Monday, July 23, 2007

ตอนที่ 48

กลางคืนวันนั้น ผมรู้สึกนอนหลับยากนิดหน่อย เพราะมัวคิดถึงแต่รสความสุขที่ได้จากเมื่อคืนก่อน พวกเราต่างก็ได้ลองก้นของอีกสองคนที่เหลือนั่นแหละครับ ไม่มีใครรอดจากดุ้นของใคร พูดถึงรสชาติและความแตกต่างระหว่างไอ้นัยและไอ้ชัชมันก็มีบ้างแหละครับ ไอ้นัยเวลามันทำรู้สึกว่ามันจะดุดันอยู่ลึกๆ ส่วนไอ้ชัชมันก็แบบขี้เล่น บางทีก็เอาไปหัวเราะไป (จะบ้าแล้วไอ้นี่) ส่วนความรู้สึกของผมเวลาเอาไอ้สองตัวนั่น อือม์ บรรยายลำบากเหมือนกันครับ เพราะมันก็เพื่อนรักทั้งสองคน ทางด้านกายภาพนั้นก็พอๆกันนั่นแหละครับ เพราะยังเด็กกันทั้งนั้น เรื่องความฟิตไม่แตกต่าง แต่ว่าไอ้นัยนั้นผมรู้สึกอบอุ่นกับมันมากกว่า ตอนนั้นเริ่มมีความรู้สึกด้านโรแมนติกขึ้นมาบ้างแล้ว แม้จะยังไม่มากนักก็ตาม

ส่วนผลที่ตามมาน่ะหรือครับ อย่าให้บอกเลย แสบก้นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว โดนเอากันคนละสองสามรอบติดๆกันมันเยอะเกินไปครับสำหรับครั้งแรก เวลาถ่ายงี้ร้องโอดโอยกันทั้งสามคน มันเหมือนมีใครเอาแท่งเหล็กร้อนๆมานาบในรูก้นเลยครับเวลาถ่าย เวลาเดินยังรู้สึกแสบเลย ต้องทำขากางๆนิดหน่อย ไม่รู้อุปาทานไปหรือเปล่านะครับ แต่ดูเหมือนเราทั้งสามคนเดินขากางนิดหน่อยหลังจากนั้น อิอิ จู๋ก็บวม ถลอกและแสบไปหมด รวมแล้วจะเรียกว่ารักสนุกทุกข์ถนัดก็ได้มังครับ โคตรเจ็บเลย รู้สึกเข็ดไม่อยากให้ใครเอาตูดอีกแล้ว แต่ในความเป็นจริง ถ้าอยากจะเอาไอ้สองตัวนั่นก็ต้องยอมให้มันเอาเช่นกัน ไม่งั้นมันก็ไม่ยอม

ยามดึกในหอนักเรียนประจำ ผมนอนฝันหวานปนแสบก้น ตั้งนานกว่าจะหลับ นอกจากเรื่องเซ็กซ์แล้วก็คิดเรื่อยเปื่อยไปถึงอนาคตข้างหน้า การสอบ การย้ายโรงเรียน ไอ้นัย สารพัด คืนนั้นเป็นคืนที่หลับยากมากๆเลยครับซึ่งปกติเด็กในวัยนี้จะหลับง่าย การนอนไม่หลับจึงไม่ใช่เรื่องที่ปกตินัก ส่วนไอ้ชัชนั้นก็ปกติครับ หลับปุ๋ยไปเลย

และแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็มาถึง มันเป็นวันเปิดเรียนวันแรกของเทอมปลาย การเปิดเทอมปลายไม่ค่อยน่าตื่นเต้นมากนักหรอกครับ เพราะว่าจากกันแค่เดือนเดียว อีกอย่าง มันไม่มีอะไรใหม่ด้วย ชุดนักเรียนก็ชุดเดิมของเมื่อเทอมต้น ครูก็คนเดิม แต่ ป. ๖ เทอมปลายก็มีที่พิเศษนิดหน่อย นั่นคือ หลายคนได้ไปติวเพื่อสอบเข้า ม.๑ มาเมื่อตอนปิดเทอม ดังนั้นหัวข้อยอดฮิตของการคุยกันในเช้าวันแรกก่อนเริ่มการเรียนนี้ก็คือเรื่องการไปติวมานั่นเอง ต่างมีการซักถาม แลกกันดูชีต ไอ้นัยก็นั่งคุยกับพวกที่ไปติวมา ส่วนใหญ่ก็ติวที่เดียวกันนั่นแหละครับ มีส่วนน้อยที่ไปติวที่อื่นหรือว่าติวส่วนตัว

ผมนั้นไม่ได้ไปติว แต่ก็ขอเนียนเข้ากลุ่มด้วย เพราะเผื่อจะมีอะไรดีๆที่เป็นประโยชน์ เช่น ข้อสอบแปลกๆ ส่วนไอ้ชัชนั้นท่าทางไม่ค่อยเสบย ถ้าเป็นภาษาเก่าหน่อยก็ต้องบอกว่าสีหน้าบอกบุญไม่รับ ไม่ค่อยเข้ามาคุย จะไปนั่งคุยกับพวกไม่ได้สอบเข้า ม.๑ มากกว่า ดูท่ามันไม่ค่อยจะชอบเรื่องการสอบเข้า ม.๑ นี้สักเท่าไร

สักพักออดเรียกเข้าแถวเคารพธงชาติก็ดังขึ้น พวกเราทุกคนก็รีบลงไปข้างล่าง ผมยืนติดกับไอ้นัยในแถวเช่นเคย

“ไอ้นัย ตูดเป็นไงบ้าง” ผมกระซิบถามมันเบาๆ

“โคตรแสบเลย” ไอ้นัยทำหน้าเบ้ “กูเดินขาถ่างมั้ยวะ ดูออกป่าว แล้วมึงอ่ะ”

“ดูไม่ออกหรอก” ผมกระซิบอีก “กูก็แทบตายเหมือนกัน ขี้แทบไม่ไหว ของมึงมันใหญ่กว่าเพื่อน ทำให้กูกับไอ้ชัชลำบาก”

พอไอ้นัยได้ยินก็หัวเราะฮุฮุแบบสะใจ และแล้ว เราก็รีบจบการสนทนาเพราะกลัวว่าใครจะได้ยินเข้า

หลังจากที่เคารพธงชาติเสร็จแล้ว พวกเราก็เดินแถวขึ้นห้องเรียน เช้านี้มีเรื่องแปลกคือในห้องเรียนมีโต๊ะเรียนเกินมาอีกหนึ่งชุด คือทีแรกเอาแต่จับกลุ่มคุยกัน ผมยังไม่ทันสังเกต ได้ยินแว่วๆจากไอ้พวกที่นั่งหลังห้องมันคุยกันเหมือนกันว่าโต๊ะใคร โต๊ะใคร แต่ไม่ได้ไปสนใจ มัวแต่พูดเรื่องข้อสอบอยู่ แต่พอทุกคนนั่งประจำที่แล้วก็เลยเห็นว่ามีโต๊ะว่างที่ท้ายห้องอยู่หนึ่งโต๊ะ เป็นโต๊ะเรียนที่ถูกจัดเตรียมมาใหม่

ใครหว่า!

หลังจากจับกลุ่มวิพากษ์กันได้ไม่นาน ในที่สุดปริศนาก็ถูกเฉลยเมื่อครูประจำชั้นของพวกเราเข้ามา พร้อมกับเด็กนักเรียนใหม่อีกคนหนึ่ง

“พวกเรา” ครูพูดขึ้นเมื่อเข้ามาในชั้น และรับความเคารพจากนักเรียนแล้ว “ครูขอแนะนำเพื่อนใหม่อีกคนหนึ่งให้นะ ชื่อชิดชัย เค้าจะมาเรียนกับพวกเราด้วยในเทอมนี้ เค้าย้ายตามผู้ปกครองมา ก็เลยต้องมาแทรกเรียนกลางปี เอ้าชิดชัยจ๊ะ ไปนั่งที่ได้”

เมื่อครูประจำชั้นแนะนำตัวนักเรียนใหม่ เสียงฮือฮาก็เกิดขึ้น ผมหันหน้าไปพยักหน้ากับไอ้ชัชเป็นทำนองว่า เห็นไหมล่ะ ย้ายตามผู้ปกครองอีกแล้ว มันเห็นหน้าผมมันก็รู้ว่าผมคิดอะไร เพราะมันเป็นเหตุผลเดียวที่ถูกใช้อ้างเวลามีนักเรียนใหม่เข้ามาในลักษณะที่ไม่ปกติ

แต่ที่พวกเราฮือฮากันนั้นไม่ใช่เรื่องเหตุผลย้ายตามผู้ปกครอง แต่ฮือฮาเพราะบุคลิกของไอ้ชิดชัยเอง ท่าทางมันไม่เหมือนนักเรียนประถมเลย ที่จริงไม่เหมือนนักเรียนเลยด้วยซ้ำ เพราะเหมือนนักเลงมากกว่า ตัวสูง ดำ ล่ำสัน ล่ำกว่าไอ้พงษ์อีก หุ่นเหมือนควายเลยละครับ ไอ้ทิวว่าเหมือนควายแล้วไอ้นี่ยิ่งควายกว่า (คงจำไอ้ทิวได้นะครับ ถ้าจำไม่ได้ย้อนไปอ่านตอนช่วงอยู่ท้ายสวน) หน้าตาก็เหี้ยมๆ ริมฝีปากหนา แต่ยังดีหน่อยที่หน้าตามันคมคาย ถ้าไม่อย่างนั้นสงสัยว่าจะไม่มีคนกล้าคุยเพราะกลัวกันหมด

ทั้งหุ่นและหน้าตามันไม่น่าจะเป็นเด็ก ป.๖ เลยครับ ไอ้พงษ์อายุ ๑๔ ย่าง ๑๕ ก็ว่าหน้าแก่แล้ว ไอ้นี่หน้าแก่กว่าไอ้พงษ์อีก ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามันอายุ ๑๗ ปีแล้วครับ โห มันไปอยู่ไหนมาเนี่ย อายุ ๑๗ เพิ่งเรียน ป.๖

“ประจำหรือไปกลับวะ” ผมชะโงกไปถามไอ้ชัช

“กูจะไปรู้เรอะ อยู่ด้วยกันกับมึง มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้ได้ไง” ไอ้ชัชย้อน “แต่น่าจะไปกลับนะ เพราะเมื่อคืนไม่เห็นมันในหอ”

ไอ้ชิดชัยนี่เพื่อนๆเรียกมันว่าไอ้ชิด สรุปแล้วก็มารู้ภายหลังว่าเป็นนักเรียนไปกลับ ใหม่ๆมันเข้ากับเพื่อนๆยากหน่อยเพราะว่าวัยแตกต่างกัน วัยรุ่นกับเด็กน่ะครับ จะให้สนิทสนมกันแบบเพื่อนมันก็ยากเหมือนกัน ไม่มีใครเรียกมันพี่เพราะถือว่ารุ่นเดียวกัน มีแต่เรียกไอ้ชิดกันทั้งนั้น แรกๆก็เก็บตัว ไม่ค่อยคุยกับใคร มีจะคุยมากหน่อยก็กับไอ้พงษ์ เพราะวัยห่างกันน้อยที่สุด แต่พอเรียนไปสักพัก มันก็พอจะปรับตัวได้ เข้ากับเพื่อนๆได้ แต่ก็ไม่วายวางตัวเป็นหัวโจกหรือลูกพี่เสมอ มันคงคิดว่ามันแก่กว่ามั้งครับ จะให้วางตัวเสมอกันก็ไม่สนิทใจ เลยต้องเป็นเพื่อนกันแต่แบบว่าเป็นหัวโจกด้วย

และเนื่องจากไอ้ชิดเองมันก็ท่าทางนักเลงอยู่แล้ว ดังนั้นการเป็นหัวโจกของมันจึงเหมือนเป็นหัวโจกแก๊งจริงๆ ก็ไม่ได้ท้าตีท้าต่อยกับใครหรอกครับ แต่มันมักวางตัวเป็นผู้นำเสมอ จนแม้แต่หัวหน้าห้องยังหงอยๆเพราะกลัวมันอัดเอาเวลาไปขัดใจมัน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้เวลาพอสมควร

เมื่อมีหัวโจกก็ต้องมีรองหัวโจก ไอ้พงษ์รับบทนี้ครับ เพราะว่าอายุมากเป็นที่สองในห้อง รองจากไอ้ชิด เดิมไอ้พงษ์มันไม่ได้แสดงตัวเป็นหัวโจกอะไรเลยเมื่อเทอมที่แล้ว เพียงแต่ว่าชอบแก้ผ้าโชว์เท่านั้นเอง อ้อ นำทีมชักว่าวในหอด้วยครับ ลืมไป แต่พอมีไอ้ชิดเข้ามา มันเริ่มทำตัวเป็นลูกสมุนตามไอ้ชิดอย่างออกหน้า ไปไหนมักจะไปด้วยกันเสมอ ที่จริงไอ้พงษ์เองอาจไม่ได้คิดเป็นลูกสมุนคู่ใจไอ้ชิดก็ได้ อาจเป็นเพียงแค่ว่าอยากได้เพื่อนวัยรุ่นเหมือนมันมากกว่าเพื่อนวัยเด็กอย่างพวกผมก็ได้ ก็เลยสนิทกับไอ้ชิด เลยทำให้ดูเหมือนเป็นสมุน

3 comments:

Anonymous said...

ด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่เดียวครับ จุ๊บจุ๊บจุ๊บ
ทันใจดีไม่ต้องคอยด้วยความกระวนกระวายหัวใจ
ผมเป็นกำลังใจให้คุณ อู เสมอนะครับ

Anonymous said...

มาเป็นกำลังใจให้คุณ อู อีกคนคับ ผมคอยติดตามอ่านทุกตอน อย่าลืมมาต่อเร็วๆ นะครับ

Anonymous said...

เมื่อไหร่จะมาต่อครับ เป็นกำลังใจให้คุณ อู ครับ มาต่อเร็วๆนะครับ