Tuesday, June 5, 2007

ตอนที่ 36

“เอ้อ... ไม่รู้ดิ ...” ไอ้นัยเอ้อๆอ้าๆ

“เอาแต่ไม่รู้ดิอยู่นั่นแหละ เมื่อไหร่มึงจะรู้เสียทีฟะ” ไอ้ชัชแทรกขึ้นมา ท่าทางอยากรู้เต็มแก่ไม่แพ้ผม

“ใจนึงอยากไปเรียน เพราะอยากทำให้อาดีใจน่ะ อาหวังเอาไว้มาก แต่อีกใจที่ไม่อยากไป...ก็เพราะ...ก็เพราะ...พวกมึงนั่นแหละ” เฮ้อ ในที่สุดไอ้นัยก็พูดออกมาเสียที ว่ามันก็แคร์ผมกับไอ้ชัชอยู่ ถึงแม้จะไม่พูดตรงๆ แต่แค่นี้ก็เข้าใจกันแล้ว

“ก็แค่นี้แหละ ทำไมถึงได้พูดยากพูดเย็นนักวะ” ไอ้ชัชยังไม่วายบ่นใส่ไอ้นัย

“กูไม่เห็นมึงพูดอะไรออกมาเลย ดูๆไปยังกับว่ามึงอยากไปยังงั้นแหละ” ผมพูดออกไปตรงๆ

“ก็มันยังคิดอะไรไม่ออกนี่หว่า จะให้พูดอะไรล่ะ” ไอ้นัยว่า มันคงไม่ได้แก้ตัวหรอกครับ คงจะคิดอะไรไม่ออกจริงๆ เลยทำเฉยๆเอาไว้ก่อน

“นี่ถ้าไม่ได้เรียนพิเศษ สงสัยสอบเข้าไม่ได้แน่เลย” ไอ้ชัชพูดอย่างท้อๆ

เด็กส่วนใหญ่ในตอนนั้นก็คิดกันแบบนี้แหละครับ ถ้าได้เรียนพิเศษก็มีความมั่นใจมากขึ้น ใครที่ไม่ได้เรียนจะรู้สึกเสียเปรียบมาก ดังนั้นทุกคนที่อยากย้ายโรงเรียนจึงพยายามดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ได้เรียนพิเศษ

ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะว่ายังไง เพราะถ้าพ่อไม่ให้เงินก็ไม่มีทางจะได้เรียน ตกลงคงมีไอ้นัยเพียงคนเดียวที่ได้เรียน ถ้าเป็นยังงั้น โอกาสที่พวกเราจะได้เรียน ม.๑ ร่วมกันก็คงมีน้อยลง ยกเว้นสอบกันไม่ติดทั้งสามคน

“เอางี้ดิ ไอ้นัย มึงก็แกล้งสอบให้มันไม่ติดสิวะ สอบติดน่ะมันยาก สอบให้มันไม่ติดน่ะมันง่ายจะตาย เท่านี้มึงก็ได้เรียนที่เดิม ไม่ต้องย้ายไปไหน” ไอ้ชัชออกความคิด ที่จริงผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่ทันได้พูด ใจจริงถ้าเลือกได้ อยากให้สอบติดทั้งสามคนและได้ไปเรียนที่ใหม่มากกว่า ดูมันจะมีความหมายมากกว่าสอบไม่ติดแล้วต้องมาแป้กอยู่ที่เดิม

“ไม่รู้ดิ” ไอ้นัยพูดประโยคเดิมอีก วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร พูดแต่ไม่รู้ดิอยู่นั่นแหละ “กูไม่อยากทำให้อาผิดหวังน่ะ”

เฮ้อ หนักใจครับ เพิ่ง ป.๖ เอง เริ่มหนักใจกับชีวิตเสียแล้ว แต่ยุคนั้นเป็นยังงี้จริงๆ ช่วง ป.๖ เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเลยทีเดียว

หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งกินกันเงียบๆ ไอ้นัยเห็นผมกับไอ้ชัชเซ็งๆ มันก็เลยหาเรื่องชวนคุย

“เออนี่ กูมีอะไรจะบอก” ไอ้นัยพูด แล้วทำสีหน้าลึกลับ มันทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว ต้องมีอะไรดีๆแน่เลย

“อะไรล่ะ” ไอ้ชัชพูด ปกติถ้าเป็นสถานการณ์แบบนี้ มันต้องต่อปากต่อคำ แต่วันนี้มันเพียงแค่ถามแบบเนือยๆ เพราะอารมณ์ยังบ่จอยอยู่

- - - -

แหม ไอ้นัยมันเล่นพูดแบบนี้ผมก็สนใจสิครับ

“อะไรล่ะ” ผมถาม

“เดี๋ยว ขอกินข้าวก่อน หิว” ไอ้นัยมามุขเดิมๆอีก แต่ก็เรียกรอยยิ้มจากผมกับไอ้ชัชได้ เรารู้ดีว่ามันกำลังพยายามทำให้ผมกับไอ้ชัชอารมณ์ดีขึ้น คราวนี้เลยไม่มีใครเขกหัวมัน ไม่อย่างนั้นมันคงบ่นอีกว่าฉี่รดที่นอน

“เล่ามาเถอะ เดี๋ยวค่อยกิน” ไอ้ชัชพูดเสียงดุด้วยความอยากรู้

“คือว่าเมื่อวันหยุด กูไปแอบค้นตู้ในห้องน้ำอาอ่ะ แล้วก็หยิบโน่นหยิบนี่มาลองใช้หล่อลื่นดู ฮุฮุ” ไอ้นัยเล่าไปหัวเราะไป คล้ายกำลังภูมิใจที่ได้ประกอบวีรกรรมอันยิ่งใหญ่โดยการแอบค้นตู้ของอา

“เจออะไรบ้างล่ะ” ผมถาม

“โอ๊ย หลายอย่าง มีทั้งโลชั่น วาสลิน ครีม”

“แล้วมึงเอามาลองชักว่าวดูหมดทุกอย่างเลย” ไอ้ชัชต่อให้

“ฮื่อ” ไอ้นัยพยักหน้า รู้สึกว่าแววนักวิทยาศาสตร์ของมันจะฉายตั้งแต่ยังเด็กเลยครับ ชอบค้นคว้าทดลอง แต่ว่าดูจะทำในเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องเท่าไร

“ซี้ซั้วลองเดี๋ยวควยก็พังหรอกมึง” ผมเตือนมัน

“จะพังได้ไง ถ้าใช้แล้วพัง หน้าอากูก็ต้องพังก่อนแล้ว ฮุฮุ” พูดไปมันก็หัวเราะชอบอกชอบใจ

“แล้วจารบีล่ะ มึงได้ลองหรือเปล่า” ไอ้ชัชเริ่มกวน การที่มันเริ่มต่อล้อต่อเถียงนี่แสดงว่ามันอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เด็กๆก็ยังงี้แหละครับ จะทุกข์จะเศร้าก็ไม่นาน

“ไม่ได้ลองว้อย อาไม่ได้เก็บจารบีไว้ในห้องน้ำ มึงเอาไว้ใช้เองละกัน ถามกวนนัก” ไอ้นัยตอบ ว่าแล้วก็ยกมือเขกหัวชัชไปหนึ่งที ไอ้ชัชไม่ทันตั้งตัวเลยหลบไม่ทัน เลยต้องกินมะเหงกไปหนึ่งลูก

“แล้วไงต่อ” ผมถามอีก

“กูว่าเบบี้ออยล์ดีที่สุดว่ะ” ไอ้นัยสรุป “ใช้แล้วลื่นสบายที่สุด”

“โธ่เอ๊ย หลงฟังอยู่ตั้งนาน นึกว่ามีอะไรใหม่ แล้วมึงเอามาด้วยหรือเปล่าวะนัย” ผมถาม อิอิ อยากได้เอาไปลองใช้บ้างน่ะ ตั้งแต่วันก่อนว่าจะออกไปซื้อก็ยังไม่ได้ไปซื้อเสียที

“เปล่าอ่ะ อยู่ดีๆจะพกมาโรงเรียนทำไม” ไอ้นัยมันก็รู้หรอกว่าผมจะขอมันไปทำอะไร

“โด่เอ๊ย ไม่ได้เอามาแล้วจะเล่าทำไม” ไอ้ชัชบ่นบ้าง

พอได้หยอกล้อกันบ้างก็รู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นครับ แต่ไอ้นัยมันเด็ดกว่านั้นอีก เพราะว่าตอนบ่ายหลังเลิกเรียน ก่อนที่เราจะแยกย้ายจากกัน พอไอ้นัยเห็นไอ้ชัชไม่อยู่ (ตอนนั้นชัชหายไปไหนก็ไม่รู้) มันก็เรียกผมไปที่โต๊ะของมัน

“อู มาเอาของหน่อยดิ” ไอ้นัยเรียก

ผมก็เดินไปที่โต๊ะมัน มันเปิดกระเป๋านักเรียน หยิบเอาขวดพลาสติกเล็กๆออกมาส่งให้

“อ่ะ ให้” ไอ้นัยพูด

“ไรฟะ” ผมถาม

“เบบี้ออยล์” ไอ้นัยกระซิบ “เอามาไม่เยอะ เพราะกลัวอารู้ กูรู้ว่ามึงอยากได้มาก”

โห ไอ้นัยมันน่ารักมาก รู้ใจผมจริงๆ แต่พอรับของจากมันแล้วก็รู้สึกผิดในใจนิดๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ คล้ายๆกับว่าผมไม่ยุติธรรมกับมัน กำลังเอาเปรียบมันอยู่ เลยกระซิบบอกมันไปว่า

“ที่จริงกูอยากใช้กับมึงนะ แต่ไม่มีโอกาส เอาไว้ปิดเทอมละกัน”

“ฝากมึงจัดการไอ้ชัชแทนกูด้วยละกัน” ไอ้นัยตอบเสไปเรื่องอื่น ว่าแล้วทำหน้าตาย แต่ในเมื่อมันไม่ปฏิเสธก็แสดงว่ามันเห็นด้วย ผมว่างั้นนะ ถ้างั้นปิดเทอมมีลุ้น

ผมนึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ที่ไอ้นัยมันเอามาให้ผมตอนนี้แสดงว่ามันคงกะจะเซอร์ไพรส์ผมก่อนกลับบ้าน หรือไม่ก็กะจะเซอร์ไพรส์ไอ้ชัชก็ได้ เพราะมันเลือกให้ตอนไอ้ชัชไม่อยู่ ผมก็เลยเก็บเบบี้ออยล์ไว้ในกระเป๋านักเรียนโดยยังไม่บอกไอ้ชัช กะจะให้มันแปลกใจเล่น

No comments: