Monday, December 3, 2007

ตอนที่ 71

ตอนบ่ายวันนั้น หลังจากที่ผมกลับมาถึง เพื่อนๆก็เข้ามารุมล้อมซักถามรายละเอียดกันใหญ่ เพราะไม่มีใครนึกว่าผมจะสอบติดโรงเรียนดังได้โดยไม่ต้องติว ผมเองก็รู้สึกภูมิใจมาก เพราะตั้งแต่เรียนชั้นประถมมา แม้ผมจะสอบได้ลำดับที่เป็นเลขหลักเดียว แต่ก็ไม่ใช่เด็กที่เป็นคนเด่นอะไร ได้ลำดับที่เจ็ด แปด เก้า แถวๆนี้มาตลอด ไม่ว่าจะแข่งขันอะไร ผมก็ไม่เคยได้รางวัล มีแต่เกือบได้กับเกือบสำเร็จทั้งนั้น เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละครับ ที่ผมรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรได้สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน และได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ

ขณะที่ผมกำลังดีใจกับความสำเร็จอยู่นั้น ผมก็เริ่มสังเกตว่าไอ้ชัชไม่ได้อยู่แถวนั้นแล้ว มันปลีกตัวไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบได้

ผมเฮฮาอยู่กับกลุ่มเพื่อนต่ออีกสักครู่ จากนั้นก็พยายามปลีกตัวออกมา ผมเดินหามันจนทั่วหอก็ไม่พบ ถามใครก็ไม่มีใครเห็น

ถ้ามันไม่อยู่ในหอ มันก็อาจเดินไปซื้อของที่ร้านค้านอกโรงเรียน แต่คิดดูแล้วคงไม่ใช่ ไอ้ชัชคงไม่ไปซื้อของในเวลาแบบนั้น ผมจึงเดินออกจากหอและตามหาไอ้ชัช

หลังจากที่เดินหาไปจนเกือบทั่วโรงเรียน ก็มาพบไอ้ชัชนั่งเล่นอยู่บนชิงช้าคนเดียวอยู่ที่โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนอนุบาลนี้อยู่อีกด้านหนึ่งของโรงเรียนเลยครับ อยู่ข้างๆตึกประถมต้น ที่นั่นจะมีชิงช้าอยู่หลายตัว วันนั้นเป็นวันหยุด ดังนั้นที่โรงเรียนอนุบาลจึงไม่มีใครอยู่เลย

ผมยังจำภาพของไอ้ชัชในวันนั้นได้อย่างติดตา มันนั่งคนเดียว เอาเท้ายันพื้นไกวชิงช้าเบาๆ ท่าทางเงียบเหงา สายตาเหม่อลอย ไอ้ชัชซึมอย่างเห็นได้ชัด

ความเศร้าหมองของไอ้ชัชเหมือนโรคติดต่อ มันทำให้ผมหดหู่ไปด้วย ความดีใจของเมื่อครู่มลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“ชัช ชัช เป็นอะไรไปน่ะ” ผมถาม ที่จริงก็พอรู้อยู่ว่าเป็นอะไร ถามไปอย่างนั้นเองเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นการสนทนาอย่างไรดี

ไอ้ชัชส่ายหัว ไม่พูดจา นั่งไกวชิงช้าด้วยท่าทีเซื่องซึม

“ชัช เป็นไรไปน่ะ พูดกับกูหน่อยดิ” ผมพูด พลางก้าวขึ้นไปนั่งบนชิงช้าคู่กับมัน ชิงช้านี้เป็นชิงช้าแบบที่นั่งคู่

ไอ้ชัชส่ายหัวไม่พูดอีก แต่ตาเริ่มแดงก่ำ ผมนึกถึงตอนที่มันพยายามปลอบผมยามที่ผมเป็นทุกข์ ผมจึงเอามือไปโอบเอวมัน แล้วกอดมันแน่น

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยวะชัช มึงมีอะไรก็พูดมาเถอะ กูเป็นเพื่อนรักของมึงนะ”

เท่านั้นเอง ต่อมน้ำตาของไอ้ชัชก็แตก มันสะอึกสะอื้นจนตัวโยน

“มึงก็รู้นี่ว่าเพราะอะไร” ไอ้ชัชพูดแล้ว เสียงของมันปนสะอื้น ฟังแล้วสงสารมันจับใจ

“ฮื่อ กูก็รู้แหละ” ผมพูด “แต่มึงจะให้กูทำยังไงล่ะ เป็นใครถ้าสอบติด มันก็ต้องไปทั้งนั้น”

“แต่กูไม่อยากจากมึงไป มึงกับไอ้นัยไปกันหมด แล้วปล่อยให้กูอยู่ที่นี่คนเดียว” ไอ้ชัชพูดไปก็ร้องไห้ไป

ผมกอดไอ้ชัชเอาไว้แน่น พูดไม่ออกจริงๆครับ ไม่อยากปลอบมันว่าไม่ไปก็ได้ เพราะไม่อยากโกหกมัน ในยุคนั้น การที่สอบเข้า ม.๑ โรงเรียนดังได้มันก็เหมือนกับนักเรียนมัธยมปลายที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยดังๆได้นั่นแหละครับ ความรู้สึกไม่ผิดกันเลย

“ถ้าไอ้นัยสอบไม่ติด แล้วมึงสอบติด มึงจะยังไปไหมวะ” ไอ้ชัชถาม

คำถามนี้เล่นเอาผมถึงกับอึ้ง นั่นสินะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมจะไปไหม

“กูก็ตอบไม่ถูกนะชัช” ผมตอบมันไปตามตรง “ตอบไม่ได้เหมือนกัน”

“แสดงว่ามึงไปเพราะไอ้นัย” ไอ้ชัชสรุป

ผมอึ้งไปอีก ที่จริงมันก็มีส่วน แต่จะมีส่วนแค่ไหน ผมเองก็ตอบใจตนเองไม่ได้เหมือนกัน

“ไม่รู้สิ” ผมตอบ ตอนนั้นใจผมเริ่มสับสน ชักจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว

“มึงไม่ไปได้เหรอ อู” ไอ้ชัชพูด มังนิ่งไปนิดหนึ่ง แล้วก็พูดต่อ “กูรักมึงนะอู”

“เออ กูก็รักมึง มึงเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของกู” ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจกับคำว่าความรักดีเท่าไร ผมคิดว่ามันกำลังบอกผมว่าผมเป็นเพื่อนรักของมัน

“กูชอบมึงมากนะ ไอ้อู มึงไม่เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ มึงสำคัญกับกูมาก” ไอ้ชัชพูด ตอนนั้นผมเริ่มงงและสับสน ผมชักไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าไอ้ชัชมันรู้สึกยังไงกับผมกันแน่ มันเป็นความรู้สึกที่เข้าใจยากสำหรับเด็ก ป.๖ ในสมัยนั้น ผมยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจคำว่า ความรัก

“กูรู้ว่ามึงชอบไอ้นัย ก็เลยรู้สึกอิจฉา บางทีก็เลยแกล้งมึงกับไอ้นัย” ไอ้ชัชพูดต่อ พลางสะอื้น

หลังจากที่ได้ฟังไอ้ชัช ผมถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง คำพูดของมันเหมือนกับฉุดให้ผมออกมาจากความมืดสู่ความสว่าง ใช่สินะ คงเป็นเพราะผมชอบไอ้นัยนั่นเอง คำว่า “ชอบ” นั้นมันมีความหมายมากกว่าคำว่าเพื่อน ตอนนั้นผมเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยครับว่าชอบไอ้นัยในแบบที่มากกว่าความเป็นเพื่อน หรือว่าอาจจะรู้ตัว แต่ไม่กล้ายอมรับความจริงอันผิดธรรมชาติของตนเองก็ได้

ผมคลายมือที่โอบเอวไอ้ชัชออก ตอนนั้นรับมือกับสถานการณ์ไม่ถูกจริงๆ

16 comments:

Anonymous said...

อ่านมาจนถึงตอนนี้ รู้แล้วครับว่า อู นัย ชิต เรียนดรงเรียนเดียวกับผมเลย แต่ผมอาจจะรุ่นพี่กว่ามั้ง เพราะตอน ป.5 ตอนนั้นปี2522ครับ

Anonymous said...

หุหุ มาเป็นกำลังใจให้น่ะคับ

Anonymous said...

ยินดีที่ได้รู้จักครับ และขอขอบคุณที่ไม่บอกชื่อโรงเรียนออกมา กลัวโรงเรียนเสียชื่อเพราะศิษย์อย่างผมครับ

ช่วยกันลุ้นนะครับว่าไอ้ชัชจะเป็นอย่างไร ตอนนี้คนเริ่มเกลียดผมเยอะแล้ว ต้องขอเก็บเนื้อเก็บตัวหน่อยครับ

อู

Anonymous said...

มาต่อไวๆนะครับ ลุ้นตอนต่อไปมากๆ

Anonymous said...

ผมไม่เกลียดน้าคร้าบบบ :) ตอนช่วงนั้น เป็นใครก็ต้องสับสนกับความคิดและการกระทำของตัวเองทั้งนั้นแหละ หรือคนอื่นๆว่าไม่จริง? ยิ่งเป็นความรักครั้งแรก ... ความรักที่แตกต่างจากคนทั่วไปของเด็กคนหนึ่ง

บางครั้งการกระทำในตอนนั้น ก็ตัดสินด้วยความคิดเห็นในปัจจุบันไม่ได้หรอกนิ :D ...

ก็ได้แต่หวังว่า เรื่องราวดำเนินไปด้วยดี มีคนเสียใจน้อยที่สุด .... และหวังว่า .. ทุกวันนี้ ทั้งอู ชัช และนัย จะยังสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้อยู๋นะครับ ...

สู้ๆ

Anonymous said...

ว่าแต่ ... มีคำใบ้เรื่องชื่อโรงเรียนมั๊ยครับ .. หุหุ เพราะผมเดาไม่ได้เลยอ่ะ :p

แต่ถ้าเป็นโรงเรียนเดียวกับคุณป้องแล้วปิดไปแล้วนี่ ผมคงไม่รู้จัก :p ยังเป็นวุ้นอยู่เลย แหะๆๆ

Anonymous said...

นี่เป็นลักษณะของการพัฒนาการของการเป็นเกย์ของเด็กที่เริ่มแรกเป็นเด็กชายแท้ๆ แต่เมื่อมาเรียนที่โรงเรียนชายล้วน สิ่งแวดล้อมอำนวยให้ใด้ใกช้ชิด
สนิทกันมากโดยเฉพาะกลุ่มเล็ก ๆ 2-3 คน
แล้วมีเรืองสนุก ๆ เกี่ยวกับทางเพศ เริ่มแรกก้อจับ
ควยกันเล่น แลกกันดูควย ถึงการชักว่าวให้กัน
แล้วเลยไปจนถึงทดลองเอากันทางข้างหลัง ตอนแรกอาจทำไม่ได้ก็จะเอากันที่ร่องก้น พัฒนาไปถึงการกอดกันจูบกัน ทำให้ความสัมพันกันมันผิดแผกไปจากการเป็นเพื่อนกัน ทำให้เกิดความรักเกิความหึงหวงอย่างที่ชัชมันบอกอู ความโหยหาของอูที่มีต่อนัยล้วนแล้วเกิดจากการพัฒนาของความเป็นเกย์ เด็กชายรักเด็กชาย
ทั้ง ๆ ที่พฤติกรรมของทั้งสามคนเป็นเด็กชายจริงๆ
ไม่ใช่เด็กชายที่แสดงออกถึงความเป็นคล้ายเด็กผู้หญิง
ปัจจุบันนี้ จำนวนปนระชากรเกย์เพิ่มขึ้นมากมายจากการที่สังคมเกย์มีการเปิดเผยมากขึ้น รวมทั้งสื่ออินเตอร์เนท
ก้อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกบรรดาเกย์ท้งหลายได้
สื่อถึงกันแม้จะไม่รู้จักกัน ได้ติดต่อหาความรักจากกันและกันได้
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของเด็กที่อายุในการพัฒนาการเป็น เกย์ตั้งแต่อายุ 10-12ขวบ อย่าง อู ชัช นัย
สำหรับ อู กับ ชัช นั้น ชัดเจนมาก ชัชนั้นยอมรับตัวเองชัดเจนมาก แต่อูยังสับสนอยู่ แต่เพฤติกรรมที่มีต่อนัยชั้นชัดเจนมากว่ารักนัยเข้าไปแล้ว(แบบเกย์) สำหรับนัยนั้นยังดูไม่ออก เพราะพฤติกรรมยังไม่ชัดเจนถึงแม่จะมีการให้คนอื่นชักว่าวให้ตั้งแต่แรก ๆ แต่ก้อเป็นเรื่องที่ไม่ได้คิดอะไร เป็นคนตามใจเพื่อน ใครจะทำอะไรก้อได้ ให้ทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ได้มีการโหยหาคนนั้นคนนี้อย่างชัดแจ้ง แต่แนวโน้มแบบนี้เมื่อนาน ไป ก้ออาจพัฒนาการไปเป็นแบบ "ไบ" ได้ด้วย คือนัยโตมาอาจเป็นคนที่ชอบได้ทั้งผู้ชายและหญิง แต้่ สำหรับ อูและชัช นั้น เป็นเกย์โบทครับ นับเป็น "ไบ"
ถึงยังงัยผมก้อรักทั้ง อู นัย และชัช นะครับ
โดยเฉพาะอูที่นำเอาชีวิตจริงมาเล่าให้พวกเราฟัง
ได้สนุกมาก
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณจริง
จะติดตามและเป็นกำลังใจให้ตลอดไปนะครับ
อย่าทิ้งพวกเราไปนะครับ

อยากให้เล่าจนถึงชิวิตปัจจุบันด้วย
เรื่องนี้เป็นเรื่อง"เกย์" ที่ดีมากที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว
ถ้านำไปทำหนังก้อคงดังพอ กับเรื่อง "รักแห่งสยาม"
ทีเดียว ถึงแม้ว่าความหมายจะต่างกัน
เพราะเรื่องนี้คือ "การพัฒนาการของการเป็นเกย์ของเด็กชาย" น่ารักมากครับเด็ก ๆเหล่านี้ จากไร้เดียงสา
มาเป็นเกย์อย่างรัย

ผมอยากให้ทุกคนที่อ่านเรื่องนี้ กรุณาเสียเวลานิดหน่อยเข้ามาตอบกระทู้แสดงความคิดเห็น เป็นกำลังใจให้กับอู กันมาก ๆ ด้วยครับง่าย ๆ ครับ แค่พิมพ์ในกรอบข้อความ แล้วลงชื่อ แล้วคลิกเลือกที่ "ไม่ระบุชื่อ" แล้วคลิก "เผยแพร่ความคิดเห็นของคุณ" ข้อความก้อจะไปปรากฎที่ "comment" ครับ

KTB ครับอู

Anonymous said...

ขอแก้ข้อความนิดนึงครับ
จาก "อูและชัช นั้นเป็นเกย์โบท นัย เป็น "ไบ"
รักอูครับห้ามโกรธนะ
ที่บังอาจวิจารณ์ตีความ 555555

KTB

Anonymous said...

อูครับ

ที่ KTB พูดวิเคราะห์มาเนี่ยถูกป่าวคับ 555+

ยังเป็นกำลังใจให้นะครับ ;)

Anonymous said...

ที่ว่ามาก็มีส่วนถูกแต่ถูกไม่ทั้งหมดครับ เอาไว้ค่อยๆติดตามไปดีกว่านะครับ ค่อยๆติดตามพัฒนาการไปเรื่อยๆดีกว่า บอกหมดเดี๋ยวไม่มีอะไรให้ลุ้น

นึกไม่ถึงเหมือนกันครับว่าจะได้รับความชื่มจากคุณ KTB ขนาดนี้ ตอนแรกว่าจะเล่าเป็นเรื่องสั้นๆ เล่าไปเล่ามา นี่ยาวเกือบ 200 หน้าของเวิร์ดเข้าไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะเล่าอะไรได้ยาวขนาดนี้

ความตั้งใจเดิมคิดว่าจะเล่าจนจบ ม.3 เท่านั้นครับ เพราะเป็นวัยเด็กที่ผมถือว่ามีค่ามากที่สุด และมีอะไรให้หวนรำลึกถึงมากที่สุด

อู

Anonymous said...

เป็นกำลังใจให้นะครับ แล้วอูอย่าหายไปนานอีกนะ

Anonymous said...

น่ารักมากๆ ครับ เป็นเหมือนตัวแทนมิตรภาพกับความรักใสๆ ในวัยเด็ก ที่ทุกคนเคยได้เจอ

Anonymous said...

กลับมาเป็นกำลังใจให้อู เหมือนเดิมครับ อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกหดหู่ยังไงไม่รู้ครับ สงสารชัชจับใจเลยครับ จะมีวิธีไหนครับที่จะปลอบชัชไม่ให้สะเทือนใจไปมากกว่านี้ครับ อยากให้อูเล่าเรื่องต่อให้จบจนถึงปัจจุบันเลยนะครับ อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนๆตอนนี้เป็นยังไงบ้าง อีกอย่างที่อยากรู้คือ นัย กับชัช ได้อ่าน อู สตอรี่หรือยังถ้าอ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ถ้าได้อ่าน "comment" นี้แล้วช่วย "comment"ตอบด้วยนะครับ
จะรอนะครับ
คิดถึงครับ
กร ครับ

Anonymous said...

เห็นด้วยกะกรอย่างนึงครับคือ อยากให้อูเล่าถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันเลย ว่า อู ชัช นัย เป็นอย่างไรกันบ้าง? ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้รึเปล่าครับ?

อยากรู้จัง :p

ยังเป็นกำลังใจและรอคอยอูอยู่นะครับ ;)

Anonymous said...

อ้อ ถามคุณอูอีกอย่างคับ

คือถ้าจะให้คุณอูดูดวงให้เนี่ย บอกวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก สถานที่เกิดไปหมดแล้ว ถ้าโดนคุณอูทำเสน่ห์หรือทำคุณไสยขึ้นมาจะทำไงครับ? อิอิ อยากจะให้คุณอูดูดวงให้นะเนี่ย ;) เดี๋ยวหลงคุณอูแย่เลย 555+

Anonymous said...

ทุกวันนี้ก็มีคนส่งรายละเอียดมาให้ผมดูดวงอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เห็นมีใครหลงเสน่ห์ของผมสักคน ผมคงไม่อันตรายขนาดนั้นหรอกครับ หุหุ

อู