Tuesday, June 23, 2009

ภาคสาม ตอนที่ 1

เดือนเมษายน

หลังจากที่ไอ้นัยจากไปแล้ว ชีวิตของผมก็เหมือนกับว่าหายไปครึ่งชีวิต ผลการเรียนของผมตกต่ำลงอย่างมากเนื่องจากไม่มีกะจิตกะใจเรียนหนังสือ นอกจากนี้ ผมยังต้องคอยหวาดระแวงอยู่เสมอว่าพวกผู้ใหญ่อาจกำลังสืบเสาะความลับของผมและไอ้นัยอยู่ สภาพจิตใจของผมจึงไม่ค่อยดีนัก จนเมื่อได้กลับมาอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด ความรักในครอบครัวได้ช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของผม สภาพจิตใจของผมจึงค่อยดีขึ้นบ้าง


ผมได้ไปที่บึงน้ำเพียงครั้งเดียว ที่นั่น ยามเมื่อไม่มีไอ้นัย ช่างเงียบเหงาสิ้นดี มันทำให้ผมรู้สึกเดียวดายจนไม่กล้าอยู่ที่นั่นนานๆ ผมตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าไม่มีไอ้นัย ผมจะไม่มาที่นี่อีก ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ผมจะไม่มาที่นี่คนเดียวอีกเพราะว่าผมต้องการมาพร้อมกับไอ้นัย หรือเป็นเพราะว่าผมกลัวที่จะมาคนเดียวกันแน่

ในช่วงเวลาปิดภาคตั้งแต่เริ่มแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา เอ๊ดไม่ได้กลับบ้านต่างจังหวัดเลยเพราะมัววุ่นวายกับการเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ เอ๊ดใช้เวลาก่อนสอบในการติวอย่างหนัก จนหลังจากสอบเอ็นทรานซ์เสร็จในช่วงต้นเดือนเมษายนแล้วเอ๊ดจึงค่อยกลับมาที่บ้าน

“อู กินขนมเสียหน่อย” แม่ชวนผมกินขนมในบ่ายวันหนึ่ง ขนมนี้แม่ไม่ได้ทำเอง แต่ซื้อมาจากตลาด

ช่วงเวลาปิดเทอมที่ผ่านมานี้ ผมใช้เวลาอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ รู้สึกหมดความกระตือรือร้นที่จะออกไปเล่นนอกบ้าน อยากอยู่ใกล้ๆพ่อกับแม่มากกว่า เพราะมันทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ คลายความว้าเหว่ลงได้มาก

“ผลการเรียนของอูปีที่แล้วตกลงไปนะ” แม่ชวนคุย

ผมเฉยๆ ไม่พูดอะไร ปกติแม่ไม่ค่อยถามไถ่เรื่องผลการเรียนของผม

“พอนัยไม่อยู่ ผลการเรียนของอูก็ตกเลย แม่บอกแล้ว ว่านัยเป็นเด็กดี พึ่งพาได้ นี่พอนัยไม่อยู่เลยไม่มีใครคอยดูแลอู” แม่พูด ผลการเรียนของผมตกเพราะผมเสียใจ แต่แม่กลับคิดไปว่าเป็นเพราะไอ้นัยไม่อยู่ดูแลผม “นัยไม่ได้มาที่นี่สองปีแล้วนะ ป่านนี้คงโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ได้เจอกันเสียนาน”

ผมรู้สึกตื่นเกร็งขึ้นมาในทันที จู่ๆแม่ก็พูดถึงไอ้นัย กระตุ้นให้ผมรู้สึกหวาดระแวง เป็นไปได้หรือไม่ที่คุณอาของไอ้นัยอาจจะโทรมาเล่าเรื่องราวต่างๆให้ที่บ้านของผมฟัง แม่จึงพยายามตะล่อมถามผม

“เออ แม่ไม่เห็นอูเขียนจดหมายถึงนัยเลย ทำไมเป็นยังงั้นล่ะ” แม่ถามต่อ

“เขียนไปแล้วแม่” ผมตอบอ้อมแอ้ม

“อูเขียนตอนไหนเหรอ แม่ไม่ยักเห็น” แม่สงสัย

“ก็ตอนกลางคืนอ่ะ อูเขียนดึกๆ แม่เลยไม่เห็น” ผมตอบ เริ่มรู้สึกอึดอัด

“แล้วไม่เห็นนัยเค้าตอบมาเลย” แม่สงสัยอีก

“เอ้อ ช่วงนี้มันคงยุ่งอยู่น่ะแม่ ถ้าหายยุ่งแล้วก็คงเขียนมาแหละ” ผมพูด ว่าแล้วก็รีบเดินหนีไปในทันที ถ้าขืนนั่งกินขนมอยู่ต่อไปอาจถูกจับพิรุธได้

ผมต้องคอยหวาดระแวงอยู่เสมอ ตอนอยู่ที่บ้านคุณลุงที่กรุงเทพฯ ผมก็ต้องคอยผวาเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ เพราะเกรงว่าคุณอาของไอ้นัยจะโทรมาสอบถามอะไรอีก พอกลับมาบ้านที่ต่างจังหวัดก็ต้องคอยระแวงพ่อกับแม่

- - -

หลังจากที่เอ๊ดสอบเอ็นทรานซ์เสร็จและกลับมาบ้าน ผมค่อยสบายใจขึ้นบ้าง เพราะผมรู้ว่าพอจะไว้ใจเอ๊ดได้บ้าง เพราะจากที่ผ่านมา เอ๊ดคงพอระแคะระคายอะไรอยู่บ้าง เนื่องจากการดำเนินชีวิตของผมอยู่ในสายตาของเอ๊ดโดยตลอด แต่หลังจากวันที่ไอ้นัยจากไป เอ๊ดก็ไม่เซ้าซี้หรือพยายามคาดคั้นอะไรจากผมอีก

“โอ๊ย เปิดซ้ำเปิดซากอยู่นั่นแหละ เบื่อจะตายอยู่แล้ว ฟังเพลงอื่นไม่เป็นหรือไง” เอ๊ดบ่นขึ้นมาในวันหนึ่ง หลังจากที่ฟังเพลง ‘ฟ้ายังมองเรา’ ของนันทิดา แก้วบัวสาย เป็นครั้งที่หนึ่งร้อยกว่า

“ก็ชอบฟังอ่ะ” ผมตอบ ผมนอนเอกเขนกอ่านหนังสืออยู่ในห้องขณะที่เอ๊ดนั่งเขียนอะไรอยู่ที่โต๊ะทำงาน

ก่อนกลับบ้าน ผมได้ซื้อเทปเพลงมาสองสามม้วน หนึ่งในเทปเหล่านั้นเป็นอัลบั้มออกใหม่ของพี่ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องสาวซึ่งกำลังโด่งดังมากในยุคนั้น ชื่อชุด ‘เมื่อวันฟ้าสวย’ อัลบั้มชุดนี้ออกเมื่อปลายปีที่แล้ว มีเพลงไพเราะในนั้นหลายเพลง แต่เพลงที่ผมชอบมากที่สุดก็คือเพลง ‘ฟ้ายังมองเรา’ ผมอาศัยเพลงนี้ให้กำลังใจแก่ตนเอง ทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้ผมจะนึกถึงไอ้นัย อยากให้มันได้ฟังเพลงนี้ด้วย จะได้มีกำลังใจสู้กับชีวิตต่อไป

นัย ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหนนะ ทำไมไม่เขียนจดหมายมาหากูบ้างเลย กูคิดถึงมึงมากรู้ไหม ผมคิดในใจ ตั้งแต่จากกกัน ไอ้นัยไม่เคยติดต่อผมเลย ผมหลอกแม่ว่าเรามีการติดต่อกัน แต่ที่จริงจดหมายสักฉบับไอ้นัยก็ไม่เคยเขียนมา ตอนที่มันจากไปใหม่ๆ ผมโทรศัพท์มาถามแม่บ่อยๆว่ามีจดหมายจากไอ้นัยส่งมาที่บ้านบ้างไหม แต่พอถามไปได้สักช่วงหนึ่งผมก็เลิกถาม เพราะเกรงทางบ้านสงสัย

“เอ้า เอานี่ไป” เอ๊ดพูด กระชากผมให้ตื่นจากภวังค์ ผมเห็นเอ๊ดเอาแบงก์ร้อยสองใบวางบนเตียงข้างๆตัวผม

“ให้เงินอูทำไมน่ะ” ผมงง

“ค่าจ้างให้เลิกเปิดเพลงนี้ ถ้าไม่พอบอกได้นะ” เอ๊ดพูด

ผมรีบเก็บเงินใส่กระเป๋าทันที อยู่ดีๆก็ได้เงินใช้ฟรีๆ

“อย่าเปิดอีกนะ” เอ๊ดกำชับ

“อะไรกัน อูไม่ได้รับปากอะไรเสียหน่อย” ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“อ้าว แล้วเอาเงินไปทำไม” เอ๊ดถาม “งั้นเอาเงินคืนมา”

“อ้อยเข้าปากช้างแล้วจะเอาคืน เห็นจะยาก” ผมใช้วิชาดื้อด้าน

“ไอ้ขี้โกง” เอ๊ดด่า แต่ใบหน้ายังมีรอยยิ้ม

ช่วงหลังนี้ดูเอ๊ดดีกับผมมากขึ้น บางทีก็แกล้งแหย่ผมเพื่อให้ผมอารมณ์ดี วันนี้ถึงขนาดลงทุนด้วยเงินสองร้อยบาทเพื่อแหย่ผม

ที่จริงยังมีเรื่องที่เอ๊ดไม่รู้ นั่นก็คือ ช่วงก่อนที่เอ๊ดจะกลับมา ผมยังมีเทปอีกม้วนหนึ่งที่ผมเปิดฟังแล้วแล้วฟังอีก นั่นคือเพลง ‘สายชล’ จันทนีย์ อุนากูล แต่ผมมักเปิดฟังตอนอยู่คนเดียวในห้องตอนดึกๆ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงรัก ถ้าเปิดบ่อยๆให้ใครได้ยินอาจเป็นที่สงสัยได้

เพลงสายชลนี้โด่งดังมาหลายปีแล้ว น่าแปลกที่เมื่อก่อนผมฟังแล้วก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้พอฟังในยามดึก ขณะที่อยู่คนเดียวเงียบๆทีไร มันอดรู้สึกอ้างว้างไม่ได้...

- - -

เดือนพฤษภาคม

ความอบอุ่นของชีวิตครอบครัวดำเนินต่อไปได้อีกไม่นาน ในที่สุดก็ถึงวันที่เอ๊ดต้องจากผมไป เพราะว่าเอ๊ดไม่ได้สอบติดในกรุงเทพฯ แต่ไปติดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ

ข่าวนี้ทำให้ผมใจหาย เพราะนั่นหมายความว่าเอ๊ดจะต้องย้ายออกไปจากบ้านคุณลุง และต่อไปผมจะต้องอยู่ที่บ้านนี้กับคุณลุงและคุณป้าเพียงสามคน

ตอนอยู่ชั้นประถม ผมคุ้นเคยกับชีวิตที่อยู่ห่างไกลครอบครัวแบบเด็กหอ แต่พอมาพักอยู่ที่บ้านคุณลุงกับเอ๊ดได้สามปี ผมก็เคยชินกับชีวิตที่อยู่กับพี่ชายเสียแล้ว มาถึงตอนนี้ ไอ้นัยก็จากไป เอ๊ดก็จะจากไปอีก มันทำผมรู้สึกใจหายและอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก ชีวิตในรอบปีที่ผ่านมาช่างเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายจริงๆ

เมื่อผลสอบเอ็นทรานซ์ประกาศอย่างเป็นทางการ พ่อ เอ๊ด และผมก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ สำหรับผมนั้นมาเพื่อรายงานตัวและลงทะเบียนเรียนในชั้น ม.๔ ส่วนเอ๊ดมาเพื่อเก็บข้าวของ

ในวันที่เอ๊ดเดินทางไปเพื่อเรียนต่อ ที่บ้านของเรา พ่อ แม่ และผม ต่างก็ไปส่งเอ๊ดที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เอ๊ดเดินทางไปพร้อมกับรุ่นพี่ที่คณะและเพื่อนร่วมรุ่นที่สอบได้ในปีนั้น ใบหน้าของพ่อและแม่เปื้อนไปทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ผมคิดว่าน้ำตาของพ่อและแม่เป็นน้ำตาของความปีติที่สามารถเห็นลูกชายประสบความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งในชีวิต แต่สำหรับผมนั้นมีแต่ความเศร้าสร้อย ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าผมผูกพันกับเอ๊ดมากขนาดนี้ ผมเพิ่งมาตระหนักก็ต่อเมื่อเอ๊ดกำลังจะจากไป... มันก็เหมือนกับไอ้นัย... กว่าที่ผมจะตระหนักถึงความสำคัญที่มันมีต่อผมก็ต่อเมื่อมันได้จากไปแล้ว...

ฟังเพลง ฟ้ายังมองเรา
ฟังเพลง ฟ้ายังมองเรา (สำรอง)


<อัลบั้ม เมื่อวันฟ้าสวย ของนันทิดา แก้วบัวสาย วางแผงในช่วงปลายปี ๒๕๒๙ เป็นผลงานในยุคต้นๆของเธอ ในอัลบั้มนี้มีเพลงดังอยู่หลายเพลง หลายเพลงยังโด่งดังมาจนถึงปัจจุบันนี้ อาทิ ฟ้ายังมองเรา หักใจให้ลืม บอกหน่อยได้ไหม ฯลฯ โดยเฉพาะเพลง บอกหน่อยได้ไหม เป็นที่นิยมร้องในหมู่คนที่ทำงานแล้ว และมักร้องหลังกลางเดือนเป็นต้นไป โดยนำไปร้องแบบขำๆว่า เบิกหน่อยได้ไหม >

19 comments:

Anonymous said...

ขอเป็นที่หนึ่งอีกสักตอนนะคับคุณอู และแฟนๆ อิอิ

MNK

Anonymous said...

ความรักของอูมาเร็วเกินไป และก็จบเร็วเกินไป สงสารอูที่ต้องใช้ชีวิตวัยเด็กกับจิตใจที่มีความเศร้า ความเหงา รู้สึกอ้างว้างแบบนี้ ผมก็เคยเป็นเหมือนกัน มันกระทบกับชีวิตเยอะเลย พลาดสิ่งดีๆ ไปมาก แต่มันก็ย้อนกลับไม่ได้ซะแล้ว
เป็นกำลังใจให้คับ

MNK

Anonymous said...

ความรักภายในครอบครัวเป็นความอบอุ่นที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไร อูกลับบ้านเพื่อเติมกำลังใจในการก้าวต่อไป เป็นกำลังใจให้ครับ

ว่าแต่ผมไม่ได้เป็นพี่ในสหกรณ์หรือพี่เต้ปลอมตัวมาหลอก จริงๆ แล้วเป็นพี่เอ๊ดของน้องอูเอง 555

ล้อเล่นครับ เป็นแฟนคลับอู แค่นั้น

ชู

Anonymous said...

จะติดตามเรื่อยไปครับ

ความรักก็เหมือนอากาศ
รู้ว่ามีอยู่ แต่มองไม่เห็น


จะผิดมั้ย ถ้าผมบอกว่าผมรักนัย
และคิดถึงนัยมากเลยล่ะคับ

ไม่รู้แฮะ นัย และ คุณอู เป็นรูปเป็นร่าง
ในจินตนาการ ในความคิดของผมแล้ว


Lonely...man

Bomber_Boy said...

ไม่มีนัย แต่อูก็ยังมีพวกเราอยู่...

คิดถึงจริงๆ

yo408 said...

มาร่วมตัดริบบิ้นภาค3ครับ

Anonymous said...

มาคนที่ 7

thom

Anonymous said...

มาคนที่ 8

นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว

ดีใจสุดๆ ที่ยังมีเรื่องให้อ่านต่อ

ขอบคุณมากครับอาอู

อาร์ม

Anonymous said...

ขอเป็น top ten อีกรอบ
รอบนี้ได้ที่ 8 ก็ยังดี

IZ

Anonymous said...

มาคนที่ 10 - -

Sea~~!!

Anonymous said...

อ่านจบแล้วครับ ลุงเอ๊ดไปซะแล้วแหะ - -
ไม่เป็นไรหรอกครับ อาอูยังมีเพื่อนๆที่โรงเรียนอีกไง หวังว่าไปโรงเรียนแล้วคงไม่ทำให้นึกถึงอานัยจนจิตตกนะครับ
เพลงเพราะดีนะครับ อาอู

ปล.ขอบคุณครับที่มาเขียนต่อให้

Sea~~!!

Anonymous said...

เทปม้วนนี้แต่ก่อนผมก็เคยมี ไม่ได้เห็นปกเทปนี้นานมากแล้ว ขอบคุณอูมากทีช่วยรื้อฟื้นความหลังสมัยยังวัยรุ่นขึ้นมา

Anonymous said...

มาแล้วเลข url แบบนี้ จะดีเหรอครับ?
ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ครับ
ทานเสร็จจะไปเรียนพิเศษแล้ว

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับอู
เพลง "ฟ้ายังมองเรา" ไพเราะมาก ด้วยเสียงกังวาน ของ นันทิดา ฟังแล้วไม่ได้สดชื่นนะ มันหดหู่ เศร้า ใจหาย
----------------------------------------
จากวันนั้น วันที่ฉัน_1_ยังเยาวัย
ครั้นร้องไห้ไร้คนเอาใจ แหงนขึ้นมองฟ้า
ปลอบใจเรา เพียงแต่เฝ้ามองดวงดารา
แสงสวยส่องฉันมอง _2_ _3_ ฟ้าไม่เคยเก่า
*ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าจะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป
ตะวันลับไปแต่ยังมีแสงดาว
ส่องสว่างทุกคราว...ยามเศร้า
คราวไหน คราวเกิดท้อใจยามเศร้า
เหงาหมองหม่นไร้คนนำพา ฟ้ายังมองเรา
ฮัม .. .. .. .. .. .. .. ฮัม .. .. .. .. .. .. ..
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ ฟ้าไม่เคยเก่า
ฟ้ายังมี _4_ _5_ _6_ _7_ ฟ้ายังมองเรา
-------------------------------------------------
มีช่องว่้างของคำ อยู่ 7 คำ ฟังไม่ออก
อูช่วยเติมให้ทีดิ
ไม่ลงชื่อคับ อูรู้เองว่าเป็นใคร 5555

Anonymous said...

เนื้อเพลงฟ้ายังมองเราครับ

จาก วันนั้น วันที่ฉันเองยังเยาว์วัย
ครั้นร้องไห้ไร้คนเอาใจ
แหงน ขึ้นมองฟ้า ปลอบ ใจเรา
เพียงแต่เฝ้ามองดวงดารา
แสงสวยส่อง ฉันมองเพลินตา
ฟ้าไม่เคยเก่า ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าจะอยู่ข้างเราตลอดไป
ตะวันลับไป แต่ยังมีแสงดาว
ส่องสว่างกระจ่างทุกคราว
ยามเศร้า คราวไหน
คราวเกิดท้อใจให้ระอา
เหงาหมองหม่นไร้คนนำพา
ฟ้ายังมองเรา
ฮึม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึ่มฮึ่ม
ฮึม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึ่มฮึ่ม
ฮึม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึ่มฮึ่ม
ฮึ้ม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึม
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าไม่เคยเก่า
ฟ้ายังมีแสงชี้ทางเรา
ฟ้ายังมองเรา
(ดนตรี)..
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าจะอยู่ข้างเราตลอดไป
ตะวันลับไปแต่ยังมีแสงดาว
ส่องสว่างกระจ่างทุกคราว
ยามเศร้า คราวไหน
คราวเกิดท้อใจให้ระอา
เหงาหมองหม่นไร้คนนำพา
ฟ้ายังมองเรา
ฮึม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึ่มฮึ่ม
ฮึม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึ่มฮึ่ม
ฮึม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึ่มฮึ่ม
ฮึ้ม.ฮึม.ฮึ้ม.ฮึม
ฟ้ายังมีรักและพลังใจ
ฟ้าไม่เคยเก่า


เลข url แบบนี้ จะดีเหรอครับ? หลาน arus หมายความว่าอะไรน่ะ อาไม่เข้าใจ

หลานทะเล ก็อย่างที่อาบอก ว่าไม่ได้เศร้าตลอดเวลา พอนานเข้าก็ปรับตัวปรับใจได้ แต่มันต้องอาศัยเวลา ตอน ม.๔ สภาพการเรียนเปลี่ยนไปมาก การแข่งขันก็สูง บรรยากาศการเรียนทำให้ช่วยลืมเรื่องในอดีตไปได้ด้วยครับ ตอนต่อไปจะเล่าให้ฟัง

อู

Anonymous said...

มาเป็นกำลังใจให้คุณอูครับ

ต้า..

Bomber_Boy said...

คุณอูครับ ผมอยากจะบอกว่า ตั้งแต่ผมอ่านสองสามตอนสุดท้ายของภาคที่แล้ว ผมยังจิตตกไม่หายเลย...จะคอมเมนต์ก็ไม่รู้จะเขียนว่าอะไร ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนอื่นเป็นแบบผมกันบ้างหรือเปล่านะ?? ณ วันนี้ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยนึง ที่คุณอูยังอยู่ ยังมีเรื่องมาให้พวกเราได้อ่านต่อ ได้มีเรื่องที่เล่าถึงความหลัง แต่ก็ยังคิดถึงเรื่องเก่าๆ อยู่

ทำไมคุณทำให้เราอินได้ขนาดนี้นะ

Anonymous said...

พี่อู ชอบเพลงเดียวกะผมเลย ไมไ่ด้ฟังนานแล้วน่ะเนี่ย
หุหุ มารอตอนต่อไปค๊าบ
^^sky^^

MAX said...

หวัดดีครับ ลุงอู
ผมอ่านของลุงอูมาตั้งนานแล้ว นานๆ จะเข้ามาอ่านที
แต่ยังไม่เคย ment

จริงๆ วันนี้ผมหยุดเพื่ออ่านหนังสือสอบ..วันอาทิตย์นี้แหละ
แต่มาอ่านของลุงอูก่อน เศร้ามากเลยครับ คิดถึงนัยจัง
ทำให้ผมคิดถึงคนๆ นึงที่ SK แบบเดียวกันเลย

เป็นกำลังใจให้ลุงอูเขียนต่อไปเรื่อยๆ นะครับ

MAX