Tuesday, December 25, 2007

ตอนที่ 76

หลังจากที่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นผมมีความรู้สึกหลายๆอย่างเกิดขึ้น คือทั้งเป็นห่วงไอ้นัย ทั้งโกรธไอ้ชิด และแน่นอน คนที่ผมโกรธมากที่สุดก็คือตัวเอง

สิ่งที่ได้ฟังจากไอ้ติ๊กก็ยังไม่ชัดเจนพอที่จะบอกได้ว่าไอ้นัยต้องเผชิญกับอะไรมาบ้างเมื่อวาน ผมรีบผลุนผลันออกไปจากห้องนอนของไอ้ติ๊กเพื่อจะลงไปโทรศัพท์ข้างล่าง

ที่ชั้นล่าง ผมเห็นไอ้ชัชกำลังนั่นเล่นอยู่คนเดียว ตอนนั้นมันไม่ได้ดูทีวีแล้ว ผมตรงเข้าไปหามัน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่ได้ยินจากไอ้ติ๊กให้ฟัง ตอนนั้นผมกำลังกลุ้มใจครับ ใจมันร้อนรุ่มไปหมด ปรึกษาไอ้ชัชเสียหน่อยก็ไม่เลว เผื่อว่ามีความคิดดีๆ

“ทำไงดีวะเนี่ย สงสารไอ้นัยจัง ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไร” ผมบ่นแถมท้ายหลังจากที่เล่าจบ

“กรรมของมันที่รู้จักมึงไง” ไอ้ชัชพูด ว่าแล้วมันก็ลุกเดินหนีไป

อ้าว ไหงเป็นยังงั้น ตอนนั้นผมยังคิดอะไรไม่ทัน กว่าจะหายงงไอ้ชัชก็เดินหนีหายไปแล้ว วันนี้ไอ้ชัชเป็นอะไรไปอีกคน ผมทั้งงง ทั้งโมโหไอ้ชัช เพราะเรื่องกำลังคอขาดบาดตายดันมาพูดประชดแล้วเดินหนี ไม่ยอมช่วยคิด

เรื่องไอ้ชัชเก็บเอาไว้ก่อน ผมรีบตรงไปที่เครื่องโทรศัพท์ แล้วหยอดเหรียญ ต่อไปหาไอ้นัยทันที

“โหล” เสียงใสๆรับสาย

“นัย นี่กูเองนะ เมื่อวานตอนเย็นเกิดเรื่องอะไรอ่ะ” ผมไม่มีอารัมภบท พอไอ้นัยรับสายก็เข้าเรื่องทันที

“…”

“นัย ฟังอยู่หรือเปล่า” ผมถาม

“ฮื่อ” เสียงจากฝั่งโน้นรับคำเบาๆ

“กูถามว่ามื่อวานเกิดเรื่องอะไร... ตอนที่กูกลับไปแล้วน่ะ” ผมย้ำคำถาม

“ไม่มีไรนี่” ไอ้นัยตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

“กูรู้นะนัย อย่าปิดกูเลย” ผมคาดคั้น

“รู้แล้วมาถามทำไมล่ะ” ไอ้นัยพูด คราวนี้เสียงของมันอู้อี้ ฟังไม่ค่อยชัด เหมือนคนสะอึก

“นัย มึงเป็นไรไปน่ะ มึงร้องไห้เหรอ” ผมถามอย่างร้อนรน ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยเห็นไอ้นัยร้องไห้มาก่อน

“…”

“นัย ไอ้ชิดทำอะไรมึง เป็นไรมากหรือเปล่า เล่าให้ฟังหน่อยเถอะ ขอร้องล่ะ” ผมอ้อนวอน

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริงๆ” ไอ้นัยพูดเบาๆ เสียงเหมือนคนพยายามกลั้นสะอื้นเต็มที่

“เท่านี้ก่อนนะอู เดี่ยวอาจะใช้สาย” ไอ้นัยพูด ว่าแล้วสายก็ถูกตัดไป

ตอนนี้อะไรๆสำหรับผมมันดูเลวร้ายไปหมด ไอ้นัยก็มีเรื่อง ไอ้ชัชก็มีปัญหา เรื่องร้ายๆทั้งหมดส่วนใหญ่มาจากผมทั้งนั้น การโทรศัพท์ไปหาไอ้นัยไม่ช่วยให้ผมดีขึ้นเลย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ผมเคร่งเครียดและวิตกเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้น ผมอยากไปหาไอ้นัยเดี๋ยวนี้ ไปอยู่ข้างๆมัน และปลอบใจมัน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้

ไปหาไอ้พงษ์ดีกว่า ผมคิด เพราะว่าไอ้พงษ์เป็นลูกสมุนของไอ้ชิด มันคงรู้อะไรมาบ้าง อีกอย่าง ไอ้พงษ์เคยช่วยนัยเอาไว้ ดังนั้นถ้ามันรู้อะไรมันคงยอมบอกผม

ผมเดินพล่านหาไอ้พงษ์ไปทั่วหอ แต่ก็ไม่พบ ถามไอ้ติ๊กก็มันก็ไม่รู้ ผมจึงไปนั่งรอมันที่ปากประตูหอเลย ที่จริงจะนั่งรอในห้องดูทีวีก็ได้ มันมาก็มองเห็นได้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นใจมันร้อนรุ่มไปหมด ก็เลยไปนั่งรอที่หน้าประตู

เวลาแห่งการรอคอยมันช่างแสนทรมาน ผมรอด้วยความกระวนกระวายจนค่ำ ไอ้พงษ์ก็โผล่มา มันคงหนีออกไปเล่นนอกหอที่ไหนสักแห่ง แต่ผมไม่ได้สนใจหรอกครับว่ามันจะไปไหน สนใจแต่เรื่องไอ้นัย

พอผมเห็นไอ้พงษ์ ผมก็รีบถามมันถึงเรื่องไอ้นัยทันที ตอนนั้นค่ำแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ในห้องดูทีวี ไม่มีใครอยู่แถวนั้น ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยิน ส่วนไอ้ชัชหายไปไหนก็ไม่รู้ ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจไอ้ชัชเลย

ปรากฏว่าแม้แต่ไอ้พงษ์ก็ไม่รู้เรื่องนี้ ไอ้ติ๊กก็ยังไม่ได้บอก มันเพิ่งจะมารู้จากผมนี่เอง

“นัยมันเล่าอะไรบ้างล่ะ” พงษ์ถาม

ผมส่ายหน้า “ไม่พูดอะไรเลย งั้นกูถามไอ้ชิดมันเองให้รู้เรื่องดีกว่า”

“อย่านะโว้ย” ไอ้พงษ์ห้าม “ถ้าไอ้ชิดมันรู้ว่าไอ้ติ๊กเล่าให้มึงฟัง มันซวยแน่เลย”

“แล้วถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง ไอ้นัยคงโดนมันรังแกอีก ยังไงก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง” ผมพูด

“กูว่ามึงจะไม่ทันพูดรู้เรื่อง มึงก็จะตายก่อนน่ะสิ” ไอ้พงษ์พูด “มึงรู้ไหมว่าชิดมันต่อยกับรุ่นพี่ ม.ปลาย มันยังชนะเลย แล้วมึงจะเอาอะไรไปสู้กับมัน”

“งั้นบอกครูก็แล้วกัน” ผมพยายามคิดหาทางที่เป็นไปได้อีก

“ถ้าครูรู้แล้วมันโดนไล่ออก ยังงั้นมึงกับไอ้นัยก็ตายอยู่ดี” ไอ้พงษ์ว่า

สรุปแล้วมีแต่ตายกับตาย ถึงตอนนั้นผมจนปัญญาจริงๆ คิดแล้วอยากจะร้องไห้ เพราะไม่เห็นทางที่จะแก้ปัญหาได้เลย เพราะไม่ว่าผมจะทำอะไร จะต้องมีคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย ตอนนั้นเองที่ผมได้ลิ้มรสชาติของความท้อแท้และสิ้นหวังเป็นครั้งแรกในชีวิต

คืนนั้น ผมหลบขึ้นไปนอนร้องไห้คนเดียวในห้องนอน เพราะนึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ผมร้องไห้อยู่เป็นชั่วโมง หมอนเปียกโชกไปหมด จนหลับไปเองในที่สุด

- - -

เช้าวันอาทิตย์ วันนั้นกว่าผมจะตื่นขึ้นมาก็สายตะวันโด่ง ไอ้ชัชไม่ได้อยู่บนเตียง มันคงลุกไปกินอาหารเช้าแล้ว

ผมรอจนสายๆ ประมาณ ๑๐ โมง ก็ลองโทรไปหาไอ้นัยอีก

“โหล” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากปลายสายด้านโน้น ไอ้นัยชอบใช้คำว่า “โหล” เฉยๆจนติดปาก

“นัย นี่อูนะ” ผมพูด แล้วก็พูดอะไรต่อไม่ออก เพราะมันจะร้องไห้ออกมา

“ฮื่อ มีไรเหรอ” ไอ้นัยถาม ไม่รู้ว่าผมอุปาทานไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าน้ำเสียงของไอ้นันช่างเศร้าสร้อยเหลือเกิน

“กูขอโทษนะนัย กูเสียใจ มึงต้องเดือดร้อนเพราะกูเป็นต้นเหตุ ขอโทษนะเพื่อน กูอยากจะแก้ไข แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง...”

ผมพูดได้แค่นี้ก็ต้องรีบวางสายโทรศัพท์ เพราะตอนนั้นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว ผมไม่อยากให้ไอ้นัยได้ยินผมร้องไห้ เพราะความคิดในตอนนั้นก็คือ ผมต้องเข้มแข็ง ผมไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ไอ้นัยเห็น...

8 comments:

Anonymous said...

... ตอนนี้รู้สึกไม่ดีอยู่ อ่านแล้วยิ่งรู้สึกไม่ดีขึ้นไปอีก

แต่ขอบคุณนะที่มาต่อให้อ่าน

Arus

Anonymous said...

ขอบคุณครับอู เข้ามาวันนี้ได้อ่านทีเดียวสามตอนเลย อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกสะเทือนใจมากครับ รู้สึกไม่ดีเลยไม่ได้โทษอูนะครับ แต่เหตุการณ์มันเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ไอ้ชิดมันไม่ยอมเลิกสักที อูต้องทำอะไรสักอย่างเเล้วครับ เครียดครับ อยากไปจัดการไอ้ชิดให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซักที ไอ่ห้ากิ๋นปักชิด
แล้วอูจะทำไงต่อไปอ่ะครับสงสารนัยมากๆครับ ทำไมไม่ให้ผู้ใหญ่จัดการครับอูเอาให้มันออกไปเลยเกลียดมันจริงๆครับไอ้คนเลวชิด ช่วยมาต่อเร็วๆ นะครับ รออยู่ครับ
กร ครับ

Anonymous said...

อ่านแล้วเศร้า สงสารนัยกับอู

เหมือนมีแต่ปัญหาเนอะครับ

ซักช่วงของชีวิต มันจะมีช่วงแบบเนี้ยแหละ


shoPr

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับอู
สำหรับเรื่องตอนที 76
รู้สึกไม่สบายใจปกับอูด้วยครับ
ดีใจครับที่อูไม่ได้อยู่เฉย ๆ
สงสารนัย
อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังงัยต่อไป
จะมีใครจัดการกับไอ้ชิตได้มั้ย

จะรอต่อไปเหมือนเดิมนะครบ
ขอบคุณครับ

Anonymous said...

มะไหร่เรื่องนี้จะคลี่คลายน้าา

Anonymous said...

นัยนี่เก็บอะไรไว้เยอะจิงๆเลย
สงสารอ่ะ

Anonymous said...

สวัสดีปีใหม่นะครับอู ขอให้มีความสุขมากๆตลอดปี 2551 คิดหวังในสิ่งดีๆก็ขอให้สำเร็จสมความตั้งใจทุกประการ

ผมยังเข้ามาอ่านทุกวันและขอขอบคุณกับเรื่องดีๆที่อูเขียน

Anonymous said...

เศร้าจังเลยยยย T_T ...
เป็นความกดดันที่สุดของทุกคนเลยนะ ... การที่เราก็รู้ปัญหา แต่ไม่สามารถแก้ไขหรือทำอะไรกะมันได้เนี่ย .... กดดันสุดๆไปเลย

สงสารนัย สงสารชัช สงสารอูจังคับ .... เป็นกำลังใจให้นะครับ

แล้วมาต่อเร็วๆหล่ะอู