Friday, May 18, 2007

ตอนที่ 31

วันรุ่งขึ้น ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ไอ้นัยฟังเช่นเคย คราวนี้มันไม่ทำตาโตแล้ว แต่มันทำหน้าสลดแทน

“เป็นไรไปว้า” ผมถาม

“อยากอยู่หอมั่งอ่ะ ทำไงดีวะ” ไอ้นัยพูดเสียงอ่อย ตีหน้าเศร้าๆให้น่าสงสาร ไอ้ชัชเลยเขกหัวมันไปหนึ่งป๊อก

“ไอ้เปรต เห็นทำหน้าเศร้า กูนึกว่ามึงเศร้าเรื่องอะไร ที่แท้ก็อยากไปอยู่หอด้วยกันนี่เอง” ไอ้ชัชพูด ว่าแล้วก็หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดปากให้ไอ้นัย ทำทีเป็นว่าเช็ดน้ำลายที่หกออกมา “ฟังจนน้ำลายหกเลยมึง”

“มึงไปบอกอามึงดิว่าอยากมาอยู่หอ ไม่อยากอยู่บ้านแล้ว” ผมยุ

“พอดีโดนไล่ออกจากบ้านแน่เลย บ้านมีอยู่ดันไม่อยากอยู่ อยู่หอมันเพิ่มอีกหลายตังนา ไม่ใช่อยู่ฟรีๆ อาไม่ยอมหรอก” ไอ้นัยว่า สายตาทอแววครุ่นคิด ท่าทางมันอยากจะมาอยู่หอจริงๆครับ ที่จริงก็ไม่แปลกหรอก เพราะตั้งที่พวกเราสามคน ไอ้นัย ไอ้ชัช แล้วก็ผม สนิทกันและมีอะไรกันช่วงปิดเทอม พวกเราสามคนก็สนิทกันมากและติดกันแจ ไอ้นัยมันก็เลยอยากมาอยู่กับพวกเรา ยิ่งพอรู้เรื่องไอ้พงษ์ มันเลยคิดว่าหอ ป.๖ นั้นคงสนุกน่ามาอยู่มาก

มันก็สนุกจริงๆนั่นแหละครับ แต่สนุกแบบเพี้ยนๆ เพราะหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ไอ้พงษ์มันก็กลายเป็นผู้สร้างวัฒนธรรมใหม่ขึ้นมาในหอ ชั้น ป.๖ นั่นคือมหกรรมชักว่าวหมู่ โดยมันมักจะเป็นหัวโจกคอยชวนเพื่อนๆให้ชักว่าวหมู่ตอนอาบน้ำอยู่เสมอ ส่วนมากต้องเป็นตอนหัวค่ำแก่ๆหน่อย หรือไม่ก็ดึก เพราะกลัวครูจะมาเห็นเข้า สมาชิกที่ร่วมอาบน้ำและว่าวหมู่ก็มากขึ้นๆ บางทีตั้งเจ็ดแปดคน ใครที่ชักว่าวไม่เป็นก็ชักเป็นกันตอนนี้แหละครับ

ไม่เพียงแค่เป็นผู้นำในการชักว่าว แต่ไอ้พงษ์มันยังวิปริตมากกว่านั้นอีก นั่นคือ มันชอบเอาควยไล่จิ้มเพื่อนๆ พอหลังจากที่มันปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่เข้าที่เข้าทางดีแล้ว คราวนี้ก็เริ่มซ่า เพราะมันถือว่ามันแก่กว่าทุกคนในหอชั้น ป.๖ เลยไม่ค่อยเกรงใจใคร อย่างเช่นเวลาอาบน้ำ ถ้าวันไหนไม่ชักว่าว บางทีมันก็ปั่นควยจนลุก แล้วเอาควยไล่จิ้มเพื่อนที่อาบน้ำอยู่เล่น บางทีอยู่ในห้องนอน ก็ยังเอาควยไล่จิ้มเพื่อนๆเล่นด้วยเหมือนกัน และนอกจากนี้ บางทีมันก็นอนชักว่าวโชว์เพื่อนๆบนเตียงนอนก็มี

เรื่องเอาควยไล่จิ้มในห้องนอนนี่ผมเคยเห็นมากับตา คือจิ้มนี่หมายความว่าเอาควยไปทิ่มตามตัวเพื่อนๆ ไม่ได้หมายความว่าไปจิ้มกินถั่วดำนะครับ มันแก้ผ้าแล้วก็เอาควยทิ่มเพื่อนเล่นในห้องนอน เพื่อนๆก็ฮือฮาหนีกันกระเจิง ไล่กันไปไล่กันมาอยู่อย่างนั้น ส่วนเรื่องชักว่าวโชว์บนเตียงนั้นไม่เคยเห็นเองครับ แต่เพื่อนห้องนอนเดียวกับมันเล่าให้ฟัง ซึ่งเชื่อได้เพราะว่าหลายคนก็เล่าตรงกัน
- - - - -

นอกจากเรื่องอุบาทว์ของไอ้พงษ์โรคจิตที่หอแล้ว ... ไปว่ามันอุบาทว์ พูดยังกับว่าตัวผมเองดีกว่ามันงั้นแหละ แหะๆ ... ตอนกลางวันขณะอยู่ในห้องเรียนมันก็แสดงความอุบาทว์หนักยิ่งขึ้น โดยมันชอบงัดควยออกมาโชว์บ่อยๆ บางทีก็ปั่นว่าวจนมันแข็งบ้าง แต่ไม่เต็มที่ แล้วก็เก็บกลับไป บางทีบ้าๆขึ้นไอ้พงษ์ก็เดินไปหลังห้องเพื่อปั่นว่าวโชว์พวกไอ้เชียร พวกหลังห้องกลุ่มไอ้เชียรก็เฮฮาจับจู๋กันตามเดิมแหละครับ พอได้ไอ้พงษ์มาโชว์แบบนี้ก็ยิ่งเฮกันใหญ่ แต่ไม่เคยเห็นไอ้พงษ์น้ำแตกในห้องเรียนนะครับ สงสัยว่าที่ไม่แตกเพราะไอ้พงษ์มันเป็นคนที่น้ำแตกยากนั่นเอง

ส่วนกลุ่มผมกับไอ้นัยน่ะเหรอ ถ้าอยู่ในห้องเรียนพวกเราจะเงียบๆครับ เป็นขาแจมดูคนอื่นโชว์มากกว่า เพราะว่ากลุ่มพวกผมนั่งกระจายกันตรงกลางห้อง ผมเองก็นั่งโต๊ะเดี่ยวติดผนัง จะเล่นอะไรกันก็ยากหน่อย อีกอย่าง ผมรู้นิสัยไอ้นัยมัน มันโชว์แบบเนียนๆ ไม่ชอบโชว์ห่ามๆแบบไอ้พงษ์หรือไอ้เชียร ส่วนตัวผมนั้นไม่กล้าโชว์ในห้องเรียนหรอกครับ อายจะตาย

ความใจกล้าหน้าด้านของไอ้พงษ์กับไอ้เชียรยิ่งหนักขึ้น หนักขึ้น ทุกที จนถึงขนาดชั่วโมงบันเทิงมันก็ยังกล้าทำ ต้องขออธิบายหน่อยว่าชั่วโมงบันเทิงคืออะไร คือสมัยก่อนเด็กนักเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนผมจะมีวิชาหนึ่ง เรียกชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว เออ แปลกเนาะ วิชานี้เรียนตั้งแต่เด็กจนโตแต่ดันจำชื่อไม่ได้ บางอย่างก็จำซะแม่น บางอย่างกลับลืมชนิดนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ขอเรียกว่าชั่วโมงบันเทิงก็แล้วกัน

วิชาที่ว่านี้สัปดาห์หนึ่งดูเหมือนจะเรียนสองสามครั้งนี่แหละครับ ที่จริงก็ไม่ได้เรียนอะไรหรอก เป็นการไปทำกิจกรรมสันทนาการด้วยการร้องเพลงน่ะ พวกเราก็จะมีหนังสือเพลงคนละเล่ม มีเพลงให้เลือกหลายร้อยเพลงเลย ทั้งเพลงไทย เพลงฝรั่ง เพลงไทยก็เป็นโอลดี้ พวกบัวขาว วอลตซ์นาวี กินกาแฟ อะไรประมาณนี้แหละครับ ส่วนเพลงฝรั่งก็พวกเพลงเด็ก หรือไม่ก็เพลงพื้นเมือง เช่น Danny Boy, Give me oil in my lamp, Old folks at home, Santa Lucia ฯลฯ มีเยอะแยะครับ

พอตอนเรียนก็ไม่ได้เรียนในห้องเรียนปกติ แต่จะเดินไปเรียนในห้องใหญ่อีกตึกหนึ่ง คาบนี้จะเป็นคาบที่เรียนรวมกันสี่ห้องเรียน (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ หรืออาจจะเรียนรวมกันมากกว่านั้นก็ได้) ห้องเรียนมีลักษณะเป็นห้องโถงใหญ่ ข้างหน้ามีเปียโน ตรงกลางเป็นทางเดิน ที่นั่งจะเป็นม้านั่งยาวอยู่สองฟากข้าง ม้านั่งยาวแต่ละตัวน่าจะจุเด็กนักเรียนได้สัก ๘-๑๐ คน ถ้าเล่าแล้วนึกภาพไม่ออกก็ลองนึกภาพโบสถ์ฝรั่งก็ได้ครับ ที่เวลาเราดูหนังฝรั่งแล้วเค้าไปแต่งงานกันในโบสถ์ หน้าตาคล้ายๆยังงั้นแหละ ... เฮ้อ ... เล่ามาขนาดนี้บางคนคงร้องอ๋อ แน่ใจแล้วว่าผมอยู่สำนักไหน พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ร่วมสำนักรู้แล้วอย่าเอ็ดไปนะครับ เพราะไอ้ที่ผมเล่ามาและจะเล่าต่อไปนั้นมันเรื่องเสื่อมเสียทั้งนั้น แหะๆ ที่จริงโรงเรียนเขาดี แต่นักเรียน (อย่างผม) มันเลวเอง ดังนั้นอย่าไปโทษโรงเรียนเลยครับ

วิชานี้ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งร้องเพลง เพลงครูคุย คือครูจะเล่นเปียโนสลับกับการคุย คล้ายๆทอล์คโชว์

วิชานี้แหละเป็นชั่วโมงที่พิสูจน์ความหน้าด้านหน้าทนของไอ้พงษ์กับไอ้เชียร เริ่มด้วยไอ้เชียรก่อน ไอ้นี่มันชอบเล่นจับจู๋กับเพื่อนๆในชั่วโมงบันเทิงนี้ สงสัยจะคนเยอะ มันเลยชอบเป็นพิเศษ แต่มันจะจับเป็นกลุ่มเล็กๆเฉพาะพวกที่นั่งติดกัน แล้วก็งัดจู๋ออกมาโชว์ ส่วนใหญ่คนอื่นไม่กล้าเอาออกมาหรอกครับ มีแต่ไอ้เชียรนี่แหละ เอาออกมาให้คนอื่นจับเล่น มีอยู่คราวหนึ่ง จับกันเล่นเพลินๆ โดนครูจับได้ คือจับได้ว่าไม่ตั้งใจเรียนและเล่นกัน เพราะเห็นนั่งจุ๊กจิ๊กกัน ก็โดนเรียกออกมาสอบสวนหน้าชั้นเลย ครูถามว่าพวกมันเล่นอะไรกัน พวกไอ้เชียรก็ได้แต่อ้ำอึ้ง แล้วก็ตอบว่าเปล่าไม่มีอะไร เลยโดนครูเขกกบาลทั้งแก๊ง แหม มันน่าจะบอกไปนะครับว่าจับควยกันอยู่

วิชานี้เวลาครูทำโทษจะไม่รุนแรงครับ ทำแบบตลกๆมากกว่า ก็บอกแล้วว่าเป็นวิชาแนวสันทนาการ วิธีทำโทษก็เช่นเขกหัวเบาๆ คล้ายๆตลกคาเฟ่นั่นแหละครับ บางทีก็เอาไม้เรียวพิเศษมาตี ไม้เรียวพิเศษที่ว่านี้คือเวลาตีมันจะไม่ค่อยเจ็บหรอกครับ ตีเบาๆแต่เสียงดังเพียะดังมาก เอาไว้ประกอบการแสดงตลกคาเฟ่ของครูเช่นกัน

แต่ไอ้เชียรมันก็ไม่ค่อยจะเข็ดครับ ชอบแอบโชว์จู๋ให้เพื่อนดูให้ห้องนี้เสมอ อาจจะมีคนสงสัยว่าโชว์ในห้องเรียนที่เรียนอยู่เป็นประจำยังไม่พอเหรอ ทำไมต้องมาโชว์ในชั่วโมงบันเทิงด้วย คำตอบก็คือเวลาโชว์ในห้องเรียน เพื่อนที่นั่งติดกันมันจะเป็นคนเดิมๆ แต่พอมาในห้องนี้เพื่อนที่นั่งติดกันจะไม่ใช่คนเดิมเสมอไป คือเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน แต่ไม่ได้นั่งที่นั่งตายตัว ดังนั้นมันจึงชอบเพราะได้มีโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศในการโชว์เพื่อนๆ นี่ผมคิดเหตุผลเอาเองนะครับ ไอ้เชียรมันไม่เคยบอก

ที่จริงมันก็ตื่นเต้นดีครับ เพราะว่าเวลาไอ้เชียรมันเล่นจู๋อยู่ เพื่อนๆแปดคนสิบคนที่นั่งม้านั่งยาวแถวเดียวกับมันจะรู้หมด คนเยอะสะใจดี

ทีนี้พอไอ้พงษ์เริ่มเรียนรู้ว่าการโชว์ในชั่วโมงบันเทิงนี้น่าตื่นเต้นกว่าในห้องเรียนอีก มันก็เลยเอาอย่างมั่ง โดยงัดควยออกมาปั่นเล่นบ้างในขณะร้องเพลง โห สุดยอดครับ สร้างความฮือฮาให้แก่เพื่อนๆได้เป็นอย่างดี เพราะเวลาไอ้เชียรมันโชว์ เพื่อนที่นั่งติดกันเท่านั้นจึงจะได้เห็นจู๋มัน เพราะมันยังเด็ก จู๋ยังเด็กๆอยู่ แต่ไอ้พงษ์นี่สิครับ เวลามันเอาขึ้นมาปั่น แท่งของมันขนาดมหึมา ขนาดคนที่นั่งเก้าอี้ยาวอีกฝั่งหนึ่งยังมองเห็นควยมันเลยครับ แล้วยังมีเก้าอี้ยาวข้างหน้าที่หันมามอง และข้างหลังก็ชะโงกมามองมันอีก แล้วบางทีคนที่นั่งแถวหน้า แถวหลัง หรือว่าแถวตรงข้าม ไม่ใช่ห้องเดียวกันกับพวกเราด้วย เรียกว่ามันปั่นควยทีนี่เรียกเสียงฮือฮาได้มากเลย จนเพื่อนห้องอื่นยังรู้กิตติศัพท์เลยครับว่าไอ้พงษ์มันชอบโชว์ควย

แต่ไอ้พงษ์โชว์ในชั่วโมงบันเทิงไม่ค่อยบ่อยนัก เพราะการโชว์ของมันแต่ละครั้งจะมีเสียงฮือฮาและเพื่อนๆจะชะโงกมามุงดู ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการถูกครูจับได้ยิ่งนัก ต้องรอโอกาสเหมาะจริงๆ เช่น ตอนครูหันไปเขียนกระดานนานๆ จึงจะงัดออกมาโชว์ได้ งัดออกมาปั่นแล้วก็รีบเก็บ เพราะพอมีเสียงฮือฮา ครูก็มักจะหันมาดู ถึงตอนนั้นมันก็เก็บของเรียบร้อยนั่งทำหน้าตาเฉยแล้ว

เป็นยังไงครับ ความอุบาทว์ของไอ้พงษ์

No comments: