีเหลือง สลัวๆ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกครับ ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าโรแมนติกคืออะไร แต่มีความรู้สึกว่าอบอุ่นและมีความสุข

แสงไฟสีเหลืองนวลสาดส่องร่างเปลือยเปล่าของเราสองคนบนเตียง แหะๆ ยังงี้จะนอนหลับได้ยังไงละครับ ผมอดไม่ได้เอามือไปคลึงเคล้าน้องชายไอ้นัยเล่น ปลิ้นไปปลิ้นมา สักพักเดียวมันก็สู้มือ ไอ้นัยก็มาจับของผมเล่นมั่งเพื่อไม่ให้เสียเปรียบ

“ว่าวกันอีกรอบนะ นัย” ผมกระซิบเบาๆที่ข้างหูมัน น่าเสียดายมากครับ ตอนนั้นยังเด็กเกินไป ไม่ค่อยรู้ประสีประสา รู้แต่ชักว่าว แล้วก็ไถร่องก้นไอ้นัย ยังไม่ได้เรียนรู้เรื่องการจูบ การไซร้ การเล้าโลม ที่จริงคืนนั้นเป็นคืนที่...จะเรียกยังไงดีล่ะ ก็ต้องเรียกว่าโรแมนติกละครับ แม้ว่าศัพท์คำนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับวัยเด็กเท่าไร โรแมนติกมาก เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นๆ ลมหนาวพัดเข้ามาในห้องทำให้รู้สึกสบาย (สมัยนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ห้องแอร์กัน หน้าร้อนก็เปิดพัดลม เปิดหน้าต่างกว้างๆ หน้าหนาวก็เหลือแค่เปิดหน้าต่างแง้มๆ) มันเหมือนทั้งโลกมีแต่ผมกับไอ้นัย ถ้าย้อนเวลาได้อยากกลับไปไซร้ไอ้นัยในตอนนั้นจัง แต่ก็อย่างว่าละครับ เด็กก็คือเด็ก

ผมว่าวไอ้นัยเบาๆ ไอ้นัยก็ว่าวให้ผม สักพักผมก็ได้ความคิดใหม่ เท่าที่ผ่านมา มีแต่คนจับไอ้นัยชักว่าวทั้งนั้น ยังไม่เคยเห็นมันชักว่าวตัวเองสักที

“มึงว่าวตัวเองให้กูดูหน่อยสิ” ผมบอก

ไอ้นัยแสนจะว่าง่าย บอกยังไงก็ยังงั้น แล้วมันก็เริ่มชักว่าวให้ตัวเอง โดยมีผมนอนดูอยู่ข้างๆ หัวของมันตอนแข็งตัวปลิ้นออกมาได้แค่ครึ่งเดียว เวลาชักหัวมันจะผลุบเข้าผลุบออก สักพักใหญ่ๆ มันก็เริ่มสาวมือเร็วขึ้นๆ น้ำคงใกล้จะแตกเต็มที

“เฮ้ย เดี๋ยวเตียงเลอะ” ผมเตือนมัน เพราะรู้ว่าน้ำว่าวไอ้นัยพุ่งแรง แต่ไอ้นัยบอกไม่เป็นไร มือไม่ยอมหยุดชัก

สักพักมันก็หยุดชัก แล้วดึงหนังหุ้มปลายมาคลุมที่หัวควย บีบเอาไว้ ผมเห็นควยมันกระตุกอยู่หลายที แล้วหนังหุ้มปลายที่ส่วนหัวก็โป่งออก ยังงี้นี่เอง มันใช้นิ้วบีบหนังหุ้มปลายเอาไว้เพื่อไม่ให้น้ำทะลักออกมา เออ ไอเดียดีแฮะไอ้นี่ ผมยังนึกไม่ถึงเลย ของผมปกติจะปล่อยให้มันแตกออกมาแล้วเอาทิชชู่รองไว้

มันถอนใจดังเฮือกแล้วก็คลายนิ้วออกจากหนังหุ้มปลาย พอคลายนิ้วเท่านั้นแหละครับ น้ำว่าวทะลักพลั่กๆออกมาจากหนังหุ้มปลายเลอะท้องน้อยไปหมด ขนาดกลางวันออกไปแล้วหลายรอบ น้ำมันยังมีเหลือเยอะขนาดนี้

ภาพที่เห็นนั้นได้อารมณ์อย่างสุดๆ ผมทนไม่ไหว รับชักว่าวให้ตัวเองตามทันที และไม่นาน น้ำว่าวของผมก็แตกออกมา ผมไม่ต้องบีบปลายอย่างมันหรอกครับ เพราะตอนนั้นน้ำว่าวผมยังไม่พุ่ง แค่รินทะลักออกมากองที่โคนเท่านั้น

หลังจากนั้น เราก็เอาทิชชู่เช็ดเอา ขี้เกียจล้างตัวแล้วครับ เพราะน้ำมันเย็น แล้วก็แก้ผ้านอน ห่มผ้าผืนเดียวกัน หลับสบายไปเลย ตกลงวันนั้นเสร็จกันไปคนละ 4 รอบ

ก่อนจะหลับ ผมเอื้อมไปกอดไอ้นัยไว้ ร่างเปลือยเปล่าของเราสัมผัสกันโดยไร้เสื้อผ้ามากั้น เช่นเดียวกับสัมพันธภาพของเราที่ดูเหมือนจะสนิทแน่นแฟ้นขึ้น

“นัย” ผมเรียก ปกติจะเรียกไอ้นัยนะครับ น้อยครั้งที่จะเรียกนัยเฉยๆ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้สึกว่าอยากสุภาพกับมันสักหน่อย “ปิดเทอมมึงไปเที่ยวที่บ้านกูบ้าง ไปให้ได้นะ”

ไอ้นัยพยักหน้าตอบรับ

“สัญญาแล้วนะ ห้ามคืนคำ” ผมคาดคั้น ไอ้นัยพยักหน้าอีก

ผมกอดมันไว้ แล้วเราสองคนก็ผลอยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าคืนนั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีใครมานอนในอ้อมกอดของผม

1 comment:

INo said...

ฮือๆๆๆๆ อยากมีม้าง

ผมขอเล่านิดเดียวพอเน้อ ผมคิดว่าปี 2010 กลับไปไทยเมื่อไหร่จะแต่งห้องของตัว แล้วให้เพื่อนที่ผมชอบมากๆมานอนด้วย อิอิ เสียดายเมื่อปี 2008 ที่กลับไปพี่ชายกับพี่สะใภ้ต้องนอนรวมในห้องผม เลยไม่ได้ทำอะไรกับ เพื่อนคนนี้ อิอิ แต่ตอนนี้ก้อเศร้าคร้าบ เพื่อนผมคนนี้มันชายทั้งแท่งเลยไม่ค่อย ชอบผมสักเท่าไหร่ แถมตอนนี้ก้อมีแฟนใหม่อีกแล้วด้วย ผมขอพาวนาให้แฟนมันทิ้งตอนผมกลับไปไทย จะได้ไปนอนกับมันอีก อิอิ

พอละๆๆๆ

สะใจคร้าบบบบบบบบบบบบบ ไม่รู้แหะว่าจะคุยกับพี่อูตรงๆได้ยังไง ที่ผมเม้นอยู่นี้ก้อไม่รูพี่จะได้อ่านมั้งหรือป่าว ถ้ามีใครสามารถติดต่อพี่อูได้ ช่วยบอกให้หน่อยนะครับlogitecd@hotmail.com