Thursday, March 22, 2007

ตอนที่ 4

ก่อนจะเล่าต่อ ขอตอบคำถามก่อน ที่ถามว่าผมชื่ออะไรนั้น ชื่ออูครับ (ลืมบอกไปพอดีมีคนถามว่า “ผม” ในเรื่องนั้นชื่ออะไร เลยนึกได้ว่ายังไม่ได้บอก)

อีกเรื่องก็คือ ห้องน้ำที่โรงเรียนประจำที่ผมอยู่นั้น เป็นอย่างนั้นจริงๆ คือเป็นผนังครึ่งบนเป็นกระจกโล่ง ส่วนโรงเรียนอื่นจะเป็นอย่างนี้หรือเปล่าผมก็ไม่ทราบครับ เพราะว่าตั้งแต่เด็กมาก็อยู่โรงเรียนประจำคือที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น

ว่าแล้วก็เอาน้ำว่าวที่เลอะมือไปละเลงทั่วอกและหน้าท้องของไอ้นัย มันหัวเราะกึ๊กกั๊กด้วยความจั๊กกระจี้และโวยวายว่าเหม็นคาว

“อะไรวะ ของตัวเองทำเป็นรังเกียจ ไอ้อู ของมึงคาวเหมือนของไอ้นัยไหมวะ” ชัชหันมาถามผม
“ไม่รู้เว้ย ล้างไปแล้ว ถ้าอยากรู้มึงก็รอดมน้ำว่าวของมึงเองละกัน แต่อาจจะต้องรอหลายปีกว่ามึงจะมีน้ำ” ผมแซวมัน ผมมีน้ำว่าวแล้ว คราวนี้ล้อมันได้ ภูมิใจนิดๆ


บ่ายวันนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เอาหนังสือมานั่งอ่าน แล้วก็เกมกด ยังจำได้ไหมครับ สมัยสิบกว่าปีก่อน เกมกดเครื่องเล็กๆขนาดเท่าฝ่ามือ ฮิตมาก บางคนเล่นกันจนไม่เป็นอันกินอันนอน ตอนนั้นพวกผมติดเกมกด โดยเฉพาะเกม tetris งอมแงม พยายามทำแต้มแข่งกัน

ตกเย็นก็กินข้าว ปิดเทอมแล้ว เด็กที่อยู่หอจะหาซื้อข้าวกินเองที่ร้านหน้าโรงเรียนกันมากกว่า ผมกับไอ้ชัชก็ออกไปกินข้างนอกแล้วซื้อกลับมาฝากไอ้นัย ให้มันกินในห้องนอน ไม่อยากพามันออกมาจากเรือนนอนเพราะเดินเข้าๆออกๆเดี๋ยวใครเห็นจะเดือดร้อน รวมทั้งไม่ได้ดูทีวีด้วย คือทีวีเป็นห้องรวม ต้องลงไปข้างล่าง ถ้าลงไปก็มีโอกาสเจออาจารย์หรือแม่บ้าน อีกอย่าง นั่งเล่นเกมกดก็ไม่อยากดูทีวีแล้วครับ

หลังจากนั้นดึกๆก็ไปอาบน้ำกันอีกรอบ เตรียมตัวเข้านอน เมื่ออาบน้ำเสร็จ ผมกับชัชใส่ชุดนอน เป็นเสื้อแขนขาวและกางเกงขายาวบางๆ ใส่กางเกงใน ส่วนไอ้นัยนั้นใส่แต่กางเกงบอลบางๆ ไม่ใส่เสื้อ เสร็จแล้วก็มานั่งคุยกันที่เตียง ห้องนอนของเราไม่มีคนอื่นเลย มีแต่เราสามคน แต่ห้องอื่นในชั้นเดียวกันก็ยังมีคนอยู่ ห้องละสองสามคนบ้าง บางห้องอยู่คนเดียวก็มี เพราะนักเรียนคนอื่นกลับบ้านไปหมดแล้ว

เตียงของผมกับชัชนั้นอยู่ติดกัน อยู่ด้านในของห้อง เกือบเตียงสุดท้ายเลย ผมจัดให้ไอ้นัยนอนเตียงในสุด ชิดผนัง จะได้ไกลจากประตูหน่อย เผื่อมีใครมาเจอเข้า ผมนอนถัดออกมา บนเตียงของตัวเอง ไอ้ชัชก็นอนติดกับผม ถัดออกมาอีก


ไอ้นัยนั่งชันเข่าคุย ลองนึกดูสิครับ ใส่กางเกงบอลแล้วไม่ใส่กางเกงใน ทั้งไข่ทั้งกล้วยหอมก็โผล่ออกมาหมด ล่อตาล่อใจ ผมดูแล้วชักมีอารมณ์อีกแล้ว ตอนนั้นยังไม่รู้จักเรื่องเกย์หรือไม่เกย์หรอกครับ เพิ่งจะมารู้สึกว่ามีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันก็ตอนรู้จักกับไอ้นัยนี่แหละ เวลาจับดอมันเล่นเป็นต้องรู้สึกมีอารมณ์

“เฮ้ย นัย ควยโผล่แล้ว โตป่านนี้ยังไม่ใส่กางเกงในอีก” ชัชว่า ไอ้นัยนี่ทั้งกลางวันมันไม่ใส่กางเกงใน พวกเรารู้กันเพราะจับดอมันเล่นบ่อยๆ กลางวันมันไม่ใส่ แล้วกลางคืนมันจะไปใส่ทำไม แต่พวกเด็กหอส่วนใหญ่จะใส่กางเกงในนอนกันครับ ไม่ได้มีระเบียบบังคับหรอก แต่ส่วนใหญ่ทำกันแบบนี้ คงกลัวควยลุกตอนเช้ามั้ง ผมเองก็เป็น ควยลุกตอนเช้าๆดินไปไหนมาไหนไม่สะดวก

“มันอึดอัดว่ะ ไม่ชอบเลย” ไอ้นัยว่า “พวกเอ็งใส่เข้าไปได้ไงวะ ทั้งวันทั้งคืน ตอนนอนเราก็ใส่แค่นี้แหละ เราขี้ร้อน เสื้อก็ขี้เกียจใส่ บางทีกางเกงยังขี้เกียจใส่เลย”

“อ้าว ยังงี้ก็สวยสิ” ชัชว่า “งั้นคืนนี้มึงแก้ผ้านอนเลยมึง”

“ไม่เอาว้อย เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

ชัชเดินไปปิดไฟในห้อง ทั้งห้องมืดลงทันที คงเหลือแต่ไฟทางเดินนอกห้องสลัวๆเท่านั้น

“ปิดไฟให้แล้ว แน่จริงแก้ผ้านอนให้ดูหน่อยดิ” ชัชเริ่มซ่า คงนึกอยากแกล้งเพื่อน “ถ้าแก้ผ้านอนได้ กูยอมให้มึงเตะทีนึง” ไอ้นัยยังเฉย นั่งหัวเราะ

“มึงไม่ต้องไปท้าไอ้นัยหรอก จับมันแก้เองเลยดีกว่า” ผมว่า ว่าแล้วก็ไม่รอช้า จับไอ้นัยจี้เอว แล้วปล้ำเพื่อถอดกางเกงทันที แต่เล่นกันเบาๆนะครับ ไม่กล้าทำเสียงดัง กลัวนอกห้องได้ยิน

ไอ้นัยมันไม่เห็นจะขัดขืนอะไรเลยครับ บอกให้แก้มันไม่แก้ แต่จับมันแก้ผ้าไม่เห็นมันว่าอะไร นั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอีกต่างหากเพราะจั๊กจี้ ในที่สุดก็จับมันถอดกางเกงได้โดยง่าย ก็กางเกงบอลตัวเดียวนี่ครับ จะไปยากอะไร แล้วก็ยึดกางเกงมันเอาไว้โยนให้ไอ้ชัช

คราวนี้ไอ้นัยก็ล่อนจ้อนทั้งตัว แล้วก็โวยเบาๆ “เฮ้ย ยังงี้ใครจะไปนอนหลับวะ กลัวคนมาเห็น นี่มันไม่ใช่ที่บ้าน เอากางเกงมานี่” ว่าแล้วก็กระโดดลงจากเตียงล่อนจ้อนไปที่เตียงไอ้ชัชเพื่อเอากางเกงคืน

เตียงมันถ้าจะข้ามไปเตียงชัชต้องผ่านเตียงผม ตอนมันปีนผ่านเตียงผม ไม่รอช้า ผมรีบกอดเอวมันเอาไว้ ไม่ให้มันผ่านไปได้ แล้วทั้งผมและมันก็ล้มลงบนเตียง “ไม่ต้องไปไหน นอนทั้งยังงี้แหละ” ผมว่า

ตอนผมนอนกอดมันไว้รู้สึกแปลกๆครับ ตัวมันล่อนจ้อนทั้งตัว เรียบลื่น อบอุ่น ได้ความรู้สึก ได้อารมณ์ เป็นครั้งแรกที่ผมได้กอดผู้ชายด้วยกันที่เปลือยเปล่าทั้งตัว แม้แต่ไอ้ชัชที่สนิทกับผมและนอนเตียงติดกัน เคยชักว่าวในห้องน้ำกับมัน ก็ไม่เคยกอดมันแบบนี้และไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้ ดอของผมอยู่แถวตะโพกไอ้นัยพอดี พอมีอามรณ์มันก็เริ่มแข็งตัว

ผมกอดเอวไม่ปล่อย ไอ้นัยก็ไม่ได้ดิ้นรุนแรงอะไรนัก สักเดี๋ยวก็หยุดดิ้น “เฮ้ย เอากางเกงมา อย่าแกล้งกันเด่ะ” มันนอนพูดเสียงอ่อยๆ น่าสงสาร คล้ายคนถูกรังแกแล้วไม่มีทางสู้

“เอางี้” ไอ้ชัชว่า “มึงนั่งแก้ผ้าคุยกันก่อน แล้วเดี๋ยวตอนก่อนนอนจะคืนให้” ลืมบอกไปว่าไอ้ชัชนี่เรื่องไอเดียแกล้งคน สัปดน พิเรนทร์ เป็นที่หนึ่ง แม้จะยังเด็กอยู่ก็ตาม

“จะคุยอะไรวะ ไม่มีอะไรคุยแล้ว” แล้วก็เหลียวมาพูดกับผม “อู เลิกเอาควยทิ่มได้แล้ว เจ็บว่ะ” ดูดิ ตัวเองถูกจับแก้ผ้า มันยังมีอารมณ์เอาผมมาเผาอีก

“อ้าว ไอ้อูควยแข็งเหรอ” ไอ้ชัชว่า “จับไอ้นัยไว้นะ เดี๋ยวมันดิ้นหลุดแล้วเอากางเกงคืนได้” มันสั่งผม

ว่าแล้วตัวมันก็ลุกจากเตียงเดินมาที่เตียงผม ผมนึกว่ามันจะแกล้งไอ้นัย ที่ไหนได้ มันมากระชากเกงเกงนอนของผม กระชากรวดเดียวทั้งกางเกงนอนและกางเกงในลงไปกองที่ระดับหัวเข่า

“เฮ้ย ไอ้ห่า ไม่แกล้งไอ้นัย มาแกล้งกูทำไมวะ” ผมด่ามัน แต่ใจก็รู้สึกชอบครับ เพราะดอของผมได้สัมผัสถูไถกับก้นและตะโพกของไอ้นัยเต็มๆ ถูๆไปได้สักครู่ก็รู้สึกเสียวครับ เลยยิ่งถูใหญ่ ยิ่งตอนหลุดเข้าไปในร่องก้นมันยิ่งเสียวใหญ่ เอื้อมมือไปจับควยไอ้นัยดูปรากฏว่าแข็งรออยู่แล้ว ไม่รู้ว่าแข็งตั้งแต่เมื่อไร

“อ้าว ควยลุกกันทั้งคู่ งั้นไอ้อูชักว่าวให้ไอ้นัยมันที” ชัชสั่ง มันกลายเป็นผู้กำกับหนังเอ็กซ์ไปเสียแล้ว ผมเลยชักว่าวให้ไอ้นัย ส่วนตัวผมเองก็ถูไถกระดอไปตามก้นของไอ้นัย อารมณ์เซ็กซ์ทำให้ลืมไปว่าไอ้ชัชกำลังดูอยู่ ก้มหน้าก้มตาไถก้นอย่างเมามัน ตอนนั้นยังเอาไม่เป็นครับ ถ้าทำเป็นไอ้นัยคงเสร็จผมตั้งตอนนั้นไปแล้ว

ไอ้ชัชเห็นผมตั้งหน้าไถไอ้นัย คงมีอารมณ์เหมือนกัน เพราะเห็นมันรูดกางเกงลงมาแล้วว่าวตาม ส่วนไอ้นัยมันคงมีอารมณ์มากเป็นพิเศษ เพราะชักได้เดี๋ยวเดียว ควยมันก็กระตุก แล้วผมก็รู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆเลอะมือ เท่านั้นแหละครับ อารมณ์ของผมก็พุ่งถึงขีดสุดเหมือนกัน จำได้ว่าตอนน้ำแตกนั้น กระดอผมนาบอยู่ในร่องก้นของไอ้นัยพอดี ความรู้สึกนั้นยังฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้ และรู้สึกว่าร่องก้นของไอ้นัยนั้นมันวิเศษเหลือเกิน นั่นป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ว่าตูดของคนเรานั้นวิเศษเพียงใด

“เฮ้ย ชิบหาย” ผมตกใจ นึกอะไรขึ้นมาได้อย่าง “เตียงกู”

ใช่แล้วครับ ไอ้นัยมันปล่อยน้ำว่าวแตกลงบนเตียงผมนั่นเอง แล้วน้ำว่าวมันไม่ใช่หยดสองหยด

“เสียใจ ช้าไปแล้ว เมื่อกี้ว่าจะบอกนายก็บอกไม่ทัน คราวนี้ออกเยอะด้วย” ไอ้นัยพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ถ้าไฟสว่างผมนึกหน้ามันออกเลยว่าต้องพูดแบบทำหน้าตาเฉยเหมือนเคย

ไม่พูดเปล่า มันดิ้นลงไปนอนคว่ำหน้าบนเตียง แล้วทำตัวขยุกขยิก เหมือนกับจะเช็ดคราบน้ำว่าวกับผ้าปูที่นอน ไอ้ชัชหัวเราก๊าก “แย่แน่ ไอ้อู มึงจะบอกกับแม่บ้านยังไงวะ คราวนี้หึ่งแน่มึง”

“เออ แล้วจะบอกกับแม่บ้านยังไงวะเนี่ย บอกว่ากูว่าวกับไอ้นัยเหรอ” ผมพยายามหาทางออก

“มึงบอกว่าว่าวตัวเองบนเตียงดีกว่าว่ะ ดีกว่าบอกว่าจับไอ้นัยว่าว” ชัชพูดไปหัวเราะไป ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนไปกับผมสักนิด ก็แน่ละครับ เพราะไม่ใช่เตียงของมัน

“โด่เอ๊ย เด็กจริงๆ ไอ้ชัชเอ๊ย” ไอ้นัยทำเสียงเย้ย “ก็บอกว่าฝันเปียกสิวะ ง่ายจะตาย มันจะยากตรงไหน เออ แต่อย่างเอ็งไม่รู้หรอก เพราะยังไม่มีน้ำว่าว คงไม่รู้จักฝันเปียกหรอก”

เออ จริงด้วย แก้ตัวว่าฝันเปียกก็ไม่เลว เรื่องฝันเปียกนี่ก็พอจะรู้อยู่บ้าง แต่ไม่เคยเกิดกับตัวเอง พอคิดข้อแก้ตัวได้แล้วก็เลยไม่ค่อยกังวลเท่าไรแล้ว “แล้วมึงเคยฝันเปียกเหรอวะนัย” ผมถาม

“เคยดิ ช่วงก่อนฝันบ่อยๆ ทีแรกก็ทำเตียงเปื้อนเลอะเทอะไปหมด ตอนหลังเลยหาผ้ามาปูเพิ่มอีกชั้นนึง” ไอ้นัยเล่าให้ฟัง

“โห มึงฝันเปียกบ่อยๆเลยหรือวะ” ไอ้ชัชถาม

“เออ” มันตอบ “แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ฝันแล้วล่ะวะ”

“ทำไมล่ะ” ผมอยากรู้

“ก็ถ้าชักว่าวบ่อยๆแล้วมันจะไม่ค่อยฝัน” ไอ้นัยอธิบาย มิน่าละ ช่วงหลังถึงเห็นหัวถอกออกมาได้ ที่แท้ว่าวบ่อยๆนั่นเอง ขณะที่เราคุยกันนั้น ผมก็ยังกอดมันอยู่ (เพราะไม่อยากปล่อยเลย) ส่วนมือผมก็ยังจับกระดอไอ้นัย พอเล่าถึงตอนี้ก็รู้สึกว่ามันเริ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง ผมไม่รอช้า จับมันว่าวต่อ

“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว” ไอ้นัยว่า “เจ็บควยไปหมดแล้ว พอเถอะ”

ผมก็เลยเลิก หลังจากนั้นก็ใส่เสื้อผ้า และเปิดไฟ เอาทิชชู่มาเช็ดน้ำว่าวที่เลอะผ้าปูเตียงเท่าที่พอจะทำได้ น้ำว่าวไอ้นัยออกเยอะมากจริงๆ เป็นรอยดวงใหญ่เลย ทั้งๆที่เมื่อบ่ายก็แตกไปแล้วสองหน สรุปแล้วเราสามคนวันนี้แตกกันไปคนละสามรอบ เพลียเลยครับ

1 comment:

INo said...

แหมๆๆๆๆ

ผมอยากมีคนกอดมั้งจังคร้าบ
อยากรู้จิงๆ พี่อูเจอเหตุการ์แบบนี้หรอครับถึงเล่าได้ถึง ถึงไรดีอ่ะ หุหุ