Thursday, January 17, 2008

ตอนที่ 82

วันรุ่งขึ้น ไอ้นัยมาโรงเรียนสายผิดปกติ มันมาตอนที่พวกนักเรียนกำลังเคารพธงชาติกันอยู่ จึงถูกกักตัวไว้ที่หน้าประตูโรงเรียน หลังจากถูกจดชื่อเพื่อตัดคะแนน มันก็ถูกปล่อยกลับมาเพื่อเข้าห้องเรียน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบปี เพราะปีนี้ทั้งปีไอ้นัยไม่เคยมาสายเลย

“เฮ้ย นัย ทำไมมาสายวะ ตื่นสายเหรอ” ผมถามมันเมื่อมันเข้ามานั่งประจำที่ที่โต๊ะแล้ว

ไอ้นัยทำหน้ายู่ยี่ “ไม่ได้ตื่นสาย มัวแต่เตรียมอาหารใส่บาตรน่ะ”

“ใส่บาตร” ไอ้ชัชซึ่งได้ยินเราคุยกัน ชะโงกหน้าเข้ามาสนทนาบ้าง “นี่ใจมึงใฝ่ดีขนาดนี้แล้วเหรอ ถึงขนาดทำบุญใส่บาตร”

ไอ้นัยทำปากหมุบหมิบ คิดว่าคงด่าไอ้ชัชอยู่ในใจ

“ไม่ใช่ว้อย กูจะรอถามเรื่องอยู่วัดให้ไอ้นัยไง กูโดนอาบ่นด้วย” ไอ้นัยบ่นอุบ

“ทำไมใส่บาตรต้องโดนบ่นด้วยวะ” ผมถาม

“ก็เมื่อคืนกูไม่ได้พูดอะไร แล้วตอนเช้าตื่นมาก็จะมาใส่บาตร อากูก็เลยต้องเตรียมของใส่บาตรตอนเช้านั้นเอง มึงว่าวุ่นไหมล่ะ” ไอ้นัยอธิบาย “ตอนแรกอากูบอกให้ใส่บาตรวันอื่น จะได้ไม่วุ่นวาย แต่กูบอกว่ามันจำเป็น ก็เลยต้องเล่าความจริงให้อาฟัง ว่ามึงอยากได้รู้ช่องทางไปอยู่วัด อาก็เลยยอมช่วย เนี่ย กว่าจะเสร็จ จนมาสายเลย เห็นไหม เพราะมึงแท้ๆเลยไอ้อู”

“นี่มึงเล่าเรื่องของกูให้อาฟังเหรอ” ผมอุทาน “แล้วคุณอาว่าไงบ้าง”

“เค้าว่ามึงเพี้ยนน่ะสิ” ไอ้นัยว่า

“ไอ้เรื่องนี้กูรู้มานานแล้วล่ะว่ะ” ไอ้ชัชพูดแทรกเข้ามา

“แล้วได้ความว่าไง” ผมถามด้วยความอยากรู้

ไอ้นัยทำหน้าเบ้ “มันไม่ง่ายเลยว่ะ เด็กวัดที่มาจากต่างจังหวัดพวกนี้ต้องรู้จักกับพระที่นี่ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องให้พระที่วัดทางบ้านฝากมาให้อยู่ สรุปก็คือต้องมีพระฝากมา ไม่งั้นอยู่ไม่ได้”

จะเป็นเด็กวัดยังต้องมีคนฝาก แม้แต่วัดก็ต้องใช้เส้นสายเหมือนกัน ผมนึกในใจ ผมไม่รู้จักพระที่ไหนที่จะให้ฝากได้ วัดแถวบ้านก็แทบจะไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปเลย ดูแล้วไม่เห็นช่องทางที่จะเข้าไปเป็นเด็กวัดได้เลย

“ช่างเถอะนัย” ผมบอกอย่างท้อแท้ “วิธีนี้คงไม่ได้ผล”

วันนั้นทั้งวันผมรู้สึกท้อ ระคนกับความน้อยใจทางบ้าน เลยตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าไม่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ ผมจะนอนอยู่กับบ้านที่ต่างจังหวัดเฉยๆ ไม่เรียนหนังสือ หรือไม่อย่างนั้นก็หนีออกจากบ้านไปตายเอาดาบหน้า ตอนนั้นคิดเอาไว้อย่างนั้นจริงๆ แต่ไม่ได้บอกใครให้ไอ้ชัชกับไอ้นัยรู้ เพราะกลัวมันหาว่าบ้า

ตอนบ่าย หลังเลิกเรียน ผมไปนั่งเป็นเพื่อนกับไอ้นัยที่หน้าตึกอำนวยการ เพื่อรอคุณอามารับตามปกติ แต่วันนั้นแปลกตรงที่คุณอาผู้ชายลงจากรถมาคุยกับผม การที่ไอ้นัยทำวุ่นเมื่อเช้า ทำให้คุณอารู้เรื่องของผมโดยตลอด

“ตกลงหาทางไปอยู่วัดได้ไหม” คุณอาถามยิ้มๆ

ผมส่ายหน้า “ไม่ได้ครับ อยู่วัดยังต้องใช้เส้นเลย”

“ถ้าอูยังไม่มีที่พัก มาพักอยู่กับอาเอาไหม ที่จริงก็ดีเหมือนกัน นัยอยู่บ้านนี้ก็ค่อนข้างเหงา มีเพื่อนสนิทมาพักอยู่ด้วยคงหายเหงาไปได้เยอะ อีกอย่าง อีกหน่อยนัยคงต้องนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนเอง ซึ่งไกลมาก ถ้ามีอูเป็นเพื่อน เวลานั่งรถนานๆจะได้ไม่เบื่อ” คุณอาพูด

ผมมองหน้าคุณอาผู้ชายด้วยความแปลกใจ นึกไม่ถึงกับความช่วยเหลือที่คุณอาหยิบยื่นให้ในครั้งนี้ มันเป็นทางออกที่ผมไม่เคยนึกถึงเลย มันเหมือนฝนตกกลางทะเลทรายอันแห้งแล้ง ทำให้หัวใจของผมเริ่มมีความหวังอีกครั้ง และยิ่งได้มีโอกาสอยู่กับไอ้นัยด้วย ถ้าเป็นจริงได้มันก็เกินฝันเสียอีก

ผมมารู้จากไอ้นัยในภายหลังว่าคุณอาผู้ชายตัดสินใจชวนผมมาอยู่ด้วยหลังจากที่ได้ปรึกษากับอาผู้หญิงแล้ว เพราะเห็นผมตั้งใจเข้าโรงเรียนนี้มาก ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่า มีเลือดสถาบันอยู่เข้มข้น ก็เลยอยากสนับสนุน

คืนวันนั้น ผมโทรไปคุยกับพ่อ เล่าเรื่องคุณอาผู้ชายให้ฟัง พร้อมทั้งทวงสัญญาว่าถ้าหาที่พักได้จะให้เรียน พร้อมทั้งบอกไปด้วยว่า ถ้ายังไม่ยอมให้ผมเรียนอีก ผมก็จะไม่เรียนหนังสือ ขออยู่ที่บ้านเกาะพ่อกับแม่ดีกว่า หลังจากนั้นก็โทรไปบอกเอ๊ด เพื่อบอกให้ช่วยพูดให้อีกแรงหนึ่ง เพราะพ่อค่อนข้างจะฟังเอ๊ด

วันถัดมา ไม่มีข่าวจากทางบ้านเลย พ่อและเอ๊ดต่างก็เงียบ ไม่ติดต่อมาเลย เวลาใกล้หมดลงทุกที ถ้าสิ้นสัปดาห์นี้ไม่ไปรายงานตัว ทุกอย่างก็เป็นอันหมดหวัง

- - -

วันศุกร์

วันสุดท้ายของการรายงานตัว วันนั้นตอนคาบเรียนช่วงเช้า ประมาณ ๑๐ โมง ห้องอำนวยการส่งเสียงตามสายมาว่ามีผู้ปกครองมาพบ ให้ไปที่ห้องอำนวยการ เพื่อนๆรวมทั้งผมเองต่างก็แปลกใจว่าใครกันที่มาหาผม

เมื่อผมไปที่ห้องอำนวยการ พบว่าผู้ที่มาหาผมไม่ใช่ใครอื่น พ่อนั่นเอง

“ป๋ามาทำไมอ่ะ” ผมยังงงๆ

“ก็มาเรื่องมอบตัวของเอ็งนั่นแหละ ยุ่งจริงเลยไอ้ลูกคนนี้” พ่อตอบ พร้อมกับบ่น

หัวใจของผมพองโตด้วยความดีใจ มันเหมือนปาฏิหาริย์จริงๆ

“แต่ป๋าจะให้เอ็งพักกับเอ๊ดนะ ป๋าคุยกับคุณลุงไว้แล้ว นี่ป๋าต้องบากหน้าไปขอร้องเขาเลยนะ” พ่อพูดต่อด้วยน้ำเสียงบ่น คุณลุงที่ว่าหมายถึงเพื่อนของพ่อที่เอ๊ดไปพักอยู่ด้วย

“อ้าว ไหงงั้นล่ะป๋า ทำไมไม่พักบ้านคุณอาไอ้นัยล่ะ” ผมแย้ง หัวใจหล่นลงมาวูบหนึ่ง

“ไม่เอา เกรงใจเค้า เค้าไม่ได้สนิทกับป๋า กลัวเอ็งไปทำเค้าเดือดร้อนวุ่นวาย” พ่อบอก

พ่อผมเป็นคนขี้เกรงใจคนมาก ขนาดเพื่อนสนิทก็ยังเกรงใจ ฝากลูกก็ฝากแค่คนเดียว จึงไม่แปลกอะไรที่ไม่กล้าให้ผมพักที่บ้านคุณอาไอ้นัย ตอนนั้นผมคิดดูแล้ว ยังไงก็ขอให้ได้เรียนเอาไว้ก่อน เรื่องที่พักคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามที่พ่อจัดการ ขืนโลภมากเดี๋ยวลาภจะหายไปหมด

หลังจากที่พ่อมาหาผม พ่อก็รีบเดินทางไปเพื่อจัดการเรื่องเอกสารและการรายงานตัว เป็นอันว่าผมได้เรียนที่ใหม่ค่อนข้างแน่แล้ว

10 comments:

Anonymous said...

ช่วงนี้อัปเดตช้าอีกแล้ว เพราะว่าทำงานไม่ทันครับ ต้องขอโทษด้วย

ตอนหน้าอวสานแล้วนะครับ โปรดคอยติดตาม (พูดยังกับละครทีวีเลย)

อู

Anonymous said...

I read all of yr story.
very impresstion kub
i hope the story will happy ending na kub
Dek pee neung!

Anonymous said...

I read all of yr story.
very impresstion kub
i hope the story will happy ending na kub
Dek pee neung!

Anonymous said...

เย้ มาอัพแล้ว
ชอบจริงๆ กำลังคลี่คลายแล้ว
เสียดายตอนหน้าจบแล้ว
ไม่รู้จะมีภาคสองหรือเปล่า
ถ้าไม่มี
ขอบทสรุปถึงความเป็นไปของแต่ละคนนะครับ

thom

Anonymous said...

อวสานแล้วมีต่อตอนมัธยมเมื่อไรครับคุณอูมีความสามารถในการเขียนดีครับ อ่านสนุก แต่เสียดายที่คุณอูคงไม่สามารถเปิดเผยตัวเองได้(เดือดร้อนถึงไอ้นัยไอ้ชัชด้วย)ขอบคุณ ขอให้คุณอูประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตครับ

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับอู
ตอนหน้าจบแล้วเหรอครับ
อูก้อคงได้เรียนที่ใหม่สมใจตามที่ผมได้ทายไปว่าอาของนัยชวนอูมาอยู่ด้วย
แต่ไม่ถูกหมดเพราะป๋าให้ไปอยู่กะอาเจ็กที่เดียวกะพี่
พอสอบปลายภาคเสร็จ อูกะนะนก้อย้ายที่เรียนใหม่
ชัชก้ออยู่ที่เก่า ซึ่งชัชมันก้อทำใจได้แล้ว
ก้อเป็นอันจบภาคประถม
หวังว่าอูจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์ตอนมัธยมต่อนะคับ
เพราะยังงัยเรื่องระหว่างอูกะนัยคงยังสนุกกันต่อและอาจจะมีเพือนใหม่ๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
รักอูคับที่กรุณาเล่าเรื่องประถมจนจบ
ชอบคุณอีกครั้งครับ
KTB

Anonymous said...

ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าผมติดตามอ่านมาโดยตลอด รู้สึกดีมากครับ ไม่ว่าจะมีเรื่องของ SEX หรือความรู้สึกอื่นๆ ทั้งความเศร้า ความน่ารัก ได้มองลึกถึงความรู้สึกภายใน บอกตรงๆ ว่าชอบมากนะครับ พอบอกว่าจะจบแล้ว ก็เลยขอเขียนมาบอกว่า ขอบคุณมาก ผมมีความสุขมากที่ได้อ่าน ในวัยเด็กของผม ณ ตอนนี้ ได้คิดว่ามีบางอย่างที่หายไป และไม่ได้ทำ พอได้อ่านแล้วเหมือนได้มองถึงวัยเด็กของผมเองในบางตอน OK เอาเป็นว่าขอบคุณอีกครั้งครับ
จาก กบ

Anonymous said...

เย้ อูได้ไปเรียนกับนัยแล้ว แต่ก็สงสารชัชจังเลยนะ เข้าใจเลยว่าเพื่อนสนิทย้ายไปเรียนที่อื่นมันเป็นยังไง เคยเจอตอนประถมเหมือนกัน จำได้จนทุกวันนี้ว่ามันเหงา เศร้า อ้างว้าง แบบสุด ๆ
จะจบแล้วเหรอครับ เสียดายจัง จะรอตอนภาคมัธยมครับ


จักรราช

Anonymous said...

ดีใจจัง เหมือนเป็นข่าวดีในชีวิตช่วยหนักหนาของผมเลย
ผมจำได้ว่า อูบอกไว้ว่า "จบภาค" นี่ครับ ต่อไปก็ต่อ
มัธยมศึกษา ทวงนะครับ อย่าจบแล้วจบเลยล่ะ!!
ถ้าหลอกผมนี่ จะร้องไห้เลยด้วย >3<

Arus

Anonymous said...

บอกว่าตอนหน้าจะอวสานแล้วใจหายครับ ไม่อยากให้เรื่องจบครับ จบภาคนี้แล้วมาต่อภาคมัธยมต่อนะครับเอาให้ถึงปัจจุบันเลยนะครับ จะเป็นกำลังใจให้ครับ อูทำได้อยู่แล้วครับ