Wednesday, May 20, 2009

ภาคสอง ตอนที่ 85

ปิดเทอมปีนี้เป็นปีที่เซ็งอย่างที่สุด ผมเปลี่ยนเป็นเงียบขรึมและคิดถึงแต่ไอ้นัยเกือบตลอดเวลา บางวันผมนั่งอยู่ใกล้ๆโทรศัพท์เป็นชั่วโมงด้วยความหวังลมๆแล้งๆว่าไอ้นัยจะโทรมาหาผมบ้าง ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าผมเปลี่ยนไปมาก และพยายามสืบหาสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงนี้

“อู ตอนนี้นัยอยู่ไหนเนี่ย” จู่ๆเอ๊ดถามผมขึ้นมาในวันหนึ่ง

“จะไปรู้ได้ไง” ผมตอบกวนๆ รู้สึกอารมณ์ไม่ดีนิดหน่อยเมื่อถูกถามถึงเรื่องไอ้นัย “ไม่ได้เฝ้ามันเอาไว้นี่”

“ก็นั่นดิ แล้วอูไม่อยากรู้หรือว่าตอนนี้นัยเป็นยังไง ทุกทีพอปิดเทอมอูทั้งเขียนจดหมาย ทั้งโทรศัพท์ ปีนี้เงียบสนิท” เอ๊ดพูด “แถมอูยังไปนั่งเฝ้าเครื่องโทรศัพท์อีก ยังงี้โกรธกันชัวร์ ทำไมโกรธกันเป็นเดือนๆแล้วยังไม่หายสักที”

ในที่สุดผมก็ตกหลุมพรางที่เอ๊ดขุดเอาไว้จนได้

ผมรู้สึกว่าทุกคนในบ้านกำลังพยายามสืบเสาะเพื่อค้นหาความลับในใจของผม ถ้าทุกคนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอ้นัยนั้นมีเรื่องที่ลึกล้ำเกินกว่าเพื่อนสนิทจะมีต่อกัน อะไรจะเกิดขึ้น ในวูบหนึ่งของความคิดผมคิดไปถึงตอนที่ผมกำลังสืบเสาะความลับของไอ้นัย...

ผมรู้สึกว่าอันตรายกำลังมาใกล้ตัว ยิ่งอยู่บ้านนานผมก็ยิ่งเผยพิรุธ ผมจำเป็นต้องหนีเอาไว้ก่อน ดังนั้นเพียงปลายเดือนเมษายน ผมก็เข้ากรุงเทพฯด้วยข้ออ้างที่ว่าผมต้องการมีเวลาซ้อมเปียโนในช่วงปิดเทอมให้มากขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นเพราะที่ผมเข้ากรุงเทพฯเร็วเพราะว่าผมคิดถึงไอ้นัย และผมต้องการจะหนีจากทุกคนที่กำลังพยายามสืบเสาะความลับของผม

- - -

ผมกลับมาอยู่กรุงเทพฯได้กว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้โทรศัพท์ไปหาไอ้นัยสักทีเพราะทิษฐิที่ค้ำคออยู่ คงเป็นการเสียหน้าอย่างมากถ้าจะโทรไปหามันก่อน เดิมทีผมคิดว่าเมื่อผมมาอยู่กรุงเทพฯแล้ว แม้ไม่ติดต่อกัน แต่ผมคงคลายความคิดถึงไอ้นัยลงไปได้บ้าง เพราะอย่างน้อยความรู้สึกที่ว่าเราอยู่ใกล้กันคงทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น แต่ที่ไหนได้ ผมกลับยิ่งรู้สึกคิดถึงมันยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ความเหงาทำให้ผมใช้เวลาไปกับการซ้อมเปียโนให้มากขึ้น แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก

ผมรอให้ถึงวันเสาร์เพื่อที่จะดักเจอไอ้นัย จะได้ไปเรียนดนตรีด้วยกัน แต่ผมก็ไม่พบไอ้นัยที่ป้ายรถเมล์เลย หรือมันจะไปแต่เช้าก็อาจเป็นได้ เพราะมันยังไม่รู้ว่าผมมากรุงเทพฯแล้วจึงไม่ได้รอผมที่ป้ายรถเมล์เช่นปกติ

เมื่อไปถึงโรงเรียน ผมไปด้อมๆมองๆดูไอ้นัยที่ห้องเรียนกีตาร์แต่ก็ไม่พบ เมื่อถามครูจึงได้รู้ว่าไอ้นัยไม่ได้มาเรียนในวันนั้น

วันนั้นทั้งวัน จิตใจผมร้อนรุ่มไปหมด คิดถึงแต่ไอ้นัย จะทำอะไรก็ไม่มีสมาธิ ผมใช้เวลาช่วงบ่ายวันเสาร์เดินเล่นอยู่ในสยามและมาบุญครองเผื่อว่าจะคลายเหงาได้บ้าง แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งเหงา ครั้นพออยู่เฉยๆก็ยิ่งว้าวุ่นใจ

วันจันทร์ต่อมา ผมทนอยู่ที่บ้านต่อไปอีกไม่ไหว จึงหอบแบบเรียนเปียโนไปที่โรงเรียนดนตรีเพื่อจะซ้อมเปียโนฆ่าเวลา เผื่อว่าดนตรีจะช่วยคลายความร้อนรุ่มในหัวใจของผมลงได้บ้าง

แบบเรียนเปียโนเล่มแรกในชีวิตของผมก็คือแบบเรียนเปียโนของจอห์น ทอมป์สัน เล่ม ๑ ซึ่งในยุคที่ผมเรียนและยุคก่อนหน้านั้นนิยมใช้กันมาก ครูของผมบอกว่าเล่ม ๑ นี้ปกติใช้เวลาเรียน ๖ เดือนถึง ๑ ปี แล้วแต่ความสามารถ แต่ผมคงเป็นเด็กมีความสามารถพิเศษ เพราะกว่าจะเรียนเล่ม ๑ จบก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งปีครึ่ง

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ผมเรียนแบบเรียนเล่ม ๑ จนจบ และได้ขึ้นแบบเรียนเล่ม ๒ แต่เพิ่งหัดไปได้สองสามเพลงก็ติดสอบปลายภาค หลังจากนั้นก็กลับบ้านไป เพิ่งจะมีโอกาสได้หัดต่อก็ตอนนี้นี่เอง

เมื่อหัดเพลงที่สามได้แล้ว การบ้านที่ผมได้รับมาจากการเรียนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็คือ ให้ผมลองหัดเพลงที่สี่เอง แล้วนำไปเล่นให้ครูฟังในสัปดาห์หน้า

เมื่อผมก็เริ่มหัดเพลงที่สี่ของเล่ม ผมลองใช้มือขวาเล่นแนวทำนองดูก่อน

เอ เพลงนี้คุ้นๆแฮะ ผมนึกในใจ ทำนองนี้คล้ายเคยได้ยินจากที่ไหน

ผมเหลือบดูชื่อเพลง เห็นเขียนเอาไว้ว่า MINUET แล้วมีชื่อผู้ประพันธ์เขียนตัวเล็กๆเอาไว้ว่า Johan Sebastian Bach หลังจากจิ้มคีย์เปียโนไปตามตัวโน้ตอีกสักพัก ผมก็นึกออก

นี่มันทำนองเพลง A Lover’s Concerto นี่หว่า เสียงตัวโน้ตนี่ใช่เลย เพียงแต่จังหวะแตกต่างออกไปบ้าง

พริบตานั้น ความทรงจำในอดีตก็ไหลพรั่งพรูเข้ามาในห้วงความคิดคำนึงของผม สายฝนที่โปรยปรายเหนือบึงน้ำ ระลอกในบึงที่พลิ้วเลื่อมพราย ไอ้นัยกำลังดีดกีตาร์ใต้พลาสติกกันฝนที่ผมกางคลุมให้มัน... เสียงกีตาร์ของไอ้นัยเหมือนกำลังดังก้องอยู่ในหูของผม...

ผมปิดหนังสือแบบเรียนและรีบเดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงเรียนดนตรีทันที

ไอ้นัย กูยอมแพ้มึง ยอมเสียหน้าก็ได้วะ คิดถึงมึงเหลือเกิน ผมคิดในใจ และรีบต่อโทรศัพท์ไปที่บ้านไอ้นัย

“ฮัลโหล” เสียงคุณอาผู้หญิงรับสาย

“สวัสดีครับคุณอา ผมอูครับ” ผมทักทาย “นัยอยู่ไหมครับ”

“หวัดดีจ้ะอู” คุณอาตอบ “นัยอยู่ เอ๊ะ ไม่อยู่”

จะเอายังไงกันแน่ อยู่หรือไม่อยู่ครับ ผมถามในใจ แต่ไม่กล้าออกเสียง

“คือนัยไม่ได้ไปไหนหรอก แต่ว่าตอนนี้ไม่อยู่ในบ้าน คงไปเล่นกับเพื่อนบ้านแถวนี้แหละ” คุณอาตอบเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

ไอ้นัยมีเพื่อนวัยเดียวกันแถวบ้านแล้วหรือนี่ ไม่ยักรู้มาก่อน

“เดี๋ยวผมเข้าไปหานัยนะครับคุณอา” ผมพูด

“เข้ามาสิ เดี๋ยวนัยก็คงกลับเข้ามา” คุณอาตอบ

ผมนั่งรถกลับจากโรงเรียนดนตรีเพื่อไปหาไอ้นัย ทั้งๆที่เพิ่งเข้าไปซ้อมได้ไม่ถึงสิบห้านาที แต่ทำอย่างไรได้ ถึงอยู่ซ้อมต่อไปผมก็คงไม่มีสมาธิ

ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดผมก็มาถึงบ้านไอ้นัย ผมไม่ได้มาหาไอ้นัยหลายเดือนแล้วตั้งแต่เราหมางเมินกัน

คุณอาผู้หญิงออกมาปิดประตูรับผม ตอนนั้นคุณอาอยู่บ้านกันทั้งสองคน แต่กำลังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก

“อ้าว อู เป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันเสียนาน” คุณอาผู้ชายทัก หลังจากที่ผมเข้ามาในบ้านแล้วและยกมือไหว้

“ครับ กลับบ้านไปเสียนานเลย” ผมตอบ

“เสียดายนะที่อูซ่อมบ้าน นัยเลยไม่ได้ไปเที่ยวปิดเทอมนี้ นัยเหงาไปเลย” คุณอาพูด

เอ๊ะ ผมซ่อมบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คำพูดของคุณอาทำให้ผมงุนงง

“ซ่อมบ้านที่ไหนกันครับ” ผมถาม

“อ้าว ก็บ้านคุณพ่ออูไง นี่ไม่ได้ซ่อมบ้านหรอกเหรอ” คุณอาทำหน้าสงสัย

ฉิบหายล่ะสิ ไอ้นัยคงไปโกหกคุณอาเอาไว้ เพื่อที่จะหาข้ออ้างไปกับพี่เต้กระมัง

“เอ้อ ซ่อม... ซ่อมครับ” ผมตกบันไดพลอยโจน “แต่ผมงง นึกว่าคุณอาหมายถึงบ้านที่กรุงเทพฯนี่”

ไม่รู้ว่าโกหกได้เนียนหรือเปล่า แต่คุณอาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

“แล้วนัยไปเที่ยวไหนบ้างหรือเปล่าครับ” ผมถามบ้าง

“ไม่ได้ไปไหนเลย ถึงว่านัยเค้าเหงาไง แต่ก็โชคดี นัยเค้าไปเข้ากลุ่มกับเพื่อนบ้านที่เป็นเด็กรุ่นเดียวกันได้ ช่วงหลังก็พอหายเหงา” คุณอาเล่าให้ฟัง จากนั้นก็ทำหน้าฉงนอีก “เอ๊ะ นี่ปิดเทอมไม่ได้คุยกันเลยหรือไง ท่าทางอูไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

“เอ้อ คุยครับ” ผมดำน้ำไปเรื่อยๆ “แต่ผมหมายถึงช่วงนี้น่ะครับ พอดีไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว” คุณอาฟังแล้วจะเชื่อผมไหมนี่ ผมก็ได้รู้เพิ่มมาอีกอย่างก็คือ ไอ้นัยไม่ได้ไปไหน แสดงว่ามันไม่ได้เที่ยวกับพี่เต้ ผมยิ่งงงหนักว่าเกิดอะไรขึ้น

“ผมขอไปอ่านการ์ตูนในห้องนัยนะครับ อยากอ่านการ์ตูนจัง” ผมรีบหาเรื่องปลีกตัวออกมาจากคุณอาทั้งสองคน หากคุยกันต่อสงสัยจะอันตราย

“อากำลังจะออกไปพอดี งั้นอาฝากดูแลบ้านด้วยละกัน” คุณอาพูด

เมื่อคุณอาทั้งสองออกไปแล้ว ผมก็เดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องนอนของไอ้นัย เห็นกีตาร์ตัวโปรดวางอยู่ที่มุมห้อง ห้องนอนของไอ้นัยยังเหมือนเดิม แต่เจ้าของกลับเปลี่ยนไป

เมื่อไม่มีใครอยู่ ผมจึงได้โอกาสค้นห้องไอ้นัยเสียเลย อยากรู้ว่ามันซ่อนความลับอะไรเอาไว้บ้าง ความตั้งใจของผมที่จะไขความลับของไอ้นัยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ผมรู้ดีว่าไอ้นัยมีช่องลับสำหรับซ่อนสิ่งของเอาไว้ที่ใดบ้าง เป็นธรรมดาของเด็กวัยรุ่นที่อาจมีเรื่องที่ไม่อยากให้ผู้ใหญ่รู้ ในลิ้นชักโต๊ะของมันมีอยู่ที่หนึ่ง มันทำเป็นกล่องเล็กๆติดกาวเอาไว้กับเพดานลิ้นชัก แต่ก่อนมันเอาไว้ซ่อนของสัปดน เช่น ไพ่ลามก คือเป็นสำรับไพ่ที่มีแต่รูปผู้หญิงโป๊ หรือปากกาผู้หญิงโป๊ คือเป็นปากกา พอคว่ำปากกาไปทางหนึ่ง จะเห็นผู้หญิงอยู่ในชุดดำ พอคว่ำอีกทางหนึ่ง หมึกก็จะไหลออกไป ผู้หญิงชุดดำกลายเป็นผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้า ของพวกนี้ก็ได้มาจากเพื่อนๆนั่นเอง

ผมล้วงมือเข้าไปในกล่องลับในลิ้นชัก พบว่าในนั้นมีของอยู่ ลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม นิ่มๆ

อะไรวะ ผมสงสัย พลางล้วงของนั้นออกมา

บุหรี่!!!

ของที่ผมล้วงออกมาเป็นซองบุหรี่ บุหรี่ซองนี้ถูกแกะออกมาแล้ว ปากซองถูกฉีกเปิดออกหมด เห็นข้างในมีบุหรี่อยู่ราว ๖-๗ มวน บางมวนมีลักษณะเหมือนถูกขยำจนเยินไปหมด แต่บางมวนก็อยู่ในสภาพเรียบร้อย

ไอ้นัยสูบบุหรี่หรือนี่ ผมตกใจมาก นึกไม่ถึงว่าเด็กดีอย่างไอ้นัยจะริสูบบุหรี่ นี่มันเริ่มสูบตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ผมพยายามปะติดปะต่อเหตุการณ์... หรือว่าไอ้นัยไปหัดมาจากเด็กในซอยที่คุณอาบอกว่าเป็นเพื่อนบ้านในซอยวัยเดียวกันกับไอ้นัย?

ผมคิดต่อไปอีกว่า ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ที่ไอ้นัยไม่อยู่บ้าน ก็อาจกำลังมั่วสุมอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้อยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะกำลังสูบบุหรี่กันอยู่ก็ได้

และถ้าพวกมันสูบบุหรี่กันจะไปสูบที่ไหน ถ้าเป็นเด็กอื่นผมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นไอ้นัย มันคงไม่สูบให้ใครเห็นแน่ มันต้องแอบสูบในสถานที่ลึกลับ

ผมรีบเก็บซองบุหรี่กลับคืนที่เดิม จากนั้นลงมาปิดบ้าน แล้วผมก็ออกจากบ้านไป... ผมจะลองไปหาไอ้นัยดู

ผมออกจากบ้านไอ้นัย เดินลึกเข้าไปในซอย จนถึงบ้านร้างที่เราสองคนเคยเข้ามาเล่นกัน...

บ้านร้างหลังนั้นก็ยังร้างอยู่เช่นเดิม ผมยืนเมียงมองอยู่หน้าประตูสักพัก พยายามสังเกตความเคลื่อนไหวข้างใน แต่ก็สังเกตไม่ออก

เมื่อสังเกตจากข้างนอกไม่รู้ ผมตัดสินใจปีนเข้าไปดู ผมพยายามปีนรั้วอย่างแผ่วเบาที่สุด เพราะถ้าไอ้นัยอยู่ในนี้ ผมก็ไม่อยากให้มันรู้ตัว...

เมื่อเข้าไปในบริเวณบ้านได้ ผมเดินย่องฝีเท้าอย่างแผ่วเบาไปยังด้านหลัง ส่วนที่เป็นเรือนหลังตึกใหญ่

ด้านหลังเงียบกริบ แต่ผมได้กลิ่นบุหรี่โชยมา ผมยืนอยู่ที่ทางเดินระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนหลัง กลิ่นบุหรี่ยังโชยเข้าจมูกอยู่ บนพื้นมีขี้บุหรี่เกลื่อน แต่ไม่เห็นใคร

ผมลองบิดลูกบิดของประตูห้องห้องหนึ่งของเรือนหลัง เดิมทีห้องทุกห้องล็อกหมด แต่เมื่อผมลองบิดลูกบิดดู ลูกบิดทั้งหัวก็หลุดติดมือผมออกมา ลูกบิดนี้ถูกงัดออกมาหลังจากนั้นก็ใส่ลวงเอาไว้เฉยๆ กลิ่นบุหรี่แปลกๆโชยออกมาจากโพรงลูกบิด มันเป็นกลิ่นบุหรี่ผสมกับกลิ่นฟางไหม้

เสร็จกูละไอ้นัย มึงซ่อนอยู่ในนี้แน่ ผมคิด ด้วยความผลีผลาม ผมรีบเอามือล้วงตรงโพรงลูกบิดแล้วประตูออกมาทันที

ทันใดนั้นเอง ผมรู้สึกว่ามีเงาคนหลายคนกรูกันออกมาชนผมจนกระเด็นไป

“เฮ้ย เด็กนี่หว่า” เสียงใครคนหนึ่งพูด “งั้นอัดแม่งเลย ไอ้เหี้ยนี่”

คนที่กรูกันออกมาและแตกฮือไปเหมือนกับจะวิ่งหนี พอได้ฟังเสียงนั้นก็ย้อนกลับมาและรวบตัวผมเอาไว้โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว มีสองคนมาล็อกตรึงแขนผมเอาไว้ ด้วยกำลังของมันที่มากกว่าทำให้ผมขัดขืนดิ้นรนไม่ได้เลย

เมื่อผมเงยหน้าขึ้นมา หายจากอาการงง พบว่ากลุ่มคนที่วิ่งกรูออกมานี้มีสามคน เป็นเด็กวัยรุ่นทั้งสิ้น สองคนยึดตัวผมอยู่ และอีกคนที่ยืนดูอยู่ก็คือไอ้นัยนั่นเอง!!!

ฟังเพลง Minuet in G Major เวอร์ชันที่เป็นแบบเรียนเปียโน (youtube)


<แบบเรียนเปียโน John Thompson Modern Course for the piano ทั้งเล่ม ๑ และ เล่ม ๒ ที่ผมเรียนตอนอยู่มัธยมต้น แบบเรียนเล่มนี้นิยมใช้ในเมืองไทยมาหลายสิบปี ลักษณะเด่นของแบบเรียนชุดนี้คือหน้าปกเป็นสีแดงสด ปกที่เห็นนี้เป็นฉบับที่พิมพ์ในปัจจุบัน ตอนที่ผมเรียนนั้นหน้าปกแดงๆเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนสองเล่มนี้เสียทีเดียว เพราะพิมพ์คนละรุ่นกัน>

19 comments:

Anonymous said...

ขอเจิมซักครั้งแล้วกันนะคะ ฮุ ๆ

อยากอ่านต่อไว ๆ

ตกลงนัยไม่ได้กิ๊กกะพี่เต้หรือเนี่ย..

Anonymous said...

ที่1(-_-)อารมณนี้หดหู่จริงๆ ลุงนัยคงผิดหวังจากพี่เต้ และแน่นอนลุงอูนั่นแหละ หม่น นี่ถ้าลุงอูย้อนกลับมาอดีตได้เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องที่ลุงอยากแก้ไขใช่ม้า ถ้าใช่จะยอมยกโทษให้นะแต่ต้องลงตอนต่อไปเร็วๆๆๆๆๆๆไม่งั้น..หุหุขอบคุณที่สุดเลยครับ

Bomber_Boy said...

มาต่อให้ไวเลยนะครับคุณอู...จะมาค้างคาแบบนี้ไม่ได้นะ คนอื่นจะบ้านตาย..

^^sky^^ said...

อะไรจะเกิดขึ้นกันแน่ แต่นัยอาจจะไม่ได้ติดบุหรีก็เป็นได้น่ะ

ตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนอนาคตอะไรสักอย่างเลย หุหุ
ให้กำลังใจพี่อูค๊าบ

ยุ่น said...

ยิ่งโตมากขึ้น...ความซับซ้อนก็มากขึ้น
ซับซ้อนทางความคิด
ซับซ้อนทางการกระทำ
ซับซ้อนทางความรู้สึก
รวมไปถึง....
ซับซ้อนทางอารมณ์ และ ความรัก

ขอบคุณครับ คุณอู

ยุ่นครับ --- ความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก และความต้องการ ก็เท่านั้นเอง หุหุ

naja said...

เกิดอะไรขึ้กับนัย ทำเปลี่ยนไปแบบนี้
เครียดแทนเลย

Anonymous said...

เครียดอะไรหรอ ถึงขั้นต้องสูบบุหรี่ - -??

อานัยเปลี่ยนไปซะแล้ว สงสัยเครียดเรื่องอาอูอ่ะม้างง
ผมว่าที่อานัยถามว่าปิดเทอมนี้ไปบ้านอาอูได้ไหมแล้วก็เอาบ้านพี่เต้มาอ้างเพราะจะลองใจนะ ว่าตอนนี้อาอูยังเป็นเพื่อนรักอยู่รึป่าว แต่พออาอูตอบว่าไม่ ก็เหมือนกับว่าสนิทกันน้อยลงแล้ว อานัยคงรู้สึกว่าอาอูไม่ค่อยได้สนใจอะไรอานัยมากแล้วเลยเสียใจละก็เครียดมากก็ได้นะครับ มุมมองผมอ่านะ - -
รีบๆมาต่อนะคร้าบบ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ^^

ปล.ขอบคุณครับที่มาเขียนต่อให้

Sea~~!!

Anonymous said...

เกิดอะไรขึ้นนะทำไมนัยถึงเป็นแบบนี้ เอ๊ะ..ถ้าถ้านัยไปกับพี่เต้จะดีกว่ามั้ยเนี่ย

โกต้า

Anonymous said...

แวบๆ กำลังคิดว่าจะกลับบ้านอาอูหรืออานัย
ไปบ้านอานัยก็กลัวอาอูใจน้อย
ไปบ้านอาอูก็กลัวอานัยร้องไห้ T-T
ว่าแล้วก็...

หลาน Arus ของอาชัชที่โลกลืม...

Anonymous said...

ผมไม่ชอบคนสูบบุหรี่อ่ะ
กลับบ้านอาอูดีกว่า บ้านอานัยไม่น่าอยู่แล้ว
อาอูครับ T-T เดือนหน้าเริ่มเรียนพิเศษ
มีเรียนทุกวันเลย
จันทร์-ศุกร์ 17.30-20.00
วันเสาร์ 08.00-18.30
ต้องเรียนแบบนี้ไปอีกนานหลายปีเลย...

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

ป.ล. หลานอากำลังเครียดเหมือนกันนะครับ
ตัดผมใหม่แล้วหลาน(ลูกพี่สาวคนโต)
จำผมไม่ได้ เห็นแล้วร้องไห้จ้าเลย
ตัดแว่นใหม่ก็ต้องรอเสร็จสัปดาห์หน้า T-T
แถมสิวขึ้นอีกเหนือปากใกล้ๆจมูก(แต่ไม่ใต้)
เปิดเทอมจะโกนหนวดก็เครียดเลย
กลัวเลือดอาบ...

เอ่อ... มีแต่ปัญหาวัยรุ่นทั้งนั้นเลยนี่นา

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

arus ไปอยู่กับอานัยชั่วคราวก่อนก็ได้ อากับเขาก็เข้าหน้ากันไม่ติด ช่วงนี้อานัยน่าสงสารมาก อีกอย่าง อานัยไม่ได้สูบบุหรี่หรอก บอกให้ก่อนก็ได้ ที่อานัยสูบคือกัญชาครับ ไปปลอบใจอานัยก่อนละกัน วันหลังค่อยกลับมา

เรียนพิเศษเยอะมากตั้งหลายปี ต้องการคนไปรับส่งไหมครับ เดี๋ยวให้อา KTB ช่วย

หลานที่หนึ่งถามว่าถ้าย้อนอดีตกลับได้อยากแก้ไขอะไร อยากแก้หลายเรื่องเลย ชีวิตของอูทำเรื่องผิดมากกว่าเรื่องถูก แต่ที่แน่ใจอย่างหนึ่งคืออูไม่ได้ทำผิดที่เลือกมอบหัวใจให้นัย แต่ถ้าย้อนกลับเวลากลับไปได้ขอไม่รู้จักนัยดีกว่า เข้าใจไหมครับ

ที่ Sea พูดก็น่าคิดครับ

อู

noteam said...

ทำไมนัยถึงเปนแบบนั้นอ่า


อยากรู้ๆๆ


คิดถึงจัง


ช่วงนี้งานเยอะมาก


ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเลย


มาไวๆนะคับๆ

yo408 said...

มึน งง แต๊ๆ อะไรจะพลิกผันไปมาได้ขนาดนี้เนี่ยะ

Anonymous said...

ไม่เอาอ่ะครับอาอู...
ไม่อยู่ใกล้อานัยแล้ว สูบกัญชาด้วยอ่ะ
เลิกคบสถานเดียวอ่ะ

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

ที่1(^_^) โหยสูบกัญชาเลยรึเนี่ยสงสารลุงนัยจังครับ กำลังนึกๆอยู่ว่าถ้าเป็นเพื่อนรักเราจะช่วยมันยังไงดี ยังไงลุงอูต้องช่วยลุงนัยแน่นอนชัวผมมั่นใจ คำตอบผมคิดว่าเช้าใจนะครับแหะๆไม่รู้สิครับ ไม่เข้าใจดีกว่า ต้องมาลงเร็วๆๆๆเอิ้กๆๆ

Anonymous said...

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย โอยสงสัยๆ อยากรู้ๆ

Anonymous said...

กลับกลายเป็นว่าผมต้องร้องไห้เพราะขณะอ่านตอนนี้
เศร้าเหลือเกินสำหรับผม
อึดอัด บอกไม่ถูก

ฮือออ

รอตอนที่ 86 นะคับ


Lonely man

พี said...

ขอมาเจิมไว้ก่อนครับ.......
ขอรออ่านต่อนต่อไป แล้วค่อยมาคอมเม้นต์

พี