Friday, January 1, 2010

ภาคสาม ตอนที่ 40

“ไอ้สัตว์นี่ มึงหักหลังพวกกู” ได้ยินเสียงจากเจ้าของมือที่เค้นลำคอผมอยู่ ไอ้เกรียงนั่นเอง “มึงจะเอาตัวรอดคนเดียวหรือไง”

ผมรู้สึกแน่นที่ลำคอ หายใจไม่ออก หัวก็กระแทกกับกำแพงจนมึนงง ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไอ้เกรียงก็ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของผมทันที

หมัดนั้นกระแทกเข้าที่ใต้ลิ้นปี่ ผมรู้สึกตัวเบาหวิว จากนั้นก็รู้สึกจุกและหายใจไม่ออก แข้งขาอ่อนแรงจนควบคุมไม่ได้ มีความรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจแต่ไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด

ก่อนที่เกรียงจะทำอะไรต่อไป เพื่อนๆก็รีบเข้ามาแยกมันออกไป ทันทีที่มันปล่อยมือ ผมก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น โชคดีที่มันต่อยเข้าใต้ลิ้นปี่ ไม่ได้ต่อยใส่ลิ้นปี่โดยตรง ไม่อย่างนั้นผมคงหมดสติไปแล้ว

เหตุการณ์ที่หน้าห้องเรียนวุ่นวาย เพื่อนกลุ่มหนึ่งแยกเกรียงออกไป ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้ามายืนบังผมเอาไว้ไม่ให้เกรียงฉวยโอกาสเข้ามาซ้ำได้ ตอนนั้นชุลมุนไปหมด ไม่รู้ว่าเพื่อนคนไหนที่ช่วยผมเอาไว้บ้าง ที่จริงตอนที่อยู่ชั้น ม.๔ นี้ผมไม่ค่อยสนิทกับใครนัก แต่ในยามคับขันก็ทำให้ผมได้เห็นน้ำใจของเพื่อนๆ

“ไอ้อู มึงเจอดีแน่ ระวังตัวเอาไว้” ได้ยินเสียงไอ้เกรียงฝากคำอาฆาตก่อนที่จะเดินจากไปหลังจากที่พยายามจะเข้ามาซ้ำผมอีกแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเพื่อนๆช่วยกันห้ามเอาไว้

เย็นวันนั้นผมกลับหอพักด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนัก เหตุการณ์เมื่อตอนหลังเลิกเรียนทำให้ผมกังวล ดูท่าไอ้เกรียงมันคงเล่นไม่เลิก ส่วนเวชและคนอื่นๆยังไม่รู้ว่าท่าทีเป็นอย่างไร ถ้ามันผูกใจเจ็บและเล่นไม่เลิกกับผมทุกคนผมคงลำบากแน่

ผมอดหวนนึกไปถึงเมื่อตอนเด็กไม่ได้ เหตุการณ์ตอนที่เตะฟุตบอลกับไอ้ทิวและเรื่องของไอ้ชิดยังแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง ประวัติศาสตร์ที่เกิดกับไอ้นัยหลายต่อหลายตอนกำลังมาซ้ำรอยที่ตัวผม แต่มาคิดอีกทีก็อาจจะดีเหมือนกัน เพราะมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าได้ชดใช้หนี้กรรมบางส่วนที่ผมได้ทำกับเพื่อนที่ผมรักมากที่สุดเอาไว้

- - -

วันรุ่งขึ้น

ผมเข้าไปในห้องเรียนในตอนเช้าอย่างระวังตัวเต็มที่ แลเห็นเวชและพวกกำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ที่โต๊ะของตนเอง เมื่อพวกมันเห็นผมเดินเข้ามาก็ทำตัวเป็นปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมรู้สึกหนาวๆร้อนๆเพราะที่นั่งของผมติดกับเวช ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็คงถึงตัวผมทันที

เมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นเด็ก ผมค่อนข้างมุทะลุ แต่พอมาตอนนี้จะทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ตอนนี้เรื่องที่ผมกลัวที่สุดคือการต้องกลับไปเรียนที่บ้าน หากเกิดเรื่องชกต่อยเกิดขึ้นส่วนมากผู้ใหญ่มักจะตัดสินให้ผิดทั้งสองฝ่ายเนื่องจากถือคติตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง และเมื่อพ่อกับแม่รู้เข้าผมก็คงเรียนที่กรุงเทพฯต่อไปไม่ได้เพราะว่าอยู่แล้วมีแต่สร้างปัญหา ดังนั้นหนทางที่ผมจะได้เรียนอยู่ในกรุงเทพฯต่อไปก็คือต้องอดทนจนถึงที่สุดและพยายามไม่ให้เกิดเรื่องขึ้น แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนไปได้มากน้อยเพียงใด

“อ้าว น้องอู มาแล้วเหรอ” เกรียงแสยะยิ้มทักทายผม เมื่อเหลือบไปดูเวชและคนอื่นๆ เห็นทุกคนกำลังจ้องมาที่ผม พวกมันนั่งนิ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาเล่นงานผมแต่อย่างใด จึงทำให้ผมโล่งใจขึ้นมาหน่อย คิดว่าถ้าเป็นเวลาในระหว่างวันพวกมันคงไม่กล้าทำอะไร หากมันจะทำก็คงทำหลังเลิกเรียน ถ้าเลิกเรียนผมพยายามระวังตัวก็อาจจะพอหลบเลี่ยงพ้นได้

ผมพยายามฝืนยิ้ม ไม่พูดอะไร เมื่อถึงโต๊ะก็วางเป้ลงบนเก้าอี้จากนั้นหยิบสมุดการบ้านออกมาเพื่อจะเอาไปส่งที่โต๊ะ

“โอ๊ย” ขณะที่ผมรีบเดินออกไปทางหน้าห้องเพื่อเอาสมุดการบ้านไปส่งนั้นเอง ผมก็รู้สึกว่าขาของผมสะดุดกับอะไรเข้าอย่างแรง อะไรบางอย่างนั้นทั้งขัดขาและตวัดอย่างแรงจนผมเสียหลักและล้มลงไปตรงทางเดินระหว่างโต๊ะนั่นเอง

ผมล้มลงไปนอนวัดพื้นที่ตรงทางเดิน ชายโครงถูกมุมโต๊ะเรียนกระแทกจนเจ็บ แต่โชคดีที่ส่วนใบหน้าไม่ได้กระแทกกับอะไรเข้า

“อ้าว ไอ้อู เป็นอะไรไปวะ” เสียงใครก็ไม่รู้เรียกผม ตอนนั้นยังมึนๆ จำแนกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร

จากนั้นผมก็รู้สึกว่าเส้นผมบนหัวถูกจิกขึ้นมา แม้จะไว้ผมสั้นเนื่องจากต้องเรียน รด. แต่มันก็ยังยาวพอที่จะจิกได้ติด

“เอ้า ลุกขึ้น เจ็บมากไหม” เจ้าของเสียงและเจ้าของมือที่จิกหัวของผมก็คือเวชนั่นเอง และผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเจ้าของเท้าที่สอดเข้ามาขัดขาผมจนล้มด้วย

ผมลุกขึ้นมาตามแรงมือของมัน เมื่อลุกขึ้นได้ก็ปัดมือของมันออกและเตรียมจะโถมเข้าไปหามัน แบบนี้มันเกินไปแล้ว

ในวินาทีที่ผมตั้งใจจะตอบโต้นั้นเอง ผมกลับคิดอะไรขึ้นมาได้หลายๆอย่าง พวกของเวชมีตั้งสี่คนในขณะที่ผมมีเพียงคนเดียว แถมเวชยังเป็นตัวหัวโจกอีกด้วย ถ้าผมตอบโต้มันเรื่องราวคงบานปลายอย่างไม่รู้จบสิ้น

แต่ถ้าจะไม่ตอบโต้มัน ผมคงกลายเป็นไอ้ขี้ขลาด ทั้งเวชและทุกๆคนในห้องคงคิดว่าผมขี้ขลาดจนไม่กล้าสู้กับใคร... ถึงแม้จะสู้ไม่ได้แต่ผมคงยอมให้เพื่อนๆดูถูกผมแบบนั้นไม่ได้แน่ อีกอย่าง ในเมื่อมันข่มเหงได้ครั้งหนึ่งมันก็คงทำได้อีกเรื่อยๆ

ก่อนที่สติผมจะถูกบดบังด้วยความโกรธจนหมดสิ้น ผมหวนคิดถึงเพื่อนที่ผมรักที่สุดขึ้นมา... ในวันที่ไอ้ชิดรังแกมัน มันไม่เคยสู้เลย แต่ผมก็ไม่เคยคิดว่ามันขี้ขลาด ผมรู้ว่ามันไม่เคยยอมก้มหัวให้ไอ้ชิดถึงแม้ว่าจะสู้ไม่ได้ก็ตาม แต่ที่มันไม่สู้เพราะการใช้ความรุนแรงไม่ใช่วิธีของมันต่างหาก

ถ้ามันทนได้ ผมก็ต้องทนให้ได้ ตอนเด็กๆมีแต่ผมที่ทำให้มันเดือดร้อน ความทุกข์ในวันนี้ถือเสียว่าทำให้ผมได้มีโอกาสร่วมทุกข์ร่วมสุข... ได้ร่วมเผชิญชะตากรรมกับเพื่อนที่ดีที่สุดของผมก็แล้วกัน... แม้ว่ามันจะสายไปแล้วก็ตาม

ผมถอยออกมา... เก็บสมุดการบ้านขึ้นจากพื้นห้อง จากนั้นเอาไปส่งที่โต๊ะ และเดินออกจากห้องมา... พยายามทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อารมณ์ในขณะนั้นมันปั่นป่วนไปหมด ทั้งอับอาย ทั้งเจ็บแค้น และทั้งอับจน

- - -

“เฮ้ย ไอ้อู ศิษย์ถ่อย” เสียงไอ้กี้ทักผมขณะที่เรายืนเข้าแถวเคารพธงชาติในสนาม ผมกับมันยืนติดกัน “เมื่อกี้ได้ยินว่ามีเรื่องเหรอ”

“ไม่มีอะไรหรอก” ผมพยายามไม่อยากรื้อฟื้นถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก คิดแล้วก็เจ็บใจ ผมเองก็ไม่แน่ใจนักว่าที่ยอมมันไปเมื่อเช้านั้นถูกหรือผิด ปกติผมมักทำอะไรไม่เคยถูกเสียด้วย

“ตายห่าแน่มึง ไปมีเรื่องกับไอ้พวกเหี้ยนี่เข้า” กี้พูดเสียงเบา “นี่แหละ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด”

“แล้วมึงจะมาสอนกูทำห่าอะไรตอนนี้วะ ทำไมเมื่อก่อนไม่พูด” ผมเริ่มอารมณ์เสีย ปากมันนี่น่าไปผ่าเอาหมาออกมาเสียจริงๆ

“แล้วมึงเคยมาปรึกษากูบ้างมั้ยล่ะ” ไอ้กี้ย้อน เออ จริงของมัน แต่ว่ามันก็ไม่เชิง ปากมันเสียขนาดนี้ใครจะอยากไปปรึกษามัน ผมคิดแต่ไม่อยากพูดออกไป

“เฮ้ย มึงระวังไว้นะไอ้อู กูได้ยินพวกมันคุยกันว่าจะจองเวรกับมึงไปจนจบ ม.๖ เลย” ไอ้กี้พูดอีก

ใจของผมฝ่อลงในทันที ทุกปีจะมีการคละห้องกันใหม่ แต่ว่าเมื่ออยู่ชั้น ม.ปลาย แล้วก็จะต้องอยู่ร่วมชั้นกันไปจบจบ ม.๖ อย่างนี้ไม่เรียกว่าซวยก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

“มึงสู้พวกมันไม่ไหวหรอก ไปบอกอาจารย์วารีดีกว่า เผื่ออาจารย์จะมาทางออก” ไอ้กี้แนะนำ

เมื่อก่อนผมรู้สึกปรารถนาดีกับเวช แต่ผลสุดท้ายกลายเป็นเวชตามมาจองเวรผม ขณะที่ผมไม่ค่อยชอบไอ้กี้เพราะว่าปากมันเสีย แต่ในยามเดือดร้อนมันกลับพยายามช่วยเหลือ ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ

- - -

การเรียนในวันนั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทั้งวันผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องปฏิบัติการจองเวรของเวชและเพื่อนๆ พวกมันพยายามทำสงครามประสาทโดยพูดเยาะเย้ยถากถางต่างๆนานา ผมพยายามระวังจนตัวแจแต่ว่าวันนั้นทั้งวันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก จนถึงเวลาเลิกเรียน ผมรีบออกจากห้องไปพร้อมกับอาจารย์ที่สอนวิชาในคาบสุดท้ายทันที โบราณว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ผมจึงอาศัยอาจารย์เป็นเกราะคุ้มครองเพื่อหลบเลี่ยงเวชและพวก เมื่อพ้นจากห้องก็ตรงไปที่ห้องสมุดทันที

เซ็งฉิบหาย ผมบ่นกับตนเองในใจ อยู่ในห้องสมุดก็ไม่มีอะไรทำ จะกลับหอพักตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำเช่นกัน แถมกลัวว่าจะเจอพวกมันที่ป้ายรถเมล์อีกต่างหาก ผมอดคิดไม่ได้ว่าแค่วันเดียวยังเอาตัวแทบไม่รอด แล้วเวลาที่เหลืออีกสองปีกว่าผมจะหลบเลี่ยงจากพวกนี้ไปจนตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร แค่คิดแล้วก็ท้อแล้ว

ผมอดคิดถึงบอยไม่ได้ คิดถึงมันแต่ว่ายังไม่อยากเจอหน้ามันในตอนนี้ ผมคลำที่ชายโครงของตนเอง อาการเจ็บชายโครงจากการล้มกระแทกโต๊ะเมื่อเช้ายังคงมีอยู่ ผมรู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่ขี้แพ้ ไม่เอาไหน เรียนก็ไม่เก่ง จะเกเรก็ไม่สำเร็จ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง แม้แต่ตนเองยังไม่ภูมิใจในตนเอง แล้วไอ้บอยจะรู้สึกภูมิใจในตัวรุ่นพี่ของมันได้อย่างไร คิดไปก็รู้สึกอับอายใจ ทำให้ไม่อยากไปพบหน้ามัน

“ใจลอยคิดถึงใครเหรอฮะ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ข้างหูของผม “วันนี้ไม่ไปเช่าหนังสือเหรอ”

ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร ไอ้บอยนั่นเอง วันนี้ไม่อยากเจอมันก็กลับได้เจอ มันอ้อมมานั่งตรงหน้าผม ใบหน้ายิ้มแฉ่งบ่งบอกความอารมณ์ดี

“คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ” ผมตอบ

“เห็นพี่อูคิดอะไรคิดจนใจลอยทุกที ไม่เคยเห็นคิดนิดหน่อยเลย วางแผนจะขยายธุรกิจอะไรเหรอฮะ” ไอ้บอยเหน็บแนม

“วันนี้ไม่มีเวรเหรอ” ผมหันเหหัวข้อสนทนา จำได้ว่าวันนี้เป็นเวรไอ้บอยที่สหกรณ์

“มาคืนหนังสือก่อนน่ะพี่อู เดี๋ยวโดนปรับ ไม่อยากเสียเงิน” บอยหัวเราะ “พี่อู พี่อู รู้ไหมว่าพรุ่งนี้เป็นวันอะไร”

“รู้ดิ วันเสาร์” ผมตอบ

บอยถอนใจ ทำหน้าเหมือนกลุ้มใจเต็มประดา

“โอ๊ย พี่อูนี่ วันเสาร์น่ะรู้แล้ว” บอยพูด

“อ้อ วันคริสต์มาสน่ะ” ผมตอบใหม่

“เฮอะ พี่อูไม่รู้จักหน้าที่อีกแล้ว” ไอ้บอยเปลี่ยนจากสีหน้ากลุ้มใจเป็นไม่พอใจ เวลาที่มันทำสีหน้าไม่พอใจดูน่าขำจนผมอดหัวเราะไม่ได้ รู้สึกว่าอารมณ์ที่ตึงเครียดผ่อนคลายไปได้มาก

“หน้าที่อะไรล่ะ” ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“มีเทศกาลสำคัญก็ต้องพาบอยไปเลี้ยงดิ” ไอ้บอยพูดหน้าตาย ทวงเอาดื้อๆเลย เวลาที่มันตีหน้าตายนี่ช่างเหมือนกับ...

“เฮ้อ” ผมแกล้งถอนหายใจ “พี่ไปติดหนี้นายตั้งแต่ชาติไหนวะ ถึงได้ต้องคอยตามเลี้ยงอยู่เนี่ย”

“ถือเป็นเกียรติแล้วนะพี่อู” ไอ้บอยหัวเราะ “บอยไม่เคยให้รุ่นพี่คนไหนเลี้ยงเลย มีแต่พี่อูคนเดียว”

ไม่รู้ว่ามันพูดเล่นหรือว่าจงใจ แต่ประโยคที่ว่า มีแต่พี่อูคนเดียว ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นวูบขึ้นมาในหัวใจอย่างประหลาด

- - -

วันคริสต์มาส

วันคริสต์มาสในปีนั้นตรงกับวันเสาร์ ผมมีนัดกับบอยในตอนเย็นที่สยามสแควร์

บอยอยากชมสีสันของเทศกาลคริสต์มาสที่สยามสแควร์อันเป็นแหล่งรวมของวัยรุ่นในยุคนั้น ใจจริงแล้วผมไม่อยากมาเที่ยวที่นี่กับบอยในช่วงเทศกาลเช่นนี้เลย มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มันเหมือนกับว่าผมกำลังรอใครบางคนอยู่... รอเพื่อมาฉลองคริสต์มาสกันที่สยามสแควร์อันเป็นสถานที่โปรดของเราสองคน... ผมยังไม่พร้อมที่จะมาฉลองคริสต์มาสกับบอยที่นี่ คราวก่อนมาเที่ยวกับบอยที่นี่ตอนปิดเทอมผมก็รู้สึกแปลกๆมาทีหนึ่งแล้ว แต่แล้วในที่สุดผมก็ขัดใจบอยไม่ลง

ผมกับบอยนัดกันในวลาเย็นที่หน้าโรงหนังสกาล่า เหตุที่นัดกันในเวลาเย็นก็เพราะบอยอยากเห็นความคึกคักของสยามสแควร์ในยามกลางวันและแสงสีของเทศกาลคริสต์มาสในยามค่ำคืน จึงนัดกันในตอนเย็นจะได้เห็นทั้งสองช่วงเวลา

บอยในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนดูเติบโตกว่าตอนอยู่ในชุดนักเรียนมาก เมื่ออยู่ในชุดนักเรียน บอยดูเหมือนเด็กซนๆคนหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ในชุดไปเที่ยวเช่นนี้บอยดูเป็นวัยรุ่นที่สดใส กระตือรือร้น อยากเรียนรู้และแสวงหาเส้นทางชีวิตของตนเอง... ปราศจากเค้าของเด็กน้อยอีกต่อไป

“หวัดดีพี่อู” บอยทักทายเมื่อเห็นผม มือข้างหนึ่งของบอยหิ้วถุงเล็กๆใบหนึ่งอยู่

“หวัดดีบอย” ผมทักตอบ “มานานแล้วเหรอ”

“สักพักเองฮะ” บอยตอบ

“นายอยากทำอะไรบ้างล่ะวันนี้” ผมถาม แม้ว่าวันนี้บอยจะดูน่ารักและสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่หัวใจผมกลับไพล่ไปคิดถึงคนอีกคนหนึ่งแทน

“ไปเดินดูทั่วๆกันก่อนพี่อู อยากดูว่ามีอะไรบ้าง” บอยออกความคิด

บรรยากาศยามเย็นที่สยามสแควร์ในวันนั้นคึกคักกว่าวันเสาร์ในยามปกติ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มีทั้งที่เดินเป็นกลุ่มและที่เดินกันเป็นคู่ มีการตั้งเวทีชั่วคราวขึ้นที่ลานจอดรถ ค่ำนี้คงมีการแสดงดนตรีให้ชมกัน ร้านรวงหลายแห่งพ่นกระจกหน้าร้านให้เป็นรูปต้นคริสต์มาส บางแห่งก็เปิดเพลงคริสต์มาส บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและรื่นเริง

“แวะกินโดนัทกันก่อนพี่อู บอยอยากกิน” บอยพูดขึ้นขณะที่เราเดินผ่านร้านโดนัท

“กินอย่างอื่นดีกว่า” ผมขัด รู้สึกไม่ค่อยดี ไม่อยากพาบอยเข้าร้านโดนัทเลย

“ไม่เอาอะ บอยจะกินโดนัท” บอยพูด ไม่พูดเปล่า คว้ามือผมลากเข้าไปในร้านทันที


<ร้านรวงหลายแห่งพ่นกระจกหน้าร้านให้เป็นรูปต้นคริสต์มาส บางแห่งก็เปิดเพลงคริสต์มาส บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและรื่นเริง>


<“แวะกินโดนัทกันก่อนพี่อู บอยอยากกิน” บอยพูดขึ้นขณะที่เราเดินผ่านร้านโดนัท>

44 comments:

Choo said...

ปีใหม่ 2553 ผมขออวยพรให้อู พี่ๆน้องๆ หลานๆ ประสบแต่ความสำเร็จในทุกๆ ด้านที่ตั้งใจครับ. สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ เป็นที่รักของคนรอบข้าง ตลอดปีและตลอดไป...เพี้ยง

ชู

January 1, 2010 12:15 AM

Anonymous said...

รักอาอู ช้ากว่าอาชู T-T

Anonymous said...

ง่ารักช้าไม่พอ ลืมลงชื่ออีก

หลาน Arus ของอาอู

yo408 said...

คนที่3
มาลงชื่อฉลองปีใหม่ 2553 แก่ขึ้นอีก1ปีแล้วละสิเรา

Fryderyk C. said...

สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะครับ อาอู ขอให้สิ่งดีๆ ที่อาอูมอบให้ผู้อ่านทุกท่าน จงย้อนกลับไปหาอานะครับ ให้อาได้เจอแต่สิ่งดีๆ ครับ และยังไง จะติดตามเรื่องนี้ตลอดไปแน่นอนครับ สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านด้วยนะครับ

Fryderyk C.

Eiky Tian said...

Happy New Year!!!
สวัสดีปีใหม่ ครับพี่อู สุข สดชื่นสมหวัง นะครับ รออ่านอยู่ทุกวันเลย เป็นกำลังใจให้นะครับ
**O.O**
May the sun bless you gentle light,
May the wind kiss you sweet goodnight,
May the moon sing you a lullably,
Send all hearts wish you Happy New Year!!!!

O.O

Anonymous said...

)^_^(ที่7ของปี ขอให้ลุงอูและทุกคนมีความสุขมากๆ ไม่เจ็บป่วย มีเงินเยอะๆ กินอิ่มๆ มีความรักที่สมหวัง มีคนรักมากมาย สนุกสนานตลอดปีด้วเทอญสาธุ happy new year

พี said...

Happy New Year@2010
Wish you and family have very...very HAPPY in this year and next,have GOOD HEALTH,and are the RICH of money and goodthings.

สวัสดีปีใหม่ครับคุณอู และทุกๆคน ข้อความอวยพรด้านบนนั้นเป็นข้อความอวยพรเพื่อนๆและเพื่อนร่วมงานผมประจำปีนี้ ในบอร์ดนี้ก็เป็นเพื่อน...ร่วมบอร์ดเลยขอเอามาอวยพรด้วยครับ

+ P +

นนท์ said...

ปีใหม่ผมก็ขอให้อาอูมีมุขภาพเเข็งเเรง สุขภาพดี
มีเงินทองไหลมาเทอมา มีความสุขมากๆนะคับ คิดสิ่งใดก็ขอใก้สมความปรารถนานะคับ
ทุกๆคนในบล็อกทุกท่านเลยนะคับ

Anonymous said...

เย้ ที่สุดผมก็เข้าผับได้แว้ว

Anonymous said...

11.... happy new year ครับ

แบงค์ครับ

Anonymous said...

happy new year 2010.


IC

Anonymous said...

มา Happy new year อาอูครับ น่าเสียดายที่ัวันนี้ผมต้องเดินทางไปเชียงใหม่ คงมาอ่านเรื่องของอาอูไม่ทันแน่เลย ยังไงก็ขอบคุณอาอูที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่มีคุณค่า ให้กับผู้อ่านมาหลายปี ขอบคุณอาอูจริงๆ
ขอให้อาอูและผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมากๆนะครับ
Oliver

Anonymous said...

แก่ขึ้นมาอีกหนึ่งปีแล้ว

...จะดีใจดีไหมนี่

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่นะครับอาอู คุณอาคุณลุง พี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกคนด้วยคับ

ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆน้า สมหวัง+แฮปปี้นะค้าบ

ช่วงนี้ผมแทบไม่ได้เข้ามาคุยด้วยเลย คิดถึงทุกคนคับ
จะสอบเข้าแล้วอ่ะ ตื่นเต้นๆ ยุ่งมากคับ ทั้งงานรร.กะอ่านหนังสือสอบ
ไว้สอบได้แล้วจาเข้ามาคุยด้วยอีกน้า

แค่นี้ก่อนนะ พอดีไม่ได้เล่นในคอม จิิิ้มมาเกือบ20นาทีแล้วคับ 55
โชคดีค้าบ ทุกๆคน

Sea~~!!

Anonymous said...

���ʴջ����� 2553 �� ������դ����آ�ء椹�Ф� �ҡ������������ҹẺ�������������������͹��͹ �����������Դ˹ֺ��� �������ҹ�����t�����͹�á ������ǹ���� net ���á������ check ��͹�������յ͹����������� ��ҹ������֡�١�ѹ�Ѻ����Ф� ����������Ҥ���¹�վ����ä��ҡ�㹡����¹ �դ��������´��͹㹡�ö��·ʹ��������֡���������Թ仴��µ�ʹ���� �س�zѵԢͧ�س����������ҧ����������ҡ����ͧ��ǹ�� ����������һ��ʺ��ó����ҹ�� ���������w����س���繼���������t���¨�ԧ� �ѹ�˹��ҹ���֧�͹���ҹ��ͧ������ ������͹�Ѻ��ǹ˹�觢ͧ���Ե(online)����

�����

Anonymous said...

ใหม่แล้ว เอาคงตอบคนแรกสินะ คุคุคุ

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

วันนี้ขอโพสต์เพื่อเอา timestamp 00.00 น. เอาฤกษ์เอาชัย ขอชิงที่หนึ่งกับเขาบ้าง

คนเขียนก็เขียนมาหลายปีแล้ว คนอ่านก็อ่านมาเป็นเวลาหลายปีเช่นกัน

สถิติคนเข้าเว็บบล็อกนี้สูงสุดอยู่วันที่ 12 กันยายน 2552 มี 809 คนในวันนั้น ส่วนสถิติเดือนที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดก็คือเดือนสิงหาคม 2552 มี 19,044 คน เทียบกับในปีแรกๆของบล็อกนี้ที่มีผู้เข้าชมไม่ถึงร้อยคนในแต่ละวัน

ขอขอบคุณสำหรับพรของทุกคน ยิ่งนานผมยิ่งรู้สึกว่าเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันมากยิ่งขึ้นทุกวัน มันทำให้ผมไม่รู้สึกว่าการอัปเดตเป็นภาระเลย ตรงกันข้าม กลับเป็นความสุขอย่างหนึ่ง

ปีหนึ่งผ่านไป บางคนก็รู้สึกว่าหนึ่งปีช่างสั้นนัก บางคนก็ว่าช่างยาวนาน บางคนหนึ่งปีที่ผ่านมาหมายถึงการเติบโตและงอกงาม บางคนกลับหมายถึงความโรยรา บางคนหมายถึงความตื่นเต้นเร้าใจของชีวิต บางคนหมายถึงเวลาที่เหลือน้อยลงไปทุกที แต่ว่าเวลายุติธรรมเสมอภาคกับทุกคน ไม่ว่าใครจะรู้สึกอย่างไร เวลาก็ยังเดินต่อไป ดังนั้นจึงควรใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างอดีตอันงดงามที่มีค่าควรแก่การหวนระลึกถึง และเพื่อเราจะได้ไม่นึกเสียใจหรือเสียดายเวลาที่ผ่านไป

จะอวยพระอะไรดีล่ะ อวยพรไม่เก่งครับ พรอะไรก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าพรจากความอุตสาหะและมานะของตนเอง ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขและความสำเร็จสมตามความเพียรของตนครับ


อู


ปล. คอมเมนต์ข้างบนอ่านไม่ได้เลยครับ ขอใหม่อีกสักทีก็ดี

Anonymous said...

กลัวอาเวช กับอาเกรียงจะโคจรมาพบกับอาบอยนี่สิ = ="

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

)^_^( สวัสดีเช้าครับนี่คนเข้ามาทีหลังก็ไม่ได้เห็นที่ลุงมาลงคนแรกของปีสินะหุหุ ได้เลยวันนี้จะไปกินโดนัทที่mbkบ้าง แล้วก็จะขึ้นไปดูหนังสือกาตูนต่อ ตอนนี้ไม่เม้นดีกว่าแต่ภาวนาขอให้พวกนั้นอย่าตกลุงจะได้พ้นซะที อย่าลืมกินข้าวนะครับ

All about Rose said...

สวัสดี ปีใหม่ค่ะทุกคน

Rose

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่คับ อู
ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหนนะคับ
อยู่เบื้องหลังคับ
คิดถึงอูเสมอ
KTB

Anonymous said...

ตอนนี้นัดหน้องบอยหน้าสกาล่าซะด้วย

ขออวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรง มีสติรู้เท่าทันจิต
เพื่้่อที่จะได้ละวางไม่เกิดทุกข์

เท่าที่อ่้านๆดู หลังอูก็มีัสติและไตร่ตรองได้ีดี

thom

Anonymous said...

หลานที่เท่าไรก็ไม่รู้ เอาแต่กิน ระวังอ้วน หรือจะอ้วนไปแล้วก็ไม่รู้ หลาน arus ไปฉลองที่ไหนเอามาเล่าบ้างสิ หลานโอลิเวอร์ด้วย เที่ยวเผื่ออาบ้างหรือเปล่า

สวัสดีปีใหม่ครับคุณกุหลาบ ขอบคุณต้อมสำหรับพรปีใหม่ ยังมีนนท์ eiky IC พี ฟ้า ทะเล แบงค์ และโย รวมถึงทุกๆคน ตกหล่นใครไปขออภัยด้วย หลานเฟรเดอริกน่าจะเล่นเปียโนใส่ youtube ให้อาฟัง พูดจริงๆนะครับ อยากฟังฝีมือดนตรีของหลานๆ รอฟังฝีมือไวโอลินของ arus ก็ยังไม่เล่นให้ฟังเสียที

ใครเข้าผับได้ละนี่ ไม่ลงชื่อเลยไม่รู้ว่าใคร แต่ก็ดีใจด้วยครับ ระวังอีกหน่อยจะเป็นเหมือนโย ไม่อยากให้เวลาหมุนไป ขอให้หยุดที่อายุยี่สิบกว่าๆก็พอ

ปีใหม่คิดถึงเพื่อนเก่า ยังคิดถึง KTB เด็กหลัง รร กร และอีกหลายๆคน คงสบายดีมีชีวิตที่ราบรื่นกันทุกคน

ตอนนี้ยังไม่เห็นบุคคลสำคัญเข้าในคอมเมนต์เลย พี่ชูไปตามตัวมาหน่อยสิครับ เอ... หรือจะถูกพี่ชูลวงไป

อู

Anonymous said...

มือสั่น ปลายนิ้วสั่น ไม่กล้าเล่นน่ะครับ

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

อิอิ วันนี้ผมได้เล่นคอมด้วยแหละ ฮืออ คิดถึงที่สุดเลย

มะวานมะได้ออนในคอม เลยพิมได้นิดเดว ผมพิมแค่นั้นก้เหนื่อยจาแย่แล้วคับ - -

เหนพรอาอูแล้วเสียวเลย "ขอให้ทุกคนมีความสุขและความสำเร็จสมตามความเพียรของตนครับ" โห ผมยิ่งขี้เกียจๆยุ จาไปรอดมะเนี่ย ไม่ต้องห่วงคับ เพราะตอนนี้ก้ขยันแบบที่มะเคยเปนมาก่อนแล้ว ขอให้ขยันพอให้สมพรอาอูนะครับ T^T(ถ้าสอบเข้ามะติดจะโทษพรของอาอูเลย อิอิ)

ปีนี้ผมดีใจนะคับ ปีใหม่ปีนี้ไม่ค่อยมีข่าวเรื่องร้ายๆมากนัก ปีที่แล้วเจอซานติก้าเข้าไป ขอให้ปีนี้เปนปีดีๆของทุกๆคนนะคับ ปีสำคัญของผมเหมือนกัน และคงจะเปนปีที่สำคัญของเพื่อนๆอีกหลายคนด้วย ยังไงก้ขอให้ทุกๆคนมีความสุขมากๆนคับ อย่าลืมคนที่เรารักเราห่วงด้วยล่ะ อิอิ ปีใหม่ปีนี้ก้ยุกรุงเทพ มะได้ไปไหน รถว่างมากกกกกกกกกกกกกกกก อยากจะถ่ายรุปไว้จิงๆเลย 55 ที่จอดรถสยามว่างทุกชั้น!! แต่ที่เซนเวิลคนเยอะมากคับ วันเค้าท์ดาว มีนักร้องตั้งหลายคนไปร่วมงาน ขอให้ปีนี้นั้นเปนปีแห่งความสุขของทุกคนนะคับ รักษาสุขภาพเอาไว้ด้วย เปนปีใหม่ๆทั้งทีเนาะ เรามาเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆที่ดีๆดีกว่าครับ ขอให้มีความสุขมากๆนะค้าบ

เอาเพลงมาฝาก เพลงของคุณลูกเป็ดขี้เหร่
I finally found someone - BarBra Streisand : http://www.youtube.com/watch?v=NlifzBLlWr0&feature=related

ปล.พิมเยอะหน่อยนะคับ ไม่ได้พิมนาน อิอิ
ปล.2 คิดถึงทุกคนคับ เดะสอบติดแล้วจะเข้ามาบ่อยๆเลย

Sea~~!!

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่ครับ พี่อู

ขอขอบคุณสำหรับความสุขใจที่ได้รับในการได้ติดตามอ่านนิยายของพี่ในปีที่ผ่านมา และคำอวยพรของพี่ที่ได้ให้ไว้ (ชอบมากจนต้องขอนำไปอวยพรให้คนอื่นแบบนี้บ้างครับ กินใจดี ขออนุญาต นะครับพี่อู)
ผมก้อขอให้พี่อู และเพื่อน ๆ พี่ น้อง ทุก ๆ คนมีความสุขมาก ๆ ในปีใหม่นี้และทุกปีตลอดไปครับ
### รอติดตามผลงานตอนต่อไปอยู่นะครับ ###

ไก่

nai said...

มาช้าดีกว่าไม่มานะครับ พระเอกส่วนใหญ่จะมาตอนจบของเรื่องครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอพรที่อู และหลานหลาน น้องน้อง พี่พี่ อวยพรมา ข้างบน จงย้อนกลับสู่ผู้อวยพรทุกคน เป็น ร้อยเท่า พันเท่า.....ล้านล้านเท่าครับ

ไหนไหนก็ปี่ใหม่ทั้งที่ ขอถามคำถามที่เป็นที่สุดสัก 2-3 คำถาม ครับ

คำถามแรก ถามอู ว่าในรอบปีทีผ่านมา เมื่ออ่านคอมเมนต์แล้ว รู้สึกประทับใจ ชอบใจ อมยิ้ม มุขแปลกๆ อันไหนที่สุด ไม่จำเป็นต้องตอบคอมเม้นต์เดียว และ ไม่ต้องกลับไปย้อนอ่าน ให้นึกเอาจากความรู้สึกครับ และห้ามตอบว่าชอบทุกคอมเมนต์ด้วยครับและห้ามตอบว่าวันหลังก็รู้ บังคับให้ตอบว่างั้นเถอะ

คำถามที่สอง ถามหลานหลานพี่พี่น้องน้อง ว่า อ่านเรื่องของอู แล้ว ชอบ ประทับใจ อมยิ้ม ตอนไหน วลีไหน คำพูดไหนที่สุด เหมือนกันครับไม่ต้องกลับไปย้อนอ่านให้ตอบจากความรู้สึก ความทรงจำ ไม่จำเป็นต้องตอบตอนเดียว คำพูดเดียวครับ ชอบหรือประทับใจ หลายตอบ หลายคำพูด ก็ตอบได้ ห้ามตอบว่าชอบทั้งหมดครับ เพราะเป็นคำถามที่สุด

สนุก สนุก ครับ

นัย

Choo said...

นัยกลับมาแล้วนะครับอู ผมไม่ได้ลวงนัยของอูไปไหน เข้าใจแล้วนะครับ

กลับมาปีใหม่ ถามอะไรเนี้ยอยากจังเลย ขอตอบไม่ตรงคำถามดีกว่า ชอบการเม้นต์ของหลานๆ ทุกคนครับ แต่ที่ประทับใจมากๆ จะเป็นการเม้นต์ของหลานทะเลครับ ผมว่าเด็กคนนี้มีเสน่ มีจินตนาการ มีความฝัน มีความสดใส คล้ายๆ น้องบอยในเรื่องที่อูกำลังเขียนถึงพอดี

อย่างไรก็ขออวยพรให้หลานทะเลสอบติด ได้เรียนต่อชั้น ม.ปลายในโรงเรียนที่หวังไว้นะครับ

ชู

ปล. ของ IC ก็เก๋นะครับ สั้นๆ แต่บทจะแซวก็แสบน่าดู

Anonymous said...

คนสำคัญมาแล้ว มาพร้อมกับคำถาม

ถ้าให้นึกแล้วตอบทันที ถ้าถามถึงถ้อยคำ ยามกะทันหันนี่นึกได้ประโยค "รักอาอู" ครับ มีอยู่คนเดียวที่บอกรักผม นอกนั้นไม่รักผมเลย ไปรักนัยกันหมด

ถ้าเป็นบุคคลที่คอมเมนต์ ประทับใจกุหลาบ Rose ครับ เพราะเป็นผู้หญิงคนแรกที่แสดงตัวคอมเมนต์ในบล็อกนี้ สังเกตเอาจากชื่อ เพราะชายคงไม่ใช้ชื่อทำนองนี้ หลังจากนั้นก็มีคุณเด็กแว่นและแตงแสดงความเห็นตามมาอีก แสดงว่าบล็อกนี้ก็มีผู้หญิงอ่านหลายคนอยู่

ถ้าเป็นมุข ประทับใจนัยครับ มุข ;boyp ผมชอบมาก

ถ้าเป็นเนื้อหาที่คอมเมนต์ ประทับใจพี่ชู เพราะคอมเมนต์ยาวกว่าใคร เหนื่อยกว่าใคร ให้ค่าความเหนื่อยยากครับ


ตอบแบบนี้พอใจเจ้านายหรือยังครับ บังคับกันเสียเรื่อยเชียว ตามใจนายมาตั้งแต่เด็กแล้วยังต้องมาตามใจตอนโตอีก


หลานทะเลอย่ามาโทษพรของอาสิ เพราะว่าอาให้พรก็เท่ากับไม่ได้ให้พร เนื่องจากต้องทำเอาเองจึงจะได้ ดังนั้นถ้าเกิดความผิดพลาดประการใด อาไม่รับผิดชอบครับ แต่ถ้าหลายสอบติด อาจะติดสินบน เอ้อ ให้รางวัล หลานด้วยการให้อาชูพาไปกินที่... ที่ไหนดีล่ะ MK ละกัน จากนั้นตามด้วยหนังอีกหนึ่งรอบ พร้อมป๊อบคอร์นกับน้ำอัดลม ดีไหม

อู

ปล. สังเกตว่าหนิงหายไป

;boyp said...

ชอบหลายๆ วลี หลายคำพูดที่ อู ใช้ในเนื้อเรื่อง เช่น พี่อูไม่รู้จักหน้าอีกแล้ว อ่านแล้วอมยิ้มทุกครั้ง

อย่างบางคำก็อบอุ่นดี เช่น ตอนที่อูให้ของกล่องกีต้า แล้ว..........เสร็จแล้วนัยพูดว่า วันนี้ดีจัง

ส่วนคำที่อ่านแล้วเศร้าจังเลย ก็ อูมึงโกรธกูมากมั้ย นัยกูคิดถึงมึงที่สุดเลย อูเราต้องจากกันแล้วนะ คิดถึงมึงนะ อย่าใจร้อนละ

ส่วนตอนที่ประทับใจ เช่น ตอนพินกพีโอจมูกยาว ตอนชัชบอกรัก ตอนความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องก่อนไปสนามบิน ตอนกินโดนันบนรถเมล์

ตอนที่หดหู่ จิตตก น่าจะเป็นตอนอ่านจดหมายของนัย 3 ฉบับ ตอนที่อยู่ที่สนามบิน และตอนนัยอยู่ในห้องน้ำที่สยาม

อ่านแล้วสุขไปด้วยก็หลายตอน ตอนหัดขี่จักรยานยนต์ งานวัดของบอย ที่สำคัญทุกตอนที่บึงน้ำส่วนตัวครับ

;boyp

Anonymous said...

ผมเป็นคนคิดเยอะ
ผมก็เลยชอบเนื้อเรื่องที่ต้องจดจำรำลึกไว้
จากนั้นก็มีเหตุการณ์ทำให้ย้อนรอยขึ้น

ตัวอย่างจากตอนใกล้ๆ ทำให้ทุกคนเข้าใจคือ
โดนัทครึ่งอันกับลูกชิ้นครึ่งไม้
รังลับที่โรงเรียน(โต๊ะห้องสมุด)เทียบบึงน้ำ
การรังแกของอาชิต กับอาเวช

จากนั้นก็มานึกถึงกรณีที่น่าสนใจ
ความกริ่งเกรงว่าอาเวช อาเกรียงจะมาเกี่ยวข้อง
กับอาบอย
อาบอยจะรักกับอาอูไหม
อาชัชจะโผล่มาเมื่อไหร่
เอ๊ะๆ ใครๆ ก็รักอาอู

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

ผมแอบอ่านมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้คอมเม้นท์ ถ้าคอมเม้นท์ก็ไม่ได้ใส่ชื่อ ไม่รู้ดิครับว่าทำไม สงสัยไม่มีนามแฝงเหมือนคนอื่นเค้า
ตอบคำถามพี่นัยดีกว่า น่าสนุก
ตอนที่มีความสุข อ่านแล้วอมยิ้มคือตอนที่ นัยเล่นกีตาร์ให้อูฟังเพลงไรนะ จำไม่ได้ที่บึงอ่ะ กีตาร์บอกรัก ฮ่าๆ หลับฝันดีเลยคืนนั้น

ตอนที่ประทับใจ คือตอนที่อูแต่งเพลงรักให้นัยอ่ะ หวานกันจริงๆ สงสัยจดหมายรักคงถึงมือเจ้าของแล้วกระมัง

ตอนที่สะเทือนใจและอึ้งรับประทานที่สุด คือตอนที่อูจ๊ะเอ๋กะนัยที่ห้องน้ำ อึ้งจริงๆครับ หักมุมได้สะเทือนใจมาก

และตอนที่เศร้าที่สุด เล่นเอาผมกินไรไม่ได้ไปหลายวัน น้ำหนักลดไปหลายโล คือตอนจบภาคสอง ที่อูไปส่งนัยไม่ทัน
แต่เชื่อมะ ตอนที่ผมอ่านซ้ำไปซ้ำมาเป็นสิบรอบได้ คือตอนจดหมายของนัยทั้งสามฉบับ บรรยายได้เศร้ากินใจมาก

ฺBomber Boy said...

สวัสดีปีใหม่นะครับ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน

หวังว่าพี่อู พี่ชู ยังจำได้นะ

Anonymous said...

โดนอาอูทักว่าหายไปด้วยแหละ แหะๆ

ความจริงได้อ่านตอนนี้แล้วที่ร้านเน็ตที่บางแสน แต่ไม่อยากเม้นที่นั่นเพราะคงไม่ได้อารมณ์

ปีใหม่ทุกปีหลานหนิงทำงานหนักมากๆๆๆๆ ครับ

อย่างปีนี้มีงานดนตรีติดต่อกัน6วัน ทั้งแบกเครื่อง คุมเครื่องเสียง ร้องเพลงด้วยแหะๆ เหนื่อย แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน นอนดึกทุกคืนเลย อีกทั้งที่บ้านก็ไม่มีเน็ตด้วย เลยขาดการติดต่อไป

อ่านตอนนี้แล้วก็แบบว่า เห้ออ นิดนึง แอบคิดว่าเวฃจะเข้าข้างอาชูต่อไปซะอีก แต่ก็ไม่แน่ ยังมีคนประเภทที่ชอบแกล้งคนที่เราแอบรักนะ

ตอบคำถามอานัย ชอบตอนไหนหรอ อืมม ชอบตอนที่มาอ่านจดหมายแล้วที่อาอูเพิ่งรู้ว่า เพลงที่อานัย(ในเรื่อง)ร้องให้ฟังแท้ที่จริงแล้วเป็นเพลงบอกรักต่างหาก แต่อาอูดันตีความว่าอานัยลองภูมิภาษาอังกฤษ อ่านตอนแรก แอบโกรธนายอูที่ไม่ประสา แล้วก็เสียใจในบทสรุปสุดท้ายที่ต้องจากกัน แต่พอมานั่งติดดูหลังๆ จากที่หายจิตตกไปสักพัก ก็ให้ความรู้สึกในอีกแบบ ว่า คนเรานี่ชอบบอกอะไรกับคนอื่นแบบอ้อมน้ำอ้อมทะเลเนาะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกกันตรงๆ ชอบให้คิดให้เดาไปต่างๆนานา บ้าที่สุด

เห็นหลายๆคนพูดถึงเรื่องจดหมาย อยากบอกว่าเป็นตอนที่อ่านซ้ำแค่รอบเดียว เพราะมันไม่ไหว อ่านแล้วหายใจไม่เต็มปอด จิตตก แต่ชอบอ่านตอนสยิวๆ(ชอบแต่อ่านรอบเดียว) กับตอนที่อาอูสวีทกับ ตัวละครอื่นๆมากกว่า โดยเฉพาะ คู่อาอู+อานัย กับอาอู+น้องบอย คู่อาอู+อานัยอ่านแล้วได้ความรู้สึกเหมือนรักในอุดมคติ ประมาณคนสองคนจับมือกันท่ามกลางถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่กำลังปลิดใบ (เว่อร์ไปป่ะ ^ ^ ) ส่วนกับน้องบอยให้ความรู้สึกลุ้นดี อยากให้รักกันซะที แหะๆ เพราะเท่าที่ดู สองคนนี้น่าจะเข้ากันที่สุดแล้ว ถ้าให้เราเป็นคนเลือกแทนอาอู อีกอย่าง ผมชอบคนที่เค้าชอบเทคแคร์เราอะ แหะๆ สเปคเลยเป็นคนอายุมาก กร๊ากก

ช่วงนี้เดินทางไปบางแสนบ่อย ด้วยเหตุผลส่วนตัว ใครอยากสอบถามข้อมูลอะไรบอกได้นะคร้าบ

สุดท้ายขออวยพรปีใหม่ให้ทุกๆคนในนี้เจอแต่ความสุขแล้วกัน คิดแต่สิ่งดีๆ มีชัยไปกว่าครึ่งตามกฏแห่งแรงดึงดูดนะครับ

สุดท้ายจริงๆ ไม่ได้บอกอาอูนานแล้ว ขอให้อาอูได้เจอกับอานัยในเร็ววันนะครับ

ปล. แอบถอนใจ ใกล้เรียนจบ และออกวิจัยฝุ่นแล้วสิเรา เห้อออ

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่ครับ

ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

น้อย ส.ฎ.

Anonymous said...

บทที่กินใจมากคือตอนที่อูไปสนามบินและส่งนัยไม่ทัน ต่อมน้ำตาแตกเลย

ตอนที่เศร้าและสะเทือนใจมากๆคือตอนที่อูอ่านจดหมายจากนัย ทำไมเนื้อความในจดหมายถึงได้ทำร้ายความรู้สึกคนอ่านได้มากขนาดนี้นะ

ชอบประโยคหากินของน้องบอย พี่อูไม่รู้หน้าที่อีกแล้ว >.< ประโยคนี้หากินได้จริงๆ เพราะพูดทีไรพี่อูต้องพาไปเลี้ยง

Choo said...

ยังระลึกถึงเรื่อยๆ ครับ Bomber Man

ดีใจที่ได้เจอครับ IC ก็เช่นกัน

ส่วนผมประทับใจตั้งแต่ภาคแรก ยัน ภาคสามตอนที่ 40เลยครับ ชอบแบบเหมาเข่งเลยละกัน

แต่ที่ไม่ชอบมากๆ มีตอนเดียวแต่กล่าวถึงหลายหน คือ ตอนที่อูชอบตำหนิตัวเองว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้นัยต้องเป็นเกย์และเป็นต้นเหตุที่ทำให้นัยต้องถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศ

ขอยืนยันว่า มันไม่ใช่ความผิดของอูหรือของใครหรอกครับ มันเป็นชะตากรรมร่วมกันมากกว่า

ชู

Anonymous said...

เห็นด้วยกับอาชูด้านบนเลยครับ ส่วนตอนที่ชอบมากของผมก็เป็นตอนที่อาอูอ่านจดหมายสามฉบับของอานัยนั่นแหละครับ อ่านแล้วน้ำตาจะปริ่มขึ้นมาตลอดเลย ที่อยากบอกอีกอย่างก็คือ ผมก็รักอาอูนะครับ อาอูอย่าพึ่งน้อยใจไป ไม่รักผมคงไม่มาค้อมเม้นต์ให้อาอูของผมหรอกครับ
ป.ล.กลับจากเชียงใหม่ เชียงราย ปาย คราวนี้รู้สึกดีมาก เอาความประทับใจครั้งนี้มาฝากอาอูกับทุกๆคนเลยนะครับ
Oliver

พี said...

ดันกระทู้ให้เท่ากับตอนก่อน...

สำหรับผม ชอบตอนที่มีความสุขครับ ที่เศร้าๆ คุณอูก็เขียนได้ซึ้งกินใจแต่...ไม่อยากจำมากครับ

ตอนที่ประทับใจมากๆเลย ก็คงเป็นตอนไปเที่ยวบึงน้ำที่บ้านสวนของอู ที่ไปแค่อูกับนัยนะครับ ตอนนี้จะตอนที่อีโรติกมาก ที่มีบทเซ็กส์ผสมมานิดหน่อย

ในบรรยากาศที่โรแมนติกมากๆ แบบธรรมชาติ การได้กอดก่ายสัมผัสร่างกายที่เปลือยเปล่ากันและกันในน้ำ ผืนหญ้าท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ เหมือนกับในตอนนั้นโลกทั้งใบมีกันเพียงแค่ 2 คน ผมว่าตอนนี้น่าจะเป็นตอนที่ ทั้งสองได้มีเวลาให้กันและกันมากที่สุด ได้แสดงออกถึงความรู้สึกต้องการทางเพศที่มีต่อกัน และที่สำคัญที่สุดได้แสดงออกถึงความรู้สึกทางใจ แม้ว่าจะไม่ได้บอกรัก...กันก็ตามที

ก็...บึงน้ำหรือสระน้ำนี่มันมีความหลังกับผมน่ะ ตอนป.5-ป.6 นี่ล่ะ แต่คงไม่ติดฝุ่นของอูกับนัย แค่เด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทกัน 2 คนแก้ผ้าเล่นน้ำกัน แล้วก็เล่นแผลงๆนิดหน่อย แต่ก็ทำให้ผมชอบมาจนทุกวันนี้

ส่วนประโยคที่ผมชอบมากที่สุด อ่านแล้วอมยิ้มได้ ตอนแรกว่า จะเอาของนัย ตอนนี้ขอเป็นของน้องบอยก็แล้วกัน เอาใจช่วยอยู่นะครับ มีคนบอกชอบไปบ้างแล้ว

" พี่อูไม่รู้จักหน้าอีกแล้ว "

อ่านแล้วอมยิ้มทุกที อยากให้มีน้องๆ มาพูดกับตัวเองแบบนี้บ้างจัง ตอนนี้ก็พยายามอยู่...

+ P +

Eiky Tian said...

พี่ อู ขอเศร้าหน่อยนะครับ

อ่านเรื่องนี้ก่อนปีใหม่ ตอนเข้าเวรกะดึก จิตตกไป พักนึก เศร้าตอนที่นัย โดนจับได้ในห้องน้ำ จิตตกมาก จนหลังปีใหม่ แฟนบอกเลิกเลย กะว่าจะไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ ก็เสียใจนะครับ ไม่รู้ทำไม ที่จริงแฟนผมเขาก็ไม่เข้าใจเองล่ะ หรือผม เงียบเกินเหมือน พี่อูในเรื่อง ที่ควรจะพูดก็ไม่พูด แต่ช่างมันเถอะ ยังรักพี่อู นะครับ ไม่วาจะยังไง ก็ รอนะครับ

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่ครับอู
ติดตามเรื่องของอูมาและเป็นกำลังใจตลอด แต่บางทีก็ไม่ค่อยมีเวลามาคุย ปีใหม่มีสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตขอให้เป็นสิ่งที่ดีๆ และขอให้พบแต่ความสุขอย่ามีเรื่องทุกข์เลยนะ
ments42

Anonymous said...

คิดเอาไว้เหมือนกัน ถ้าถึง ments 42 น่าจะเข้ามาคอมเม้นต์ให้อู
อยากอ่านตอนใหม่แล้วละครับ อู

หลานหลาน พี่พี่ น้องน้อง เข้าตอบคำถามถึงความประทับใจต่างๆในเนื้อเรื่องแล้ว ได้โปรดเข้ามาปิดคอมเมนต์ตอนนี้ด้วยนะครับ เจ้านาย

เจ้านายอีกที

Anonymous said...

ผมประทับใจที่สุดตอนที่อูจะตามไปส่งนัยที่สนามบินครับ เพราะเหมือนกับการที่เรารู้ว่าเรายังมีโอกาสได้บอกความรู้สึกกับคนที่เรารักที่สุด แม้ว่ามันอาจจะสายไป อ่านจบตอนแล้ว ผมเศร้าไปเลยครับ
ส่วนตอนอื่น ๆ ก็คงเป็นตอนที่อูกับน้องบอย ได้ไปเที่ยวงานภูเขาทอง และงานดูพลุด้วยกัน อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นดีครับ โดยเฉพาะตอนอูจับมือน้องบอย

ปล. แอบลุ้นให้อูกับน้องบอยได้เป็นแฟนกันนะครับ

ขอเป็นแฟนคลับของพี่อูอีกคนนะครับ

ไก่