Thursday, August 13, 2009

ภาคสาม ตอนที่ 13

หลังจากเรียนเปียโนเสร็จ ผมรีบไปที่ห้องสมุดเอยูเอทันที ห้องสมุดนี้อยู่บนถนนราชดำริ ตรงข้ามสนามม้า ส่วนหนึ่งเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเอยูเอ อีกส่วนหนึ่งเป็นหอประชุมที่ในยุคหนึ่งมักใช้จัดแสดงคอนเสิร์ต การประชุม และการแสดงอื่นๆ และอีกส่วนหนึ่งเป็นห้องสมุด

ห้องสมุดที่นี่โอ่โถงกว่าห้องสมุดที่โรงเรียนของผมมาก ภายในปรับอากาศเย็นฉ่ำ หนังสือส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ นอกจากหนังสือแล้วยังมีโสตทัศนวัสดุอื่นๆ เช่น วีดิโอเทป เทปคาสเซ็ตต์ ให้ชมและฟังอีกด้วย

ห้องสมุดในยุคนั้นยังไม่ได้ใช้ระบบออนไลน์ ดังนั้นการค้นหาหนังสือจึงต้องใช้วิธีดั้งเดิม คือไปค้นบัตรรายการจากลิ้นชักบัตรรายการ ซึ่งก็เหมือนกับที่โรงเรียนของผมนั่นเอง ต่างจากสมัยปัจจุบันที่สามารถค้นหาหนังสือที่ต้องการได้จากคอมพิวเตอร์

ที่นี่มีหนังสือที่เกี่ยวกับฮาวายอยู่ไม่น้อย เพราะหมู่เกาะฮาวายเป็นรัฐหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ผมใช้เวลาอยู่สักพักก็สามารถหาหนังสือที่มีเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเพลง Aloha Oe ได้ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่ชาวฮาวายคุ้นเคยกันดี ดังนั้นจึงมีหนังสือที่กล่าวถึงเพลงนี้อยู่เป็นจำนวนไม่น้อย

เพลงนี้เป็นเพลงที่ชาวฮาวายรู้จักกันดีทุกคน ชื่อเพลงเป็นภาษาฮาวาย อ่านว่า ‘อะโลฮา โอเอ’ เนื้อเพลงเป็นภาษาฮาวายปนภาษาอังกฤษ มีความหมายเกี่ยวกับการร่ำลาด้วยความรักอาลัย เพลงนี้แต่งโดยราชินีองค์สุดท้ายของฮาวายชื่อ ลิลีอูโอคาลานี (Lili’uokalani) ในปี ค.ศ. ๑๘๗๘ โดยได้แรงบันดาลใจจากการที่เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกอดอำลากันด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง ต่อมาเพลงนี้ได้รับความนิยมจนเป็นที่รู้จักกันดีและใช้เป็นเพลงอำลา

เมื่อเข้าใจความหมายและที่มาของเพลง จึงทำให้ผมเข้าใจถึงสาเหตุที่จดหมายจากไอ้นัยจึงมีอยู่เพียง ๓ ฉบับ และหลังจากนั้นจึงไม่มีจดหมายมาอีกเลย ที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะไอ้นัยเข้าใจว่าผมโกรธมันมากจึงไม่ยอมตอบจดหมายของมัน มันจึงกล่าวคำอำลาในจดหมายฉบับที่สามซึ่งหมายความว่าต่อไปมันจะไม่เขียนมาอีกแล้ว

ไอ้นัยคงยังรักผมอยู่ จึงได้เลือกเพลงนี้มาอำลาผม... ผมนึกไม่ออกจริงๆว่าไอ้นัยจะเศร้าเสียใจเพียงใดขณะที่เขียนจดหมายฉบับสุดท้ายนี้ มันคงเขียนด้วยน้ำตาเพราะเข้าใจผิดว่าผมโกรธมัน

ผมออกจากห้องสมุดเอยูเอด้วยหัวใจที่อ้างว้างและหดหู่ ตอนนั้นรู้สึกท้อแท้ไปหมด เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาที่ผมพยายามทำใจเกี่ยวกับเรื่องไอ้นัยจนกลับมาดีขึ้นและสามารถเรียนได้เป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง แต่จดหมายของไอ้นัยทำให้ผมกลับมารู้สึกหดหู่อีก เพราะเมื่อก่อนผมยังไม่ทราบความจริงว่าต้นเหตุที่ทำลายชีวิตไอ้นัยจนกลายเป็นสภาพนี้ก็คือผมนั่นเอง

จากเอยูเอ ผมนั่งรถไปยังเซ็นทรัลลาดพร้าว ผมกลับไปที่แผนกขายภาพยนตร์และเพลงอีกครั้งเพื่อซื้อเพลง ตอนนั้นผมยังไม่มีเครื่องเล่นซีดี มีแต่เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตต์ ดังนั้นจึงให้พนักงานช่วยหาเพลงอัลบัมที่ผมฟังเมื่อวันก่อนแต่อยู่ในรูปเทปคาสเซ็ตต์ให้ ซึ่งปรากฏว่ามีแต่เพลงอัลบัมชุดฟีนิกซ์เท่านั้นที่มีเป็นเทป ส่วนเพลง Just when I needed you most นั้นมีแต่ซีดี ไม่มีเทป ผมจึงได้เพลงมาเพียงชุดเดียว

- - -

หลังจากที่ผมได้รับจดหมายจากไอ้นัยเป็นต้นมา อาการหดหู่และซึมเศร้าก็กลับเข้าครอบงำผมอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ดูเหมือนจะหนักยิ่งกว่าเดิม ผมกลับมามีอาการนอนหลับไม่ค่อยสนิท ใจลอย และเบื่อหน่ายการเรียน วันๆก็นั่งเรียนไปอย่างนั้นเอง แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นอยู่

ทางด้านที่บ้านนั้น ผมพยายามเก็บอาการไม่ให้คุณลุงกับคุณป้าสังเกตออก แต่ก็ไม่พ้นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสอง ก็ได้อาศัยข้ออ้างว่าช่วงนี้เรียนหนักจึงทำให้เคร่งเครียดไปบ้างก็พอเอาตัวรอดไปได้

ส่วนทางด้านที่โรงเรียนนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เพื่อนฝูงจะสังเกตความผิดปกติของผมไม่ออก เพราะว่าผมเงียบและแยกตัวออกจากเพื่อนฝูง ซึ่งคนที่เห็นชัดที่สุดน่าจะเป็นไอ้กี้ซึ่งนั่งติดกับผม แต่ไอ้กี้นั้นแตกต่างจากไอ้อ๊อดและไอ้แก่ เพื่อนที่นั่งโต๊ะติดกันเมื่อปีก่อนๆ เพราะไอ้กี้ไม่ค่อยสนใจใคร ไม่มีนิสัยห่วงใยเพื่อนเหมือนไอ้สองคนนั่น มันก็ได้แต่ถามนิดหน่อยแล้วก็ไม่สนใจผมอีก

คนที่ดูจะสนใจในความเปลี่ยนแปลงของผมอยู่บ้างกลับเป็นนน จอมมารดำ นักอำประจำห้อง

“เฮ้ย ไอ้อู มึงเป็นไรไปหรือเปล่าวะ ตั้งแต่มึงไปเอาจดหมายแล้วก็ซึมเป็นควายเศร้า” นนถามผมในวันหนึ่ง มันเป็นคนเดียวที่พอจะรู้รายละเอียดว่าอาการของผมเกิดจากการได้รับจดหมาย

“เปล่า ไม่มีอะไร” ผมตอบ แล้วถามต่อ “แล้วควายเศร้านี่มันเป็นยังไงวะ”

“มึงก็ลองไปถามมันดูดิ คุยกันรู้เรื่องแล้วมาบอกกูด้วย ฮ่าๆ” ไอ้นนหัวเราะร่า ในที่สุดผมก็เสียท่า โดนมันหลอกด่าอีกจนได้

หลังจากที่ผมเขียนจดหมายถึงไอ้นัยไปได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ผมก็เริ่มไปดูตะกร้าจดหมายที่ห้องธุรการ

ยังไม่มาเลย ผมคิด ที่จริงผมก็รู้อยู่แล้วว่าจดหมายเพิ่งส่งไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ อาจยังไม่ถึงมือไอ้นัยด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะให้มันตอบกลับมาถึงผมเลย แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อผมร้อนใจจนไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้ และหลังจากนั้นผมก็ต้องเดินไปดูที่ห้องธุรการทุกวัน วันละสองครั้ง คือตอนพักเที่ยงกับตอนหลังเลิกเรียน

“น้องมาทุกวันเลยนะ วันละสองเวลา” พี่ธุรการทักผมในตอนหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง คงรู้สึกสงสัยเต็มที

“ครับ” ผมตอบ “รอจดหมายอยู่ครับ”

“ธนาณัติเหรอ” พี่ธุรการถามอีก คงคิดว่าผมกำลังร้อนเงินอยู่

“เอ้อ ครับ” ผมตอบส่งเดช

หลังจากที่ไม่พบอะไรในตะกร้าจดหมาย ผมก็เดินออกมาจากห้องธุรการด้วยความผิดหวัง ทุกวันนี้ผมต้องรู้สึกผิดหวังวันละสองเวลา การรอคอยนั้นมันช่างทรมานจริงๆ

เมื่อออกจากห้องธุรการ ผมเดินไปตามระเบียงของตึกซึ่งยาวเหยียด ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ ผมก็รู้สึกว่ามีใครมาตบหลังผมเบาๆ

“พี่” เสียงเด็กแจ๋วๆดังขึ้นที่ข้างหลัง เมื่อผมหันกลับไปดูก็เห็นไอ้น้องบอยยืนยิ้มแฉ่งอยู่

“อ้าว บอย” ผมทัก

“เดินใจลอยเชียวพี่อู ผมเรียกพี่ตั้งหลายทียังไม่รู้ตัว จนต้องลงไม้ลงมือ” บอยพูด ว่าแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“อ้อ พี่ไม่ได้ยินว่ะ แล้วเรียกพี่มีอะไรเหรอ” ผมถาม

“เรียกเฉยๆไม่ได้เหรอไง ต้องมีเรื่องอะไรด้วยเหรอครับ” ไอ้น้องบอยเริ่มกวน ไอ้นี่มันกวนได้ทุกสภาพดินฟ้าอากาศจริงๆ

“ได้ๆ ไม่ได้ว่าอะไร พี่กำลังจะกลับบ้านน่ะ” ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะต่อล้อต่อเถียงกับมัน “แล้วเอ็งไม่อยู่ที่สหกรณ์ มาเดินทำอะไรแถวนี้”

“เมื่อกี้ว่าจะไปโรงอาหารอะ เห็นพี่อูเดินใจลอย เลยลองเดินตามมาเรื่อยๆ ตามตั้งนานพี่ยังไม่รู้ตัวเลย ยังงี้ใครมาอุ้มพี่อูไปขายสบายเลย” บอยกวนอีก หน้าใสๆของมันบ่งบอกแววอารมณ์ดีอยู่เสมอ ผมนึกถึงตนเองในวัยเด็กก็เป็นแบบนี้เช่นกัน โลกของผมในวัยเด็กมีแต่ความสวยงาม เป็นเด็กนี่ก็ดี ไม่ต้องทุกข์โศกกับชีวิต

“พี่อู บอยหิว” บอยเรียกผมอีก

“หิวก็ไปกินดิ” ผมตอบ

“หิวแต่ไม่มีตังค์อะ” บอยทำหน้าสลด

“อ้าว ไม่มีตังค์ก็กินน้ำเปล่ารองท้องไปก่อนละกัน” ผมตอบไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้สนใจกับคำพูดของมันมากนัก

คราวนี้ไอ้บอยอ้าปากหวอ ทำหน้าประหลาดใจสุดขีด

“โอ้โห พี่ ไม่ดูแลรุ่นน้องเลย นี่พี่เรียนมาจนถึง ม.๔ ได้ไงเนี่ย” บอยพูด ทำสีหน้าไม่พอใจ “น้องหิวบอกให้ไปกินน้ำเปล่า เฮอะ”

คำพูดของไอ้บอยทำให้ผมนึกถึงตอนที่พี่เอ้พาผมกับไอ้นัยไปดูหนัง ตอนที่เราจะหลอกกินบะหมี่จับกังฟรี ไอ้นัยกับผมก็ช่วยกันล่อพี่เอ้ให้ตกหลุมแบบนี้เช่นกัน ภาพอดีตของผมและไอ้นัยไหลเข้ามาในห้วงคำนึงเป็นฉากๆ... มันเป็นอดีตที่แสนงดงาม...

“อะ อะ พี่เลี้ยงเอ็งก็ได้ พูดมากจริง งั้นไปโรงอาหารกัน” ผมพูด

ไอ้น้องบอยยิ้มแฉ่งที่สามารถหาเจ้าภาพกินฟรีได้สำเร็จ ผมกับบอยเดินลงจากตึกและไปที่โรงอาหารด้วยกัน บอยสั่งน้ำหวานกับขนมกะทิสองสามอย่าง ส่วนผมสั่งแต่น้ำหวาน

“เฮ้ย ทำไมเยอะยังงี้” ผมร้อง “กินหมดเหรอวะ”

“หมดดิ กว่าจะล่อพี่อูให้เป็นเจ้ามือได้ ต้องเอาให้เข็ด” บอยตอบหน้าตาย

บอยนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ผมนั่งดูมันกินยังพลอยรู้สึกอร่อยไปด้วย

“หมู่นี้พี่อูไม่ค่อยไปเช่าหนังสือเลย” บอยชวนคุย

“ฮื่อ” ผมตอบ “ยุ่งๆน่ะ”

“โห พูดยังกะนักธุรกิจ” บอยเหน็บ “แค่ ม.๔ ยุ่งอะไรนักหนา”

ผมหมั่นไส้มันเต็มที จึงตบหัวมันเบาๆ “นี่แน่ะ กวนนัก”

“โอ๊ย ตบหัวอีกแล้ว” ไอ้บอยทำคอย่นหลบมือผม แต่ก็หลบไม่พ้น ผมเองก็แค่ตบมันเบาๆเท่านั้น ไม่ได้ต้องการทำให้มันเจ็บ ท่าทางของไอ้บอยทำให้ผมนึกถึงใครบางคน...

“พี่อู” บอยตะโกน “เอ๊า นั่งคุยกันอยู่ยังใจลอยได้อีก”

ผมตื่นจากภวังค์ หมู่นี้ผมใจลอยบ่อยจริงๆด้วย

“ใจลอยคิดถึงแฟนเหรอพี่” ไอ้บอยถาม

ผมไม่ตอบ นั่งดูดน้ำหวานไปเรื่อยๆ เมื่อบอยเห็นผมไม่ตอบ มันก็พูดต่อ

“บอยอยากเรียน ม.ปลาย เร็วๆจัง จะได้มีแฟนเสียที”

“เรียน ม.ปลาย แล้วเกี่ยวอะไรกับมีแฟนวะ” ผมสงสัย

“อ้าว พอขึ้น ม.ปลายก็ต้องเตรียมสอบเอนทรานซ์ แล้วก็มีแฟน ไม่งั้นไม่เท่” บอยตอบ ไม่รู้ว่ามันไปเอาค่านิยมแบบนี้มาจากไหน เรื่องที่พอขึ้น ม.ปลาย แล้วก็เริ่มจีบสาวกันนี่มีจริงๆ แต่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าถึงกับเป็นค่านิยมว่ามีแฟนแล้วเท่

“แล้วพี่อูมีแฟนยัง” ไอ้บอยรุกถาม มันคงอยากรู้ว่าผมเท่ไหม

“...”

“พี่อู มีแฟนยัง” บอยถามอีก

คราวนี้ผมพยักหน้า

“โห พี่อูนี่เจ๋งเลย เห็นพี่กวนๆยังงี้ที่แท้มีแฟนแล้ว” บอยพูดด้วยความทึ่ง ไอ้นี่มันพูดยังไงของมัน “แฟนพี่ชั้นไหน อยู่โรงเรียนอะไรอะ” บอยถามต่อ

“แฟนพี่เค้าไปเรียนเมืองนอกแล้ว” ผมตอบ ในใจเกิดเป็นรสชาติแปลกๆที่อธิบายไม่ถูก ทั้งเศร้า และก็ทั้งอบอุ่นใจอยู่ลึกๆ ในที่สุดผมก็ยอมรับความสัมพันธ์ของผมกับไอ้นัยให้ใครบางคนได้รับรู้... แม้คำว่าแฟนของผมและบอยจะมีคำนิยามที่แตกต่างกันก็ตาม ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกอบอุ่นใจนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

“ไปเรียนเมืองนอกด้วย” ไอ้น้องบอยทึ่งอีก “แต่พี่ก็คงเหงานะ แล้วเมื่อไรเค้ากลับล่ะ”

ผมส่ายหัว “จะได้เจอกันอีกหรือเปล่ายังไม่รู้เลย” ผมหลุดปากบอกความในใจออกไป

- - -

เดือนสิงหาคม

เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน มันเป็นเวลาหนึ่งเดือนแห่งการรอคอยที่ทุกข์ทรมาน ผมไปที่ห้องธุรการวันละสองครั้งทุกวันไม่เคยขาด พี่ธุรการจากเดิมที่แปลกใจก็กลายเป็นความเคยชิน แต่ผมก็ยังไม่ได้รับจดหมายตอบจากไอ้นัย

ผมรู้สึกเป็นห่วงไอ้นัย ไม่รู้ว่ามันจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะเท่าที่มันเล่าในจดหมายแสดงว่ามันคงได้รับความทุกข์ใจอย่างมาก

หนทางเดียวที่ผมจะรู้ข่าวคราวจากไอ้นัยได้ก็คือการโทรไปถามคุณอาของไอ้นัย แต่เพียงแค่นึกผมก็กลัวแล้ว ไอ้นัยบอกว่าคุณอาสงสัยผมมากที่สุด มันทำให้ผมเหมือนกับมีชนักติดหลัง ผมไม่กล้าโทรไปหาคุณอาตลอดมาเพราะกลัวว่าคุณอาจะซักไซร้ กลัวว่าคุณอาจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อกับแม่ของผม กลัวคุณอาจะรังเกียจผม ฯลฯ ผมกลัวไปสารพัด

แต่ในที่สุด ความเป็นห่วงไอ้นัยก็เอาชนะความรู้สึกหวาดกลัวลงไปได้ ผมตัดสินใจโทรไปหาคุณอาในตอนเย็นวันหนึ่ง หลังจากที่ผมเดินเข้าซอยที่บ้าน ผมก็แวะที่ตู้โทรศัพท์ก่อนที่จะเข้าบ้าน

“ฮัลโหล” เสียงคุณอาผู้หญิงรับสาย ที่จริงผมไม่ค่อยอยากคุยกับคุณอาผู้หญิงเท่าไร เพราะคุณอาจะพยายามกดดันผมมากกว่าคุณอาผู้ชาย แต่ในเมื่อโทรไปแล้วใครรับสายผมก็ต้องคุย

“สวัสดีครับคุณอา ผมอูครับ” ผมพูดอึกอัก รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะเจอกับคำพูดอะไรบ้าง ความรู้สึกที่สนิทสนม เป็นกันเองดั่งญาติสนิทหายไปจนหมดสิ้น

“...” ปลายสายทางด้านโน้นเงียบไปครู่หนึ่ง คงกำลังอึ้งอยู่ “อ้อ อูเหรอ มีธุระอะไรเหรอ” เสียงคุณอาพูด ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมว่าเสียงของคุณอาแข็งกระด้างผิดปกติ

“คุณอาสบายดีใช่ไหมครับ” ผมทักทายตามมารยาท

“จะสบายได้ยังไงล่ะ ครอบครัวเราเป็นแบบนี้ นัยก็กลายเป็น... กลายเป็นกระเทย” คุณอาสวนกลับทันที

ผมใจหายวาบ ผมพูดผิดอีกแล้ว แค่เริ่มก็ผิดแล้ว มือของผมที่ถือหูโทรศัพท์เริ่มสั่นด้วยความกลัว แต่ถึงจะกลัวอย่างไรก็ต้องถามเรื่องไอ้นัยให้ได้

“คุณอาครับ ผมอยากรู้ว่านัยเป็นอย่างไรน่ะครับ ผมไม่ได้ต้องการขอที่อยู่หรอกครับ เพียงแค่อยากรู้ว่านัยเป็นยังไงบ้างเท่านั้น คุณอาบอกผมหน่อยนะครับ บอกแค่นี้ถึงยังไงผมก็ติดต่อไอ้นัยไม่ได้...” ผมรีบพูดรวดเดียวจนจบความ เพราะรู้สึกว่าเสียงของตนเองกำลังสั่นด้วยความกลัวผสมกับความตึงเครียด ถ้ารอช้าอาจสั่นจนพูดไม่ออกก็ได้

คุณอาเงียบเสียงไปครู่หนึ่ง สักพักก็มีเสียงถอนใจ

“นัยสบายดี แต่ตอนนี้ก็คงยุ่งๆและต้องปรับตัวหน่อย เพราะว่าเพิ่งย้ายโรงเรียน” คุณอาตอบ น้ำเสียงฟังดูอ่อนลงไปบ้าง

“นัยย้ายโรงเรียนเหรอครับ” ผมอุทาน

“นัยอยู่ที่โน่น มีสังคมเพื่อนใหม่ๆที่ดีกว่าเดิม ยังไงอาก็หวังให้นัยหายจาก...เอ้อ...ที่เป็นอยู่ ไม่อย่างนั้นนัยคงถูกทำลายไปทั้งชีวิต” เสียงคุณอากลับมากระด้างอีก และมีท่าทีต้องการจบการสนทนา “อูไม่มีอะไรอีกแล้วใช่ไหม”

ผมรู้สึกปวดแปลบในหัวใจขึ้นมา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคุณอารักหรือไม่รักไอ้นัยกันแน่ คำก็กระเทย สองคำก็กระเทย ผมอยากจะบอกคุณอาว่าไอ้นัยไม่ได้เป็นกระเทย มันก็แค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรักกับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งเท่านั้น...

ประโยคท้ายของคุณอายิ่งเชือดเฉือนหัวใจ ใช่สิ ไอ้นัยต้องถูกทำลายไปทั้งชีวิตเพราะผม... หรือบางทีถ้าคุณอาเปลี่ยนจากคำว่ากระเทยเป็นเกย์ คุณอาอาจจะพูดถูกก็ได้...

“คุณอาครับ อีกนิดหนึ่ง” ผมรีบพูด แล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจเด็ดขาด “ฝากคุณอาบอกนัยด้วยครับ ว่าผมไม่ได้โกรธนัยเลย ผมขอร้องคุณอาสักครั้งนะครับ ยังไงช่วยบอกนัยให้ได้”

คำพูดที่ฝากบอกนี้เสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะเท่ากับเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมกับไอ้นัยอยู่กลายๆ แต่ผมไม่มีทางเลือก ในเมื่อไอ้นัยไม่ติดต่อมาอีก ผมก็ติดต่อมันไม่ได้เพราะมันเปลี่ยนที่อยู่ไปแล้ว หนทางเดียวที่ผมจะฝากข้อความถึงมันได้ก็โดยผ่านทางคุณอานี่เอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณอาจะบอกไอ้นัยหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นความหวังใยสุดท้ายของผมที่ต้องลองเสี่ยงดู

ผมวางหูโทรศัพท์ลงบนเครื่องอย่างท้อแท้ ผมรู้สึกเจ็บปวดกับคำว่าไอ้นัยเป็นกระเทย ไอ้นัยเสียอนาคตเพราะผมแท้ๆ... บรรยากาศยามโพล้เพล้ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหดหู่ ตะวันกำลังสิ้นแสง รัตติกาลค่อยๆครอบคลุม มันเปรียบเหมือนความหวังของผมที่กำลังหมดสิ้นไป ทิ้งชีวิตของผมให้ตกอยู่ในความมืดมน...

ฟังเพลง Aloha Oe เวอร์ชันนี้ลีลาคล้ายต้นฉบับดั้งเดิม
ฟังเพลง Aloha Oe เวอร์ชันบรรเลงด้วยยูคัลลีลี

<คำว่า อะโลฮา (aloha) นั้นเป็นคำที่แทบจะพูดกันมากที่สุดในภาษาฮาวาย เพราะใช้เป็นทั้งคำทักทายและคำกล่าวลา รากศัพท์ของคำนี้แปลว่าความรัก ซึ่งสามารถเทียบเคียงได้กับคำว่า สวัสดี ในภาษาไทยซึ่งใช้เป็นทั้งคำทักทายและคำกล่าวลาเช่นกัน ส่วนรากศัพท์ของคำว่าสวัสดีนั้นแปลว่าความเจริญ รุ่งเรือง คำว่า aloha สามารถใช้ประกอบกับคำอื่นๆเพื่อใช้เป็นคำทักทายหรือคำกล่าวในโอกาสต่างๆ>

<ยูคัลลีลี (ukulele) เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองฮาวาย มีลักษณะคล้ายกีตาร์แต่มีขนาดเล็กกว่าและมีเพียงสี่สาย ยูคัลลีลีนี้พัฒนามาจากเครื่องดนตรีของโปรตุเกสอีกทีหนึ่ง>


<บรรยากาศภายในห้องสมุดเอยูเอ>

43 comments:

nai said...

เป็นกำลังใจให้ครับ

Bomber_Boy said...

พลาดที่หนึ่งอ่ะครับ

เรื่องที่พี่ชูให้คอยดูแลน้องๆ หลานๆ ก็ได้อยู่นะครับ แต่ว่าผมไม่ค่อยจะรู้จักใครเลย เอาเป็นว่าจะทำความรู้จักน้องๆ ให้มากขึ้นก็แล้วกันนะ

คิดถึงนัย คิดถึงอู มากๆ
__________
Bomber_boy

Anonymous said...

ไม่ได้คอมเมนท์นาน... น้ำตาไหลตลอดที่ได้อ่านเรื่องช่วงหลังๆ กลับไปอ่านกี่ครั้งก็น้ำตาไหล

แบงค์ครับ

Anonymous said...

แปลกจัง หลานๆ หายไปไหนหมดคร๊าบ
ไปแอบร้องไห้กันอยู่ใช่ป่ะ


คนที่คุณไม่รู้ว่าใคร

Anonymous said...

สวัสดี อาๆ ลุงๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนครับ

ตอนนี้มาเรวจังนะครับอาอู น่ารักได้อีก

ยังคงทิ้งเค้ารางความเศร้าไว้อยู่ตามโครงเรื่อง และแนวของอานะครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ ส่วนเรื่องนั้น ผมจะไม่เซ้าซี้อาอีกละกันครับ หลังจากได้เมลคุยกับอาชูแล้ว ผมได้คิดอะไร ในมุมมองที่ผู้ใหญ่เค้ามองกันอีกเยอะทีเดียวครับ ขอบคุณอาชู มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ว่าตะว่า ในนี้ ไม่มีเพื่อนๆ วัยมหาลัยเลยหรอคับ เอ หรือเค้าไม่เปิดเผยตัวกันนะ อยากมีเพื่อนวัยเดียวกันมั่ง อิจฉาน้องทะเล เค้ามีน้องฟ้า รุ่นราวคราวเดียวกันด้วยแฮะ เคยอ่านคร่าวๆ รุสึกน้องทั้งสองกำลังจะต้องเลือกสายการเรียน ยังไงถ้าเลือกได้โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรผุกมัดละก้อ เลือกที่ตัวเองชอบดีที่สุดครับ อย่าเลือกตามเพื่อนหรือครัย ช่วงนี้แหละที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเราทุกคนในยุคที่ อนาคตเรายังคงต้องแขวนไว้บนใบปริญญา เด๋วจะเหมือนพี่ที่เลือกเดินทางมาผิดสาย เห้อ ~~ แหงะ เวร เผลอเขียนยาวอีกแล้ว ตั้งใจ ว่าจะเอาสั้นๆ นะเนี่ย โทดทีนะครับทุกคน (> <)"

สุดท้ายนี้ มายืนยันเจตนารมณ์ ขอให้อาอูเจอกับอานัยในเรววัน สาธุ -/\-

หลานหนิง

yo408 said...

อะฮ้า ย้ายโรงเรียนนี่เอง แล้วเชื่อได้เลยว่าจดหมายก็คงถูกทิ้งไว้ที่โน่น ไม่มีใครรับก็ลงถังขยะไม่มีการส่งต่อให้เพราะนัยไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว

อีกอย่าง อาของนัยก็คงไม่ได้บอกอะไรไปร๊อก ไม่งั้นนัยก็คงติดต่อกลับมาบ้าง

dodo said...

เศ้รๅจัง อ่านแล้วจะร้องไห้ รุย T-T



โดโด้

Choo said...

“ประโยคท้ายของคุณอายิ่งเชือดเฉือนหัวใจ ใช่สิ ไอ้นัยต้องถูกทำลายไปทั้งชีวิตเพราะผม..”
“ผมรู้สึกเจ็บปวดกับคำว่าไอ้นัยเป็นกระเทย ไอ้นัยเสียอนาคตเพราะผมแท้ๆ...”

เป็นประโยคทีอ่านแล้วสะท้านใจ ไม่นึกว่าเด็กชายอูจะกล่าวโทษตัวเองได้ขนาดนี้ ความรู้สึกแบบนี้มันสามารถเปลี่ยนแปลงเด็กชายอูให้เป็นนายอูที่ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง (self esteem) และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ ของอูในเวลาต่อมาอย่างมาก

จากที่อ่านมา 3 ตอนหลัง ใครๆก็สงสารนัย แต่ผมว่าอูก็เจ็บปวดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำ ยิ่งประโยค “ตะวันกำลังสิ้นแสง รัตติกาลค่อยๆครอบคลุม มันเปรียบเหมือนความหวังของผมที่กำลังหมดสิ้นไป ทิ้งชีวิตของผมให้ตกอยู่ในความมืดมน...” มันบอกถึงช่วงเวลาความสิ้นหวังในชีวิต ขาดหลักยึดในชีวิตอย่างสิ้นเชิง ผมเลยส่งเพลง “ทางหนึ่งซึ่งหวัง” ของ The Innocent ไปให้ล่วงหน้าเป็นกำลังใจ ให้อูเข้มแข็ง เอ๊ะ หรือว่าย้อนหลัง 20 กว่าปีกันแน่

ในแง่เด็กอายุ 16 อูในตอนนั้นแบกรับความรู้สึกผิดต่างๆ ไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่เคยกล่าวโทษนัยเลย นี้แหละครับ ความรักของการเป็นผู้ให้และเสียสละ มันเป็นความรักที่มีคุณค่าในตัวมันเองนะ และความรักอันนี้มันก็เจริญงอกงามในจิตใจของอูในเวลาต่อมาเช่นกัน

ยังคาดหวังให้ “การศรัทธาต่อความรักไม่ว่ารูปแบบไหน มีคุณค่าในใจต่อทุกคน” เป็นแรงใจให้ผู้กำลังมีความรักทุกคน ผันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้ตลอดรอดฝั่งครับ

เขียนมาทั้งหมดผมหมายถึงอูในนิยายนะครับ อูคนเขียนไม่เกี่ยวนะ 555

เป็นกำลังใจให้อูคนเขียน “เข้มแข็งนะครับ”

ชู

Anonymous said...

หวั่นๆว่าอูจะเปลี่ยนไปก็คราวนี้แหละ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย

Anonymous said...

(^_^)ที่1+0 ลุงอูกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วครับเดี่ยวต้องสอบซ่อมกันพอดี เอาแบบในการ์ตูนที่ผมให้ดูซิครับ ความเร็วของหัวใจของลุงนัยกะลุงอูไม่เท่ากันแน่นอนนะครับ อย่างในเรื่องตั้งหลายปีกว่าพระเอกจะคิดเริ่มชีวิตใหม่ได้ในขณะที่นางเอกแต่งงานไปแล้วน่าลุงนะ น้องบอยมาจีบรึป่าวเนี่ย หุหุ พาไปดูหนังซิ555+ ลุงอูเกิดวันไหนครับผมดูดวงให้นะแม่นมากขอบอกhttp://www.dektriam.net/TopicRead.aspx?topicID=116413

Anonymous said...

สงสัยว่าไอ้น้องบอยจะต้องมีอะไรเป็นพิเศษแน่

Anonymous said...

^
^
^
ลิงก์ข้างบนฮาขี้แตก แม่นโค่ด

ขาดคุณสำหรับที่มาของรอยยิ้มครับ

หลานหนิง

Anonymous said...

แน้ มีคนมาคั่น อีก เอว่าแต่ไม่แน่นะครับ ไอน้องบอยนี้อาจจะเป็น คำตอบสุดท้ายของนายอูก้อได้เนอะ

รู้สึกเริ่มมีบทเยอะขึ้น

แหะๆ ไม่รุงานนี้มี "ตดีพลิก!!" มั้ยห้าๆๆ แอบทาย หมอหนิง ฟันเทอ!!!

Anonymous said...

until...we meet...again
until...we meet...again
till...we...meet...a...gain

เพลง Aloha Oe (อโลฮา โออี)
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพลงลา แต่ก็ลงท้ายด้วยคำว่า
"จนกว่าเราจะพบกันอีก"
ถ้านัยจะใช้เพลงนี้เป็นเพลงที่สื่อถึงการอำลาพี่อูจริงๆ
คงไม่ได้หมายความว่าลาจากไปเลย แต่ นัยยังหวังลึก ๆ ว่าจะได้พบกับพี่อูอีก
แล้วจริงๆ พี่อูได้พบกับนัยอีกหรือป่าวคับ until now
สังหรใจของผมเป็นจริงนะคับ แล้วพี่อูก็ ไม่ได้รับจดหมายตอบจากนัย
พอจะต้องขาดจากนัยจริงๆ บอยก้อเข้ามา ประติดประต่อไม่ให้ขาดตอนทันที ให้มันได้อย่างนี้ดิพี่อูของผม
55555
รอตอนต่อไปคับ แล้วน้องบอยกะพี่อูจะมีรัยกันแบบ
นัยกะพี่อูปะ
เป็นกำลังใจให้นะคับ
KTB อะคับ

Anonymous said...

รายงานตัวครับ

หลาน Arus ของอาอู

พี said...

ยังเศร้าต่อเนื่องนะครับ...คุณอู แต่เริ่มมีน้องบอยมาสร้างสีสันแล้ว...ถ้าน้องบอยทำให้อู...นึกไปถึงนัยได้แล้ว ก็หวังว่าน้องบอยคงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ทำให้อูมีความสุข ไม่ว่าจะในสถานะน้องชายคนหนึ่งหรือมากกว่านั้น...

ช่วงนี้ ขอเม้นต์สั้นๆครับ เรื่องมันเศร้า.....

แต่ก็ตามอ่านทันทุกตอนครับ

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย คุณอูรักษาสุขภาพให้ดีนะครับ รวมทั้งพี่ๆ เพื่อนๆ และน้องทุกคนครับ

+ P +

naja said...

ย้ายโรงเรียนแล้วนี่เอง มิน่าเลยขาดการติดต่อกันจนจบมหาวิทยาลัยอย่างที่พี่อูเคยบอก

แต่ก้อหวังว่าพอจบมหาวิทยาลัยแ้ล้วคงได้เจอกันนะครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้เจอเรื่องดีๆให้ชื่นใจบ้างนะครับ

Anonymous said...

อ่านแล้วก็ทำให้ใจหายอีกแล้ว เฮ้อ
จะว่าไปนะ ผมก็ชักอยากจะให้พี่ชูเขียนเรื่อง
ความรักของพี่ชูบ้างแล้วล่ะ ใครอยากอ่านยกมือสูงๆนะ
โดยเฉพาะหลานๆของอาอู อาชู มาช่วยยกมือกันหน่อย


IZ

Anonymous said...

http://www.palm-plaza.cc/CCforum/DCForumID7/2158.html?r=1

มาฝากลิงก์เรื่อง(แต่ง)ของผมซะหน่อย ลองเขียนเล่นๆดู พลอตเรื่องไว้ถึงตอนจบแล้วครับ รู้สึกอยากเขียนเรื่องแบบอาอูบ้าง แต่อายุยังน้อยด้อยประสบการณ์ ดังนั้นก้อเลยลองแต่งเรื่องดูครับ ไม่มีประสบการณืตรงเกี่ยวกับความรัก แล้วก้อเลยลองไปโพสท์ในบอร์ดปาล์มก่อน ถ้าFeedback ดี ตั้งใจจะทำบล็อคแบบอาอูบ้าง อาจะได้ไม่ต้องแต่งเรื่องให้ชาวบ้านเค้าอ่านอย่างเดียว มาติดตามเรื่องของคนอื่นเค้าบ้าง จะได้รู้ว่า การรอคอยเจ้าของเรื่องมาลงเนี่ย คนอ่านเค้าทรมาณ (อิอิล้อเล่นครับ) ยังไงก้อขอฝากด้วยครับ นิยายทางเนตเรื่องแรกในชีวิต เอาไว้อ่านสนุกๆแก้เซ็งตอนรอเรื่องของอาอุนะครับ

หลานหนิงนักเขียนหัดขับ

Anonymous said...

http://www.palm-plaza.cc/CCforum/DCForumID7/2158.html?r=1
อาหนิงคับ
ลิ้งค์แบบนี้น่ะ มันเข้าไม่ได้
ลอง paste เอาไปใส่ใน google หรือ yahoo
ดูดิมันเข้าไม่ได้จริงๆ
บอกให้ชัดกว่านี้ได้มั้ย ที่มันเข้าไปได้ง่าย ๆ อะ
อยากอ่าน
ใน คอลั่มน์ LOVER ขอ ปาล์ม พลาซ่า ใช่ปะ
ชื่อเรื่องอะไร ใช้นามปากกาอะไรคับ จะเข้าไปหาเองก้อได้ บอกมาหน่อยนะคับ
บอยคับป๋ม

Anonymous said...

เย้ยยย!! ไอน้องบอยคร้าบบ เรียกพี่ก้อพอมั้งคร้าบบ เรียกซะแก่ตามอาๆทั้งหลายเลยครับ พี่เพิ่ง20ต้นๆเองนาคับ (จิงๆ) ก่อนอื่นหลาน เอ๊ย น้องบอยก้อcopyลิงก์ที่พี่โพสไว้ไปวางในช่องURL ตรงที่น้องต้องกรอก www. นั่นละคับแล้วก้อenter แค่นั้นเองครับ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ พี่หนิงขอไม่พูดดีกว่า เพราะแค่มาโปรโมทลิงก์ในนี้ พี่ก้อเกรงใจอาอู และคนอื่นในบอร์ดจะแย่แล้วครับ รายละเอียดทั้งหมดพี่เขียนไว้ในลิงก์หมดแล้วครับ เข้าไปอ่านในนั้นเลย จะพยายามอัพเดทบ่อยๆตามกำลังนะครับ

หลานหนิง นักเขียนหัดขับ
(เค้ายังอยากเป็นหลานอยู่น้า ยังไม่อยากเป็นอา > <"

Anonymous said...

ไม่ได้ใช้คอมไม่กี่วัน ตอนใหม่ 20 คอมเม้นเข้าไปแล้วแหะ - - พักนี้รุสึกเข้ามาเม้นช้าทุกทีเลย

เสียดายจัง อุส่าได้มีโอกาสจะคุยกันอีก อานัยดันเข้าใจไปว่าอาอูโกรธ ความจริงถ้าอาอูเชื่ออานนตั้งแต่ตอนนั้นความจริงเรื่องมันอาจจะดีกว่านี้ก้ได้ บางทีความผิดพลาดเล็กๆของเราก้ส่งผลต่ออนาคตอย่างไม่น่าเชื่อแหะ

เรื่องของคุณทวดหนิงนี่ใช่รักวุ่นวาย วงดนตรีชายล้วน ป่าวครับ - - เดะจะลองไปอ่านดูนิ 55

ปล.ขอบคุณครับที่มาเขียนต่อให้

Sea~~!!

Anonymous said...

มาแว้ววครับ

ไปอ่านก่อนนะคร้าบบ

^S-U-N^

Anonymous said...

หลานที่หนึ่งเรียกทวดหนิง งานนี้อาจมีต่อย อาขอหลบก่อนครับ เดี๋ยวอาจโดนลูกหลง

ดีใจที่เห็นแบงค์อีก ไม่ได้เจอกันนานแล้ว หวังว่าคงสบายดี

เรื่องจดหมายก็นึกตำหนิตัวเองด้วยที่ไม่เชื่อจอมมารดำตั้งแต่แรก มัวแต่ไปคิดว่ามันอำ แล้วก็เลยไม่เฉลียวใจสักนิด นี่ถ้าติดต่อไปก่อนหน้าสักเดือน ไม่แน่ว่านัยอาจยังไม่ทันได้ย้ายและได้รับจดหมาย นี่แหละชะตาชีวิต ไม่มีใครรู้อนาคต ถ้าประมาทก็อาจพลาดได้ ที่หลานทะเลพูดอาเห็นด้วยครับ

ไม่ได้คิดว่าอาของนัยจะบอกนัยให้ ถึงอย่างไรก้ต้องลองเสี่ยงดู เพราะมันเป็นความหวังที่เหลือเพียงใยเดียวสำหรับตอนนั้น

ขอบคุณพี่ชูสำหรับการวิเคราะห์ บทเพลง แล้วก็กำลังใจ ที่จริงตอน ม.๔ มีเรื่องราววุ่นๆอีกหลายอย่าง ไอ้น้องบอยนี่มันก็น่ารักจริงๆเพราะเวลามองเด็กคนนี้จะเห็นอดีตของอูและนัยอยู่อย่างรางเลือน แต่ไอ้บอยมันพูดเก่งเหลือเกิน แถมกวนอีกต่างหาก ส่วนนี้แหละที่แตกต่างกันมาก ไอ้น้องบอยจะมีบทบาทอย่างไรต่อไปลองเดาๆกันไปก่อนก็แล้วกันครับ

ถ้าพี่ชูจะเขียนเรื่องบ้างผมว่าเข้าทีมากเลย จะตามไปเม้นให้ทุกตอนเลยครับ

หลานหนิงคุยกับอาชูเชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์มาก ขอบคุณพี่มากที่ยอมตกหลุมผมด้วยความเต็มใจ

หลายที่หนึ่งยังนึกถึงการ์ตูนเรื่องนั้น จะเป็นอย่างที่หลานวิเคราะห์หรือเปล่าต้องคอยอ่านต่อไปครับ อีกสักสองปีอาจจะมีคำตอบ ส่วนดูดวงนั้นแม่นจริงๆ ถ้าทายแล้วไม่ถูกก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

KTB วันนี้เรียกผมพี่ด้วย ทุกทีเรียกอูเฉยๆ สงสัยกินยาแล้วลืมเขย่าขวด

หลาน arus ตากฝนไปเรียกพิเศษอีกหรือเปล่า กลัวจะไม่สบายอีก

ขอบคุณโดโด้และคนอื่นๆ พี เด็กวางระเบิด โย ฯลฯ ยังตามอ่านอยู่

หากทักไม่ครบถ้วนก็อย่าโกรธกัน บางทีก็มีตกหล่นครับ

ยังไม่ได้อ่านเรื่องของหลานหนิงเลยครับ ใช่เรื่องที่วงดนตรีอะไรนั่นหรือเปล่า

อู

Anonymous said...

เวรของกำ กลายเป็นทวดซะแล้วผม- -

เอาเหอะครับ ตามสบายเลย พี่น้องแม้ว

ซวยได้อีก ดีจัยจังอาอูกลับมาเม้นแล้ว

ฟังจากที่อาอูเม้นแสดงว่าอาอูไม่ว่าอะไรถ้าผมจะคุยเรื่องของนิยายที่ผมแต่งในบอร์ดปาล์ม (เอ หรือจะว่า หว่า?!) งั้นขออธิบายเพิ่มเติมละกันครับ เรื่องที่ผมแต่งนั้นก้อคือ เรื่อง "รักวุ่นวายวงดนตรีชายล้วน"นั่นแหละครับ อย่างที่บอกในปาล์มแล้วก้อในบล็อกอะนะครับ ว่าแนวคิดและแรงบังดาลใจในการแต่งเรื่องนี้ ก้อมาจากหลายๆอย่าง ขออนุญาติพูดตรงนี้รวมๆอีกที คือ อย่างแรกผมอยากแต่ง เรื่องขึ้นมาแบบอาอูบ้าง มันน่าสนุกดี แต่ผมไม่มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องความรัก เลยได้เป็นแค่เรื่องแต่งเท่านั้นแบบอาอู(?) และก้อมาจากแรงบันดาลใจเกี่ยวกับความชอบหลายๆอย่าง

เหตุผลต่อมา คือ ผมเป็นแฟนรายการชิงช้าสวรรค์ครับ เรียกว่าต้องดูทุกอาทิตย์เลย นี่ก้อเพิ่งไปดุแล้วถึงจะมาเม้น แล้วก้อเพิ่งเหนเนี่ยว่าโดนเรียกว่าทวดซะแล้ว เวรกำ เลยอยากแต่งเรื่องที่อิงกับรายการนี้ด้วย และด้วยเรื่องนี้ละ ทำให้ผมออกตัวก่อนว่าแต่งเพื่อความบันเทิงจิงๆ ซึ่งผมก้อกัวว่าในตอนต่อๆมา หากผมมีการพาดพิงถึงโรงเรียนดังกล่าวไม่ว่าจะด้านใดก้อตามอาจเกิด ฟีดแบคด้านลบกลับมา ดังนั้นจึงออกตัวไว้ตั้งแต่ต้นเลย ก้อไม่รุว่าจะเปนไงต่อไปนะครับ กัวอยุ่ เพราะพวกเราก้อรู้นี่ครับ ว่าปากของกะเทยบอร์ดปาล์มอะร้ายแค่ไหน - -

และข้อสุดท้าย จุดประสงค์นี้ก้อคือ ให้ผลได้คลายจากการจิตตกหลังการอ่านเรื่องของอาอูด้วยละครับ การได้ตั้งใจทำอะไรบ้างเนี่ย มันจะทำให้ลืมเรื่องแย่ๆไปได้บ้างน่ะครับ

สุดท้ายนี้จะพยายามตั้งใจเขียนละกันครับ อ่านแล้วก้อเม้นติชมกันได้นะครับ ชทเพื่อเป็นกำลังใจ และติเพื่อก่อครับ

ขอบคุณทุกคน หลานหนิง นักเขียนหัดขับ

ปล.น้องบอยครับ ของคุณสำหรับคำติ เรื่องการใช้อ.ย่อแทนคำว่าอาจารย์ในบทสนทนา มันเป็นความขี้เกียจของพี่เองครับ ยังไงในตอนหน้าพี่จะพยายามลดการใช้ลงครับ (แต่"อาจารย์"เนี่ยมันยาวจิงๆนะ พี่พิมพ์สัมผัสไม่เปน ใช้จิ้มเอา เวลาพิมพ์คำยาวละมันเหนื่อยน่ะ)

Anonymous said...

แหะๆ เหนใครหลายคนมีปัญหาหัวใจกันทั้งนั้น เรื่องก้ดำเนินไปในทางเศร้าๆอีก เอาอาไรฮาๆไปดูกานไหมคับ อิอิ^^

อานที่ 1 http://www.youtube.com/watch?v=RmkJS3oB_BI&eurl=http%3A%2F%2Fwww.flashfly.net%2Fforums%2Fviewtopic.php%3Ft%3D291271&feature=player_embedded

อานที่ 2 http://www.youtube.com/watch?v=ELyTBXzfQJ8&feature=related

เอาไปดูกานนะครับ คลายเครียดดี

Sea~~!!

Anonymous said...

5555 ผมหาไปเรื่อยๆเจออันฮาๆเตมเลยเอามาแบ่งอีกครับๆ

อานที่ 3 http://www.youtube.com/watch?v=iKh1yDhA6KI

อานที่ 4 http://www.youtube.com/watch?v=yQBvO9ibJYE&feature=related

55 ฮามากๆคับ

Sea~~!!

Anonymous said...

เพื่อนบอกว่าจะเอา Prison Break มาให้ยืม
แต่เขาลืมตลอดสองอาทิตย์เลย T-T
ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ สุดท้ายก็เลย...
ติดหนึบในนี้น่ะครับ
http://www.videoand.tv/ดูหนังออนไลน์-clip-video/ดูหนังออนไลน์-ซีรี่ย์series-prison-br-23/

อาอูลองมั่งสิ >w<)//

เมื่อวานตอนไปเรียนพิเศษเขาเอา House MD มาให้
บอกเพราะว่าหา Prison Break ไม่เจอ
ไม่เป็นไร ไว้ Prison Break จบแล้วจะไปดูนะ
มีเรื่องที่จะดูเยอะมากๆเลย (เพื่อนเขาดูแล้วเอามา
คุยกันน่ะครับ ผมก็เลยเอามาเปิดตอนท่องศัพท์)

24
House MD
Grey Anatomy
Prison Break
Lost
Hero
อีกเรื่องจำชื่อไม่ได้

ว่าแต่ดูแล้วฝึกภาษาอังกฤษได้เหมือนกันนะ

หลาน Arus ของอาอู

Choo said...

หลานทวดหนุงหนิง หลานคนใหม่ของอาอู มาแรงจริงๆ มาปุ๊บ เม้นต์ 2-3 ตอน ออกนิยายมาแข่งซะแล้ว ชื่อเรื่องก็น่าสนใจ อาขอตามไปอ่านด้วยคนนะครับ งานนี้อาอูมีคู่แข่งเสียแล้ว 555 ว่าแต่จะเข้าไปดูอย่างไรเนี้ย เข้าเป็นแต่ blog นี้อ่ะ ทำไง!!!

น้อง IZ ไงมาวางยากันซะงั้นละ เป็นคนอ่านอยู่ดีๆ คอมเมนต์ไปเรื่อย วิจารณ์ถูกบ้างผิดบ้าง สบายจะตาย จะมาให้ผมเขียนซะงั้น ก็เคยคิดจะเป็นนักเขียนอยู่เหมือนกัน แต่เป็นคนไม่ค่อยมีจินตนาการเอาเสียเลย คงแต่งนิยายอะไรกับเข้าไม่ได้แน่ จะเขียนเรื่องจริงมันก็อาจจะซ้ำเติมอารมณ์เศร้ากันเกินไป มาอ่านคู่กับนิยายของอู มีหวังน้ำตาท่วม blog กันพอดี และที่น่ากลัวที่สุดก็ที่อูจะตามไปเม้นต์ทุกตอนนี้แหละ หนาวสันหลังวาบเลย 555

ที่ผ่านมาหลานๆ สอบกันอยู่แน่เลย รู้สึกหลานๆ เข้ามาเม้นต์ช้า ติดอ่านหนังสือ เรียนพิเศษ ขยันดีครับ แต่ต้องรักษาสุขภาพด้วยนะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะได้แข็งแรง ตัวสูงใหญ่ ว่าแต่หลานที่ 1 น่าจะอยู่ ม.5 หรือเปล่าครับ นับรุ่นไปงงไป ไปดู youtube ที่หลานทะเลแนะนำ อันแรกก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ดูอันที่ 2-4 ขำกลิ้งเลย ส่วนหนังแนะนำของหลาน arus อาขอเป็นแบบแผ่นผีซีดีเถื่อนเท่านั้น ของแท้เครื่องเล่นอาเปิดไม่ได้ครับ

คืนนี้อูจะออกตอนที่ 14 หรือเปล่า ผมตีตั๋วหลับดีกว่าครับ หวังว่าสบายดีกันทุกคนนะครับ

ชู
ปล. ขอบคุณน้องเด็กวางระเบิดแทนน้องอูด้วยครับ

Choo said...

เข้ามาดันให้เป็น 30 comments ครับ

ดูๆ ไปแฟนคลับรุ่นแรกๆ ของอู กลับมาทักทายกันเยอะนะครับ

ชู

พี said...

แวะเข้ามาดูครับ....


ตอน 14 ยังไม่มาเลย อาจออกคืนนี้ แต่คงรอไม่ไหวครับ ดูบอลมาแมนยูฯชนะ ผมก็ดีใจแล้ว ขอไปฉลองต่อนะครับ เมื่อเย็นดื่มมานิดหน่อย... ดูบอลส่าง...ไปแล้ว ขอไปเติมอีกนิดนะครับ ก่อนนอน

พอดีมีน้องคนที่แอบชอบไปกินด้วย เลยจำเป็นต้องไป...555

ไว้พรุ่งนี้มาตามต่อ...ตอน14คงออกแล้วนา...คุณอู

+ P +

ปล.น้องพิงสุเกะ(PSK) เปลี่ยนชื่อเป็น ^S-U-N^แล้วหรือ ถึงว่าทำไมไม่มาเม้นต์เลย ลองไปดูเม้นต์เก่า ถึงรู้ว่าพึงถึงบางอ้อ...

Anonymous said...

แง้ อาอูใจร้าย อุส่ารอ ตีหนึ่งยังไม่ยอมมาซะทีแง่งงง

สงสัยคืนนี้จาอดอ่าน ไม่เป็นไรปั่นต้นฉบับ

"รักวุ่นวาย วงดนตรีชายล้วน"ต่อ ถึงตอนที่7แล้วคับ

ส่วนต้นฉบับตอน8นั้นเสตแล้ว เด๋วจะลงพรุ่งนี้เยนๆ

ไม่เห็นชาวบล็อกอาอูไปอ่านมั่งเลย ไปรายงานตัวโชว์พาวกันหน่อยสิคับ เอหรือมันจะไม่สนุกนา - -"

ถึงอาชู ผมไม่ได้เขียนลงblog เหมือนอาอูครับ ตั้งใจจะทำหลังจากเขียนไปได้ซักพัก ช่วงแรกๆ ขอเชคเรตติ้งก่อน อิอิ * * ซึ่งลิงก์ที่ผมบอกไปเนี่ยก้อเข้าไปดุได้เลย อะ โฆษณาอีกที (อาอูต๋า อย่าโกรธผมนา )

http://www.palm-plaza.cc/CCforum/DCForumID7/2158.html?r=1

หลานหนิง นักเขียนหัดขับ

Anonymous said...

มาเม้นแล้วครับ

พี่หนิงคับ
หมายถึงผมเปล่าอะ ฟ้าไหนอะครับ
sky เหรอครับ
ถ้าอยู่ชั้นเดียวกันก็ครบแก๊งค์เลยสิครับ
ท้องฟ้า ทะเล พระอาทิตย์ ขาดแต่ภูเขา... หุหุ
งงเปล่าคับ โทษทีครับที่มาเม้นช้า

-------
พี่พีไม่ได้ดูคอมเม้นต์ของผมเหรอ
ผมเปลี่ยนชื่อนานแล้วล่ะ
จาก Pingsuke เป็น SUN
จะได้มีคำแปลเป็นภาษาไทยไงครับ
ขนาดอา KTB ยังเป็นธนาคารกรุงเทพฯเลย
ผมฮามาก คิดได้ไงฟระ

^S-U-N^

Anonymous said...

คลิปของทะเลอะ
ผมชอบอันที่ 1 นะ
ฮาดี ตอนท้ายมีข้อคิดนินึงด้วย

^S-U-N^

Anonymous said...

หลาน Arus ของอาอู
Heroes สนุกมากครับ
พี่ยังชอบเลย


IZ

Anonymous said...

น้อง พระอาทิตย์

ยอมรับว่างงนิดๆ แต่ก้อพอเกทมุขครับ

มานั่งรออ่านตอนต่อไปพร้อมกับปี่นต้นฉบับของวันพรุ่งนี้

มาซะทีสีคับอาอู

หลานหนิง

dabookung said...

~พี่คับ ผมชอบเรื่องของพี่นะ เจ๋มากฮะ รูปภาพประกอดก้สุดยอด ทำให้รึกภาพได้เรยอ่ะ ผมติดตามอ่านมานานแระ แต่เพิ่งจะมาเม้นให้เนี่ย คิกคิก~

Anonymous said...

เรียกอาทิตย์เฉยๆ ก็พอมั้งครับพี่

ไม่ต้องเติมพระหรอกครับ

ผมยังไม่ได้บวชซักหน่อย

^_^

^S-U-N^

Choo said...

ไม่สบายหรือเปล่าครับ น้องอู
หรือว่างานยุ่ง ไปต่างจังหวัด

take care krub.

ชู

ปล. ถามหลานๆ T-T,T^T หมายถึงอะไรครับ เห็นบ่อยแต่ไม่เข้าใจภาษาวัยรุ่น เกินมาเยอะ55

Anonymous said...

ช่วงนี้งานยุ่งครับ ขออภัยที่มาช้า ปลายสัปดาห์ยังต้องไปต่างจังหวัดด้วย วันนี้จะพยายามเข้ามาโพสต์ครับ

ตอบพี่ชูแทนหลานๆครับ

ที่พี่ถามเป็นสัญลักาณ์แทนหน้าครับ อย่าง
^_^ หรือ (^_^) ก็ยิ้มตาหยี

(-_-)" ก็เหนื่อยและมีเหงื่อหยด

อู

dodo said...

มาโพส เร็วๆน๊าครัฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
อยากอ่านอ่า
ติดใจมากรุย
เด๊ะชวนเด็กประเทศลาวเข้ามาอ่านเยอะๆเลย

โดโด้

glorynhing said...

โอ้โห มีประเทศเพื่อนบ้านมาอ่านด้วยแฮะ อีกหน่อยอาอูคงโกอินเตอร์ 555+

มาตอบอาชู T-T หรือ T^T หรือ TwTนี่แปลว่าน้ำตาไหลพรากครับ ใช้เวลาแบบ เศร้ามาก ซึ้งมาก อะไรทำนองนั้น มีหลายแบบนะ ลองเอามาให้ดุเล่นๆ ละกัน ส่วนใหญ่จะใช้ในบอร์ด ในเกม อะไรประมาณนั้นครับ

-*- หรือ - -* หรือ- -" หมายถึง อะนะ เซ้ง หรืองงเต๊ก หรือเหงื่อตก

> < อันนี้ทำตาหยี มาจาการ์ตูนญี่ปุ่นยุคหลังๆครับ
O o" อันนี้ทำตาลุกวาว

OTL อันนี้ยอมแพ้หรือคารวะ ใช้ตอนเล่นเกมครับ คนไทยอาจจะไม่นิยมเพราะมักจะใช้ในวงการเกมออนไลน์ต่างประเทศ คนไทยใช้กันประปราย(อาจจะงง ถ้าดูดีๆ มันจะเหมือนคนคุกเข่าน่ะ)

น้องๆแก๊งทะเลภูเขาพระอาทิตย์ รู้อะไรเพิ่มเติมก้อลองมาเพิ่มเติมกันได้นะ พี่เองก้อเริ่มจะเลยวัยรุ่นนี่ก้อตามไม่ทันเหมือนกัน อย่างศัพท์บางคำสมัยนี้พี่ก้องงๆละ

Choo said...

ขอบคุณหลานอู เป็นวัยรุ่นเชียว ไม่ตกยุคเหมือนรุ่นเดียวกันเลยนะ

ขอบคุณหลานหนุงหนิง ได้ความรู้ กระชากวัยลงมาพอสมควร วันหน้าจะได้ใช้บ้าง ฮิ ฮิ


(^_^)ชู

ปล. sky ไม่น่าจะรุ่นเดียวกับหลานทะเล,หลานอาทิตย์ น่าจะทำงานแล้วใช่ป๊ะครับ