การกลับบ้านในปีนี้ครึกครื้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะว่าไอ้นัยเอากีตาร์มาด้วย ตื่นเช้ามาก็แหกปากร้องเพลงกันแล้ว เอ๊ดก็มาร่วมวงด้วย โดยช่วยไอ้นัยต่อเพลงบางเพลงที่มันยังเล่นไม่ค่อยได้ ที่บ้านของเราจึงอบอวลไปด้วยเสียงเพลงทั้งกลางวันและกลางคืน แม้แต่พ่อและแม่ก็ยังชมว่าไอ้นัยเล่นกีตาร์ฝีมือใช้ได้ทีเดียว
นอกจากนี้ ในปีนี้ไอ้นัยยังมีโอกาสหัดขี่รถเครื่องหรือว่ารถมอเตอร์ไซค์อีกด้วย
บ้านต่างจังหวัดส่วนใหญ่ก็ต้องมีรถเครื่องกันอยู่แล้ว ที่บ้านผมก็เช่นกัน เราใช้รถเครื่องรุ่นของผู้หญิง แบบที่สาวยาคูลท์ใช้ ปกติแม่ใช้ไปจ่ายกับข้าวบ้าง หรือบางทีถ้าเอ๊ดอยู่เอ๊ดก็จะใช้ขี่ไปโน่นมานี่บ้าง สำหรับผมเองนั้นยังขี่รถเครื่องไม่เป็นเหมือนกัน เพราะเมื่อก่อนพ่อกับแม่เห็นว่ายังเด็กอยู่ เลยไม่ให้ขี่ ให้ขี่แต่จักรยาน แต่พอมาปีนี้ ไอ้นัยเห็นรถเครื่องแล้วก็อยากขี่ ประกอบกับพ่อและแม่คงเห็นว่าเรียน ม.๑ ก็โตพอสมควรแล้ว จึงอนุญาตให้ขี่ได้ โดยให้เอ๊ดเป็นคนหัดให้ ดังนั้นผมกับไอ้นัยก็เลยมีโอกาสได้หัดขี่รถเครื่องกัน
เราไปหัดขี่กันตรงถนนลาดยางในหมู่บ้านตรงช่วงที่ไม่ค่อยมีรถผ่าน ถ้าขี่จักรยานเป็นแล้วก็ไม่ยาก แต่ว่าต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่า เพราะว่ารถเครื่องใช้ความเร็วสูงกว่าจักรยานมาก
เริ่มแรกเอ๊ดสอนไอ้นัยโดยการให้มันขี่แล้วเอ๊ดนั่งซ้อนท้ายคอยควบคุมไปด้วย พอหัดกันได้สักพัก เห็นว่าพอเป็นแล้ว เอ๊ดก็ปล่อยให้ไอ้นัยขี่เอง
ไอ้นัยขี่เล่นวนไปเวียนมาอยู่ในระยะสายตาของเอ๊ด แต่พอเผลอหน่อยเดียว ไอ้นัยก็ขี่รถหายลับสายตาไป
คอยอยู่สักพัก ในที่สุด ไอ้นัยก็ขี่รถกลับมาในสภาพเนื้อตัวมอมแมม แขนขามีแผลและรอยถลอก โดยเฉพาะที่หัวเข่าแดงเถือกไปหมด
“รถล้มมาล่ะสิ” เอ๊ดหันมาพูดกับผมยิ้มๆอย่างไม่ตกใจ คล้ายกับเป็นเรื่องธรรมดา
ไอ้นัยจอดรถ ก้าวลงมาจากอาน พร้อมกับยิ้มแหยๆ
“รถล้มอะ” ไอ้นัยพูด
“ทำไมขี่ไม่ระวังเลยนะมึง ดูซิ ได้แผลมาบานเลย เจ็บมากหรือเปล่า กระดูกหักไหม” ผมบ่นใส่ไอ้นัยเป็นชุดด้วยความเป็นห่วง “ไปๆๆ กลับบ้านไปล้างแผลทายาเร็วๆเข้า”
“หูย อูดุยังกับเป็นป๋ามันเลย” เอ๊ดพูดพลางหัวเราะ “แค่นี้ไม่เป็นไรมากหรอก เรื่องธรรมดา”
คำพูดของเอ๊ดทำให้ผมเริ่มระวังตัวทันที ผมคงแสดงความรู้สึกเป็นห่วงไอ้นัยจนออกนอกหน้าเกินไป แต่ทำไงได้ เพราะว่าตอนนั้นรู้สึกเป็นห่วงมันจริงๆ
เมื่อไอ้นัยกลับบ้าน พอแม่เห็นเข้าก็ตกอกตกใจยกใหญ่ ให้ไอ้นัยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วรีบทำแผลให้ เอ๊ดพลอยโดนแม่บ่นไปด้วยว่าไม่ดูแลน้องให้ดี ดูแม่เป็นห่วงไอ้นัยไม่น้อย ทำให้ผมแอบปลื้มใจที่แม่เอ็นดูไอ้นัยขนาดนี้
“นี่ถ้าอาเค้าตำหนิมา ว่าดูแลหลานเค้าไม่ดี แล้วแม่จะทำยังไง ดูสิ ถลอกปอกเปิกไปหมด” แม่บ่น ส่วนไอ้นัยก็นั่งตีหน้าตาย ปล่อยให้แม่ทำแผลให้อย่างสบายใจ
หลังจากที่ไอ้นัยขี่รถเครื่องเป็นแล้ว ปรากฏว่ามันชอบมาก ขี่รถเครื่องเที่ยวเล่นทั้งวันทั้งๆที่มีผ้าก๊อซและพลาสเตอร์ติดตามตัวอยู่หลายจุด แต่หลังจากการล้มครั้งนั้นแล้ว ไอ้นัยก็ไม่ทำรถล้มอีกเลย
- - -
ผมกับไอ้นัยกลับบ้านมาได้สามวันแล้ว แต่เราก็ยังไม่มีโอกาสไปที่บึงน้ำซึ่งเป็นโลกส่วนตัวของเราเลย เพราะมัวแต่เล่นกีตาร์ หัดขี่รถเครื่อง และเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ เพื่อนๆที่ผมว่านี้ก็คือกลุ่มของไอ้ทิวนั่นเอง พวกนี้พอขึ้น ม.๑ ส่วนใหญ่ก็เข้าไปเรียนในตัวเมืองกันหมด แต่ละคนดูโตขึ้น โตทั้งตัว โตทั้งนิสัย เพราะว่าแต่ละคนดูเรียบร้อยขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน
ไอ้นัยก็ไม่เข็ด มาร่วมเตะฟุตบอลด้วย แต่ปีนี้แต่ละคนดูจะคุ้นเคยกับไอ้นัยแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีการรังแกไอ้นัยอีก
นอกจากนี้ สาเหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่เรายังไม่มีโอกาสมาที่บึงน้ำเสียทีเพราะว่าเรายังหาโอกาสปลีกตัวจากเอ๊ดไม่ได้นั่นเอง
การกลับมาบ้านในครั้งนี้ เอ๊ดคลุกคลีกับเราอยู่เกือบตลอดเวลา ผมกับไอ้นัยไม่ปริปากบอกเรื่องบึงน้ำ เพราะกลัวเอ๊ดจะขอตามมาด้วย ที่โลกส่วนตัวนี้มีแต่ผม ไอ้นัย และไอ้ชัชเท่านั้นที่จะเข้ามาได้... แน่นอน... ไม่นับรวมเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นเจ้าของบึงน้ำตัวจริง
หลายวันผ่านไป ในที่สุด ในตอนบ่ายวันหนึ่ง เอ๊ดก็ปลีกตัวไปเที่ยวหาเพื่อนฝูงของตนเองบ้าง
พอเอ๊ดออกไปเท่านั้นแหละ ผมกับไอ้นัยก็รีบบรรจุของกิน น้ำ หนังสือเพลง และพลาสติกรองนั่งผืนใหญ่ และข้าวของอื่นๆใส่เป้ แล้วแบกกีตาร์ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ออกไปยังบึงน้ำทันที
ไอ้นัยขอเป็นคนขี่รถเอง ผมนั่งซ้อนท้ายมันไปก็เสียวไป เพราะกลัวว่ามันจะพาไปเทกระจาดข้างทาง มือหนึ่งโอบกีตาร์สุดหวงของไอ้นัยเอาไว้ อีกมือหนึ่งโอบเอวมัน
การใช้รถเครื่องทำให้สะดวกและรวดเร็วกว่าขี่จักรยานมาก พอขี่ไปได้สักพัก เมื่อเข้าบริเวณที่ปลอดคน ผมก็ซบหน้าลงที่ต้นคอไอ้นัย จมูกถูไถไปมาเบาๆ สูดกลิ่นกายอ่อนๆที่ผมคุ้นเคยอย่างหลงใหล
“หอมจัง” ผมพึมพำออกมา
ไอ้นัยหัวเราะกิ๊กด้วยความจั๊กจี๋ มือข้างที่โอบเอวของมันเอาไว้เลื่อนต่ำลงไปอยู่ที่เป้ากางเกง ที่นั่นเอง ผมพบว่ามีท่อนเนื้อแข็งตุงในกางเกงรออยู่แล้ว
ไอ้นัยปล่อยมือข้างหนึ่งจากแฮนด์ อ้อมมาคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงของผมบ้าง
“เฮ้ย” ผมร้อง
“โครม”
พอไอ้นัยปล่อยมือข้างหนึ่ง รถก็เสียหลักพุ่งเข้าหาต้นมะม่วงใหญ่ที่ข้างทางทันที โชคดีที่ไอ้นัยใช้ความเร็วต่ำและพยายามเบรกเอาไว้ ดังนั้นรถจึงพุ่งชนต้นไม้เพียงเบาๆ และไม่มีใครเป็นอะไร
“ขี่ไม่แข็งแล้วยังอยากจะขี่มือเดียว เกือบเจ็บตัวอีกแล้วไหมล่ะ” ผมบ่น พลางตบกะโหลกมันเบาๆ
ไอ้นัยทำหน้าจ๋อย “ก็มึงแกล้งกูก่อนนี่หว่า”
เห็นไอ้นัยหน้าจ๋อยแล้วก็อดขำไม่ได้ ผมเลยหอมแก้มมันไปหนึ่งฟอด “นี่แน่ะ”
- - -
หนึ่งปีที่เราไม่ได้ย่างกรายมาที่บึงน้ำนี้ สภาพทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม น้ำในบึงยังสะอาดเป็นสีมรกตสดใส ต้นหญ้าริมบึงยังเขียวชอุ่ม สถานที่ยังไม่เปลี่ยน แต่คนแปรเปลี่ยนไปบ้าง ปีนี้ผมกับไอ้นัยโตขึ้นอีกหน่อย
หลังจากที่ดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในละแวกใกล้เคียง เราจึงแก้ผ้าลงเล่นน้ำ ประสบการณ์ที่ผ่านมาในโรงเรียนสอนให้เราระมัดระวังตัว เด็กแก้ผ้าเล่นน้ำไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าวัยรุ่นขนาดขนขึ้นแล้วมาแก้ผ้าเล่นน้ำกันสองคนคงไม่ใช่เรื่องธรรมดา ถ้าใครรู้เข้าเราอาจมีปัญหาได้
หลังจากว่ายน้ำเล่นกันสักครู่ เราก็ปีนขึ้นมานอนเล่นที่ริมบึง อากาศยามบ่ายของต้นเดือนมีนาคมยังสบายอยู่อันเนื่องมาจากลมหนาวปลายฤดู ลมชายทุ่งพัดเย็นสบายชวนให้ง่วงนอน
ไอ้นัยซึ่งนอนอยู่เคียงกับผมเปลี่ยนจากท่านอนหงายมาเป็นนอนตะแคง เอาท่อนขาก่ายลำตัวของผม แขนก็โอบผมเอาไว้ พร้อมกันนั้นผมรู้สึกว่ามีแท่งแข็งๆมาดุนที่เอว
“หมอนข้างอันนี้นุ่ม น่ากอดจัง” ไอ้นัยพูดด้วยเสียงละเมอ พลางกอดผมแน่นยิ่งขึ้น แต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้ละเมอ ท่อนขาของมันบดไปมาที่ท่อนเนื้อของผม ส่วนท่อนเนื้อของมันก็ถูไถอยู่ที่ตะโพกของผม
“มึงหาเรื่องกูก่อนนะ” ผมกระซิบที่ข้างหูมัน ว่าแล้วก็เอาจมูกซุกไซร้ที่ติ่งหูมัน พลางโอบกอดมันบ้าง
เรือนร่างของไอ้นัยสมส่วน ผิวกายราบลื่น กล้ามเนื้อตึง เปี่ยมไปด้วยพลังในแบบเด็กวัยรุ่น อย่างไม่รู้ตัว เราสองกลับกลายเป็นอยู่ในท่าหกสิบเก้า…
ผมใช้ริมฝีปากรูดหนังหุ้มปลายของมันลงจนสุด พร้อมทั้งใช้ลิ้นฉกส่วนหัวและคอหยัก จากนั้นเม้มริมฝีปาก รูดหนังหุ้มปลายของมันขึ้นลงเบาๆ ไอ้นัยถึงกับร้องครางเสียงกระเส่า
“พอก่อนอู” ไอ้นัยคราง “จะแตกแล้ว”
ผมหยุด ไอ้นัยเอื้อมมือเปะปะไปที่เป้ จากนั้นล้วงเอาเบเบี้ออยล์ออกมา
“วันนี้เอาก่อนเลยเหรอ” ผมถามมันอย่างแปลกใจ ไอ้นัยยิ้มอายๆ ไม่พูดอะไร แต่เทออยล์ชโลมท่อนเนื้อของมันแทนคำตอบ
ไอ้นัยให้ผมคุกเข่าอยู่ในท่าคลาน จากนั้นใช้ออยล์ชโลมนิ้ว แล้วควานนิ้วเข้ามาในก้นของผม นิ้วของไอ้นัยที่ล่วงล้ำผ่านถ้ำโพรงทำให้ผมรู้สึกเสียว
“เบาๆนะมึง” ผมกำชับเหมือนทุกครั้ง ไอ้นี่ไม่กำชับไม่ได้ เผลอทีไรเป็นลืมตัวกระแทกเข้ามาทุกที
ผมรู้สึกจุกที่ก้น ไม่ต้องมองก็รู้ว่าไอ้นัยเริ่มเปลี่ยนจากนิ้วมาเป็นท่อนเนื้อของมัน แม้มันจะค่อยๆทำแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้แก่ผม ทำไมพอใช้นิ้วแล้วมันเสียวสบาย พอเปลี่ยนเป็นของจริงๆแล้วเจ็บขนาดนี้ก็ไม่รู้
ผมครางด้วยความเจ็บปวด ไอ้นัยซอยท่อนเนื้อที่แข็งเต็มที่ของมันเข้าออกเฉพาะส่วนหัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆล่วงล้ำลึกเข้ามาทีละนิด
“อูย เสียว” ไอ้นัยคราง “ได้ครึ่งลำแล้วนะ”
ไอ้นัยซอยเข้าออกทีละน้อยอีกชั่วครู่ จากนั้นก็กดท่อนเนื้อของมันพรวดเข้ามาทีเดียวมิดด้าม
“โอ๊ย” ผมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พลายกระถดตัวหนี “เอาออกไปก่อน”
“โทษที” ไอ้นัยปั้นสีหน้าสำนึกผิด พร้อมทั้งอ้อน “ต่อนะ ต่อนะ”
ไอ้นัยชโลมออยล์เพิ่มอีก จากนั้นมันขอให้ผมนอนหงาย พร้อมทั้งยกขาทั้งสองข้างขึ้น
ไอ้นัยนั่งลงกับพื้น ถ่างขาออก เอาท่อนเนื้อของมันจ่อมาที่ก้นของผมซึ่งนอนยกขาอยู่ จากนั้นขยับตัวเข้ามา พร้อมทั้งกดท่อนเนื้อเข้าไปในก้นของผม
จากนั้นไอ้นัยก็ขยับก้น ซอยท่อนเนื้อของมันเข้าออก โดยมันอยู่ในท่านั่งถ่างขาประกบก้นของผม มือข้างหนึ่งของมันยันพื้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของมันก็จับท่อนเนื้อของผมชักขึ้นลง
“อูย” ผมครางบ้าง ความเสียวจากมือของไอ้นัยที่ชักขึ้นลงทำให้ผมคลายความเจ็บปวดลงได้บ้าง
เมื่อเบบี้ออยล์ออกฤทธิ์เต็มที่ ผมก็ไม่รู้สึกเจ็บก้นอีก มือของไอ้นัยที่ชักเข้าออกทำให้ผมเคลิ้มเสียวตามไปด้วย ผมรู้สึกว่าน้ำของผมกำลังจะแตก
“จะแตกแล้วนะ” ผมบอกมัน
“คอยกูก่อน” ไอ้นัยพูด พลางซอยก้นผมอย่างเอาเป็นเอาตาย
ผมพยายามฝืนเอาไว้ไม่ให้น้ำแตก ไอ้นัยซอยก้นผมอีกเพียงครู่เดียวมันก็ครางออกมา
“จะแตกแล้วอู”
ว่าแล้วไอ้นัยก็ถอนหายใจดังเฮือก ผมก็รู้สึกว่าท่อนเนื้อของมันที่อยู่ในก้นของผมกระตุก จากนั้นมีของเหลวอุ่นๆฉีดพุ่งอยู่ในก้น ขณะเดียวกัน ผมก็ปล่อยให้น้ำของผมก็แตกระเบิดออกมาพร้อมกัน
“ปรี๊ด” น้ำว่าวของผมพุ่งออกมาเป็นน้ำพุ ส่วนใหญ่ตกอยู่บนลำตัวของผม แต่มีบางส่วนพุ่งไปโดนหน้าไอ้นัย
ผมรู้สึกว่าก้นโล่งวูบ ไอ้นัยถอนท่อนเนื้อของมันออกมา ผมชะโงกหน้าไปดู เห็นท่อนเนื้อของไอ้นัยเป็นมันปลาบ ส่วนหัวบานใหญ่ สีแดงคล้ำ ที่ส่วนปลายยังมีน้ำว่าวหยดยืดเป็นสาย
“มึงไปเอาท่านี้มาจากไหนวะ” ผมถามด้วยความสงสัย
“กูคิดเอาเอง” ไอ้นัยตอบ ทำหน้าเจ้าเล่ห์ พลางโน้มหน้ามาหอมที่แก้มของผมเบาๆ “เข่ากูเป็นแผล เอ๊ย ไม่ใช่ อยากทำให้มึงแตกพร้อมกับกูน่ะ”

<จากนั้นไอ้นัยก็ขยับก้น ซอยท่อนเนื้อของมันเข้าออก โดยมันอยู่ในท่านั่งถ่างขาประกบก้นของผม มือข้างหนึ่งของมันยันพื้น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของมันก็จับท่อนเนื้อของผมชักขึ้นลง>