Tuesday, January 1, 2008

ตอนที่ 78

ผลก็คือข้าวราดแกงซึ่งอยู่ในจานทั้งหมดกองอยู่บนอกเสื้อไอ้นัย จากนั้นก็ไหลลงมากองบนกางเกง ส่วนจานสังกะสีนั้นหลังจากกระแทกหน้าอกไอ้นัยแล้วก็หล่นลงบนพื้นโรงอาหาร ไอ้นัยพยายามปัดอาหารที่กองอยู่บนตัวมันออก แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เสื้อและกางเกงของไอ้นัยเลอะไปด้วยน้ำแกง

ผมไม่รู้ว่าไอ้ชัชจงใจหรือเปล่า แต่ว่าตอนนั้นผมรู้สึกว่าหมดความอดทนกับมันแล้ว

“มึงไปแกล้งมันทำไมวะ มึงไม่พอใจกูก็แกล้งกูสิ ไอ้นัยมันไปทำอะไรให้มึง มึงนี่แม่งเลวชิบหายเลย” ผมตะคอกใส่มัน

“เออ มึงว่ากูเลว แล้วมึงล่ะ ดีตายห่าแล้วนี่ ทั้งปีก่อแต่เรื่อง ที่ไอ้นัยเดือดร้อนก็เพราะมึงนั่นแหละ รู้เอาไว้” ไอ้ชัชย้อนเสียงดัง ไม่ยอมเสียเปรียบผมแม้แต่น้อย

“ชัช อู พอเถอะ กูไม่ได้เป็นอะไรมาก กินข้าวต่อเถอะ” ไอ้นัยพยายามพูดเพื่อให้ผมและไอ้ชัชสงบลง แต่ไม่ได้ผล ไม่มีใครฟังไอ้นัยเลย

“เออ ถ้ากูเลวมึงก็อย่ามาคบกับกูสิวะ มึงจะไปไหนก็ไปเลย ห่าเอ๊ย” ไอ้ชัชพูดจี้ใจดำผม ทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก ผมท้าทายมัน ไม่ยอมลดราวาศอกเช่นกัน

“ได้ มึงท้ากูนะไอ้อู ถ้ายังงั้นมึงกับกูเลิกคบกัน” ไอ้ชัชพูด ถึงมันจะพูดด้วยอารมณ์โกรธ แต่ผมสังเกตว่าตอนมันพูดนั้นเสียงของมันสั่นเครือ และตาแดงๆ

วูบหนึ่งของสำนึก ผมรู้สึกสงสารไอ้ชัชขึ้นมาจับใจ คบกันมาตั้งห้าหกปี ทั้งทุกข์ทั้งสุขมาด้วยกัน บทจะเลิกคบกัน ทำไมมันช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน แต่ตอนนั้นทิษฐิมันบังตา ถ้าเพียงไอ้ชัชไม่พูดจี้ใจดำของผม แต่ในเมื่อมันพูดไปแล้ว ถ้าผมยอมไอ้มัน ผมก็รู้สึกว่าทำไม่ได้

“เลิกก็เลิกวะ นึกว่ากูกลัวเหรอ” ผมประกาศตัดสัมพันธ์บ้าง

เพียงเท่านี้ ไอ้ชัชก็ลุกจากที่นั่งและเดินออกไปจากโรงอาหาร ทั้งที่ยังกินอาหารไม่เสร็จ ไอ้นัยนั่งทำหน้าเอ๋อ เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จนมันวางตัวไม่ถูก

“อู ทำเกินไปแล้วนะ” ไอ้นัยเตือนสติผม “ไอ้ชัชมันคงไม่ได้ตั้งใจหรอก”

“ไม่ได้ตั้งใจยังไงวะ ข้าวบนเสื้อมึงนี่มันลอยมาเองหรือไง” ผมยังไม่หายโมโห

“หมายถึงว่ามันคงไม่ได้ตั้งใจสาดข้าวใส่กูน่ะ” ไอ้นัยพยายามไกล่เกลี่ยอีก

“ช่างมันเถอะวะ มันอยากไปไหนก็ช่างมัน กินข้าวเถอะ” ผมพูดตัดบท ไม่อยากพูดหรือคิดถึงเรื่องไอ้ชัชอีก

- - -

บ่ายวันนั้น ในชั่วโมงเรียน ผมกับไอ้ชัชไม่ได้พูดกันเลย เสื้อผ้าของไอ้นัยเลอะเทอะ แม้จะเช็ดมาแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นแกงติดเสื้ออยู่

เมื่อเลิกเรียน ผมก็พยายามลากไอ้นัยไปรอที่หน้าตึกอำนวยการเช่นเดิม

“ไม่ต้องหรอกอู อยู่นี่แหละ” ไอ้นัยพูด

“ใครอยู่นี่” ผมถาม ยังงงกับคำพูดของมัน

“มึงไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่ที่นี่แหละ” ไอ้นัยพูดซ้ำ

“แล้วมึงล่ะ จะไปไหนเหรอ” ผมยังไม่เข้าใจ

“โธ่ว้อย หมายความว่าวันนี้เรารออยู่ที่นี่แหละ” ไอ้นัยอธิบาย

“ทำไมอยู่ดีๆคิดจะรอที่นี่วะ มันอันตราย ไม่ได้หรอก ไปรอที่เดิมนั่นแหละ” ผมยืนกรานความคิดเดิม

“มึงไปคุยกับไอ้ชัชหน่อยไป ดูสิ มันนั่งเศร้าทั้งบ่ายเลย” ไอ้นัยพูด สาเหตุที่มันไม่อยากไปรอที่หน้าตึกอำนวยการกับผมคงเป็นเพราะลำบากใจนั่นเอง แต่ตอนนั้นผมไม่ทันได้คิด

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจคุย มันเลิกคบกับกูแล้วนี่” ผมปฏิเสธ แต่ผมก็สังเกตเห็นเหมือนกันว่าไอ้ชัชนั่งเงียบทั้งบ่าย มีท่าทีเศร้าสร้อย ผมเองก็รู้สึกสงสารมันเหมือนกัน แต่ตอนนั้นยังมีทิษฐิอยู่

ไอ้ชัชเองหลังจากเลิกเรียนแล้วก็ไม่ได้ไปไหน คงนั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเอง ถ้ามันกลับหอไปเสียก็คงหมดปัญหา แต่นี่มันกลับนั่งอยู่ในห้องเรียนไม่ยอมไปไหน

สุดท้ายผมก็ลากไปนัยไปรอที่หน้าห้องอำนวยการจนได้ โดยทิ้งไอ้ชัชไว้ในห้องเรียน เรื่องไอ้ชัชก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องไอ้นัยก็อีกเรื่องหนึ่ง ไอ้ชิดยังมีโอกาสที่จะมารังแกไอ้นัยได้อีกทุกเมื่อ ผมไม่อยากทำผิดซ้ำอีก ดังนั้นผมจึงไม่ยอมให้ไอ้นัยรออยู่ในห้องเรียน

หลังจากที่ส่งไอ้นัยกลับบ้านเรียบร้อย ผมก็เดินกลับเข้าหอ เห็นไอ้ชัชนั่งดูทีวีอยู่ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปทักทายมัน คืนนั้นทั้งคืนผมไม่ได้พูดกับมันหรือแสดงอาการสนอกสนใจมันเลย ไอ้ชัชเองก็แสดงท่าทีไม่สนใจผมเช่นกัน

- - -

วันรุ่งขึ้น

วันนั้นเป็นวันเสาร์ และเป็นวันเสาร์สำคัญ เนื่องจากจะมีการประกาศผลการสอบเข้าเรียนต่อ ผมตัดสินใจไม่ไปดูผลเอง แต่ฝากไอ้นัยไปดูให้แทน

ผมกับไอ้ชัชก็เดินสวนกันไปสวนกันมาอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดกันสักคำ แรกๆเพื่อนฝูงในหอก็ไม่ได้สังเกต แต่ต่อมาก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น

“ทะเลาะกันนิดหน่อย” เป็นคำตอบของผม เมื่อถูกเพื่อนๆถาม

“โห เนี่ยนะ นิดหน่อย หน้าตาเหมือนโกรธกันมาสักร้อยปี มึงยังบอกว่านิดหน่อย แล้วมันเกิดอะไรขึ้นวะ” เพื่อนๆยังซักไม่เลิก เพราะไม่มีใครเชื่อว่าผมทะเลาะกับไอ้ชัชเพียงนิดหน่อยตามที่ผมบอก

“มึงไปถามไอ้ชัชเอาเองก็แล้วกัน กูขี้เกียจเล่า” พอถูกซักหนักๆเข้าผมก็เลยใช้วิธีโยนเผือกร้อนให้พ้นมือตัวเอง

ไอ้ชัชก็พอกัน ใครไปถามมัน มันก็บอกว่าให้มาถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น สรุปแล้วเพื่อนในหอก็เพียงรู้แค่ว่าเราทะเลาะกัน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง แต่อย่างไรก็ตาม ความลับย่อมไม่มีในโลก เหตุการณ์ตอนที่ไอ้ชัชสาดข้าวแกงใส่ไอ้นัย แล้วเป็นเหตุให้เราทะเลาะกันนั้นมีคนเห็นอยู่หลายคน ในที่สุดเพื่อนๆก็รู้จนได้ว่าเราโกรธกันเพราะอะไร

4 comments:

Anonymous said...

ว้า ยิ่งอ่านยิ่งเศร้าอ่ะพี่อู แต่พี่เขียนให้อารมณ์มากๆ เลย

น่างสงสารชัช สงสารนัย สงสารอูมั่กๆ แต่ละคนก็มีเรื่องเก็บไว้ในใจ มีความทุกข์ไม่แตกต่างกัน

shoPr

Anonymous said...

เรื่องเริ่มไปกันใหญ่...

Arus

Anonymous said...

เมื่อใหร่เรื่องร้ายๆ จะผ่านไปซักที เฮ่ออออ....

Norbert

Anonymous said...

ความวัวยังไม่ทันหาย
1.เรื่องไอ้เหี้ยชิดยังแก้ไม่ตกต้องดูแลไอ้นัย
2.การประกาศผมสัมภาษณ์ก้อยังไม่ได้ประกาศ
3.ถ้าสอบได้จะได้เรียนต่อหรือไม่
ความควายก้อเข้ามาแทรก
1.ไอ้ชัชผลักจานแกงรดเสื้อผ้าไอ้นัย
2.ไอ้ชัชประกาศเลิกคบ

เฮ้อ!!เหนื่อย มีแต่เรื่องกลุ้มๆ เห็นใจอูมากมาย
คนอ่านก้อกลุ้มไปด้วย
3-4ตอนหลังนี้มีแต่เรื่องเครียด ๆ ทั้งน้าน
เมื่อไหร่น้าเรื่องต่าง ๆ จะได้คลี่คลายลงซะที
ตอนนี้เรื่อง xxxxx คงต้องทิ้งไปก่อน
ไม่น่าจะมีอารมณ์เน๊อะ คนอ่านก้อคงไม่มีอารฒณ์เหมือนกาน 555555
เป็นกำลังใจให้อูนะค้าบบบ
ขอให้เหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไปด้วยดี
และไปง้อไอ้ชัชมันซะ ลดธิฐิลงบ้างเห็นใจมันนะมันเองก้อคงเศร้าและหดหู่หัวใจที่อูจะทิ้งมันไป
ก้อน่าเห็นใจมันนะ

นัยนี่มันเป็นเพื่อนที่แสนประเสริฐสุดจริงๆ
สุดยอดsuperเพื่อนที่แสนจะใจเย็นจริงๆ
ไม่เป็นคนขี้โมโห มันเข้าใจชัชนะคับ
ไม่โกรธด้วย ตรงข้ามกะอู
1.ใจร้อน
2.ขี้โมโห
3.ธิฐิไม่ยอมง้อกลัวเสียหน้า
4.ไม่ค่อยเอาใจเขา(ไอ้ชัช)มาใส่ใจเรา(อู)

สำหรับนัยแล้วเป็นสุดยอดเพื่อนจริง ๆ ในสังคมปัจจุบันนี้หายากมาก ผมอยากมีเพื่อนอย่างนัยซักคนจริงๆ
แล้วผมก้อคงจะอดรักและอยากเป็นแฟนกะมันซะจริงๆ
นอกจากได้รักมันแล้วยังได้สนุกๆกะเรื่อง xxxxx กะมันด้วย 5555555555555555555 พูดให้มันคลายเครียดลงบ้างนะก้อแค่เท่านั้นเอง
อยากรู้จริงๆว่าปัจจุมันนี้นัยมันเป็นยังงัยบ้างนะ
จบที่ไหนทำงานที่ไหนทำอะไร เหอเหอเหอ
อย่าลืมนะอูตอนสุดท้ายสรุปด้วยว่าแต่ละคนไปอยู่ที่ไหนไปทำอะไร
ขอบคุณมากครับผม
เป็นกำลังใจให้อูเหมือนเดิมครับ
และจะรอตอนต่อไปนะครับ
KTB
ปล.ผมแสดงความคิดเฉย ๆนะครับอินกะเรื่องไปหน่อย
จริงๆมันก้อเป็นเรื่องเล่าและเหตุการณ์ต่างๆก้อผ่านไปนานแล้วเป็นกว่า10ปีแล้วใช่มะ
ให้อูได้อ่าน commentของผมสนุกๆเล่นครับผม