Thursday, July 3, 2008

ภาคสอง ตอนที่ 11

เมื่อเราร่ำลำคุณลุง คุณป้า และเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ขณะที่อยู่ในรถ ผมนั่งเงียบด้วยความโกรธเคืองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนเอ๊ดรู้สึกผิดสังเกต

“อู เป็นไรไปน่ะ เงียบเชียว”

ผมใช้ความเงียบแทนคำตอบ สายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ

“อ้าว ไม่บอกก็ตามใจ” เอ๊ดพูด

ตอนแรกว่าจะเงียบ ไม่อยากพูดอะไร แต่ในที่สุดผมก็อดรนทนไม่ได้

“ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนี่ เซ็ง... แค่พาไอ้นัยแวะไปดูที่บ้านหน่อยเดียวก็โดนดุซะแล้ว” ผมบ่น

“นึกแล้วว่าต้องเรื่องนี้ ก็บอกแล้วไงว่าอยู่ที่นี่อูต้องพยายามปรับตัวเยอะ” เสียงพ่อแทรกเข้ามา

“ป๋าก็ไม่เห็นจะช่วยอูพูดเลย ยังช่วยดุอีก แค่พาเพื่อนมาไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่” ผมโวยวาย

“นี่ไม่ใช่บ้านเรานะอู” แม่ช่วยพูดขึ้นมาบ้าง “ป๋าพูดเข้าข้างอูตอนนั้นไม่ได้หรอก อูอยากอยู่ที่นี่เองนี่ ป๋าก็ช่วยให้อยู่แล้วไง อูจะเอาให้ได้อย่างใจทุกเรื่องไม่ได้นะ”

โดนไม้นี้เข้าผมเลยอึ้ง พูดไม่ออก ใช่สินะ ผมเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่เอง แม้ว่าจะเป็นการจำใจเลือกก็ตาม

“เอ๊ดทนได้ยังไงเนี่ย อูไม่เข้าใจเลย” ผมบ่นอีก แต่เสียงชักอ่อยลง

“ก็อูอย่าเรื่องมากสิ” เอ๊ดตอบ “คุณลุง คุณป้าอยากให้ทำอะไรก็ทำๆเข้า แค่นี้ก็อยู่ได้แล้ว”

แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยสังเกต แต่ตอนนี้ผมชักเริ่มเห็นแล้วว่านิสัยของผมกับเอ๊ดช่างต่างกันมาก เอ๊ดยอมรับอะไรได้ง่ายกว่า ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่า พูดง่ายๆก็คือหัวอ่อนกว่าผมเยอะ แต่ยังไม่ถึงขนาดเป็นดินน้ำมันเหมือนกับไอ้นัย

“เฮ้อ เซ็ง” ผมถอนหายใจด้วยความอึดอัด “นี่ต้องทนอยู่ไปจนจบ ม.๖ เลยเหรอเนี่ย”

“เฮอะ ๆ ๆ” เอ๊ดทำเสียงแค่นหัวเราะ “ยังมีอะไรให้เจออีกเยอะ จะอยู่นี่ได้จนจบ ม.๓ หรือเปล่าเถอะ อย่าเพิ่งคิดไปถึง ม.๖ เลย”

“อ้าว ไหงมาแช่งกันแบบนี้ล่ะ” ผมทำเสียงไม่พอใจ อารมณ์ที่กำลังขุ่นมัวทำให้เห็นอะไรขวางตาไปหมด

“เอ๊ด อย่าไปแหย่อูสิ” พ่อหันมาปรามทั้งที่กำลังขับรถอยู่

“ไม่ได้แหย่หรอกป๋า เอ๊ดพูดจริงๆ นิสัยอย่างอูเผลอๆอูจะทำให้เอ๊ดอยู่ไม่ได้ด้วยน่ะสิ” เอ๊ดพูดโพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่ไม่แพ้กัน

ในเวลานั้นเอง ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นตัวซวยหรือตัวน่ารังเกียจอะไรสักตัวสำหรับเอ๊ด

“นิสัยอูมันเลวยังไงเหรอ” ผมพูดเสียงเครือ “นี่เอ๊ดรังเกียจอูขนาดนี้เลยเหรอ”

“โฮ้ย ไปกันใหญ่แล้ว” แม่พูดขึ้นมาบ้าง “อยู่ดีๆก็มาทะเลาะกันไม่เป็นเรื่อง แล้วเอ๊ดวันนี้เป็นอะไรไป ทำไมว่าน้องเสียขนาดนั้น”

หลังจากนั้น เราก็ทะเลาะกันในรถนัวไปหมด อารมณ์ในช่วงหลังนั้นผมไม่ได้โกรธเคืองคุณลุงกับคุณป้าแล้ว แต่น้อยใจพี่ชายมากกว่า เอ๊ดมักพูดเสมอในระยะหลัง ว่าการที่ผมมาอยู่จะทำให้เอ๊ดเดือดร้อนไปด้วย แม้ว่าพ่อกับแม่จะช่วยกันปราม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวระหว่างผมกับเอ๊ดยุติลง เป็นเพียงแค่สงบไปชั่วคราวเท่านั้น

- - -

หลังจากที่เรากลับจากกรุงเทพฯ ผมมีเวลาอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดอีกเพียงไม่กี่วัน จากนั้นก็จะต้องเข้ากรุงเทพฯอีกแล้ว ในตอนนั้น โรงเรียนมักเปิดเทอมในราวกลางเดือนพฤษภาคม ประมาณวันที่ ๑๒-๑๗ ใจหนึ่งผมก็รู้สึกตื่นเต้นกับชั้นเรียนใหม่ กับเพื่อนใหม่ๆ และที่สำคัญคือจะได้พบกับไอ้นัยอีก แต่สิ่งที่สร้างความกังวลอยู่ในใจของผมเสมอก็คือ การที่ผมจะต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านคุณลุงคุณป้าอีก

ความหนักใจนี้ผมไม่สามารถระบายกับใครได้ เพราะรู้ตัวดีว่าถ้าบ่นเมื่อไรก็จะมีแต่โดนสมน้ำหน้า โดยเฉพาะกับเอ๊ดนี่ระบายด้วยไม่ได้เลย เป็นต้องทะเลาะกัน

ในสัปดาห์ถัดมา ผมกับเอ๊ดก็กลับมาพักที่บ้านของคุณลุงคุณป้าอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่พักชั่วคราวแล้ว แต่เป็นการพักแบบประจำเลย พ่อพาเรามาส่งในเย็นวันศุกร์ ให้เรามีเวลาเตรียมตัวสองวัน จากนั้นก็จะเปิดเรียนในวันจันทร์

หลังจากที่พ่อกลับไปแล้ว ผมกับเอ๊ดก็ต้องช่วยกันจัดห้อง เราช่วยกันจัดวางโต๊ะทำงานของผมกับเตียง ให้เข้าที่ เมื่อวางโต๊ะกับเตียงเข้าไปอีกชุดหนึ่ง ห้องนอนก็แคบไปอย่างเห็นได้ชัด พอวางตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กเข้าไปอีกหลังหนึ่ง ห้องก็เต็มพอดี มีที่ว่างแค่พอเดินไปมาได้เท่านั้น กับมีที่ว่างข้างเตียงอีกหน่อย ขนาดเท่ากับเสื่อสักผืนหนึ่ง

“โห ห้องเบ้อเริ่ม เหลือที่นิดเดียวเอง” เอ๊ดพูดเปรยๆ

“จะโทษอูอีกใช่ไหมล่ะ” ผมดักคอเอ๊ด หมู่นี้ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกว่าเราสองคนเขม่นกันอย่างไรชอบกลอยู่ ผมก็ไม่ค่อยพอใจเอ๊ด และดูเหมือนเอ๊ดก็ไม่ค่อยพอใจผม

“คิดเอาเองดิ” เอ๊ดตอบ น่าแปลกอยู่เหมือนกัน ที่ว่าเอ๊ดอยู่ที่บ้านนี้ได้เพราะความอดทน และใจเย็น แต่กับผมเอ๊ดไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย

- - -

เช้าวันถัดมา

วันนั้นเป็นวันเสาร์ ผมตื่นขึ้นเพราะว่ามีใครมาเขย่าตัว

“อู ตื่นได้แล้ว วันนี้ต้องทำงานบ้าน” เสียงเอ๊ดพูด

เอ๊ดมาปลุกผมตั้งแต่แปดโมงเช้า พร้อมทั้งบอกให้ผมฟังว่าวันนี้ผมต้องทำอะไรบ้าง ผมกับเอ๊ดจะต้องช่วยกันทำงานบ้านทั้งหมด ตั้งแต่กวาดบ้าน ถูบ้าน ปัดฝุ่นและเช็ดฝุ่นตามโต๊ะ เก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีงานซักผ้า ตากผ้า และรีดผ้า อ้อ ยังมีล้างจาน รดน้ำต้นไม้ เก็บเศษใบไม้กิ่งไม้ในสวนไปทิ้งอีก

อย่างที่เคยบอกเอาไว้ ว่าที่บ้านนี้ไม่ได้จ้างคนทำงานบ้าน ดังนั้นทุกคนในบ้านจึงต้องช่วยกันทำ ในวันธรรมดา คุณลุงกับคุณป้าก็จะช่วยกันดูแลบ้าน ทำงานบ้านไปเรื่อยๆ ส่วนในวันหยุด เป็นวันที่เราสองคนจะต้องช่วยกัน

อันที่จริงงานซักผ้านั้น ในวันธรรมดาจะมีคนแถวบ้านซึ่งมีอาชีพรับจ้างซักรีดเสื้อผ้ามารับเสื้อผ้าไปซักและรีด แล้วนำมาส่งคืนให้ แต่เป็นเฉพาะเสื้อผ้าของคุณลุงคุณป้าเท่านั้น ส่วนของเอ๊ดนั้นปกติต้องซักรีดเอง

เหตุผลที่คุณลุงคุณป้าให้เอ๊ดทำงานบ้าน และซักรีดเสื้อผ้าเองนั้น ก็เพื่อจะฝึกให้มีวินัย มีหน้าที่ รู้จักมีความรับผิดชอบ ซึ่งพ่อกับแม่ก็เห็นดีด้วย เอ๊ดเองก็ไม่ขัดข้อง ดังนั้นจึงถือเสมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบ้านนี้ ดังนั้นเมื่อผมมาอยู่ ผมก็ต้องปฏิบัติเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน

“อูมาอยู่ก็ดีเหมือนไปอย่าง งานบ้านของเอ๊ดจะได้เบาขึ้น” เอ๊ดพูด เดี๋ยวกินข้าวแล้วเริ่มกันได้เลย เอ๊ดจะสอนงานให้”

“เพิ่งจะเห็นความดีของอูเหรอ” ผมอดประชดเล็กๆไม่ได้

8 comments:

Anonymous said...

หุ หุ มาเม้นให้คนแรกเรย ขอบคุนลุงอูมากมากครับ เอาอีกน้าครับ

Anonymous said...

มารายงานตัวครับคุณอา!!

หลาน Arus

Anonymous said...

น่าสงสารชีวิตอูตอนนี้จัง แต่อย่างว่านะ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น 55555 เป็นกำลังใจให้นะ

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับอู
ตอนใหม่นี้รวดเร็วทันใจดีมากครับ
อดทนหน่อยครับอูถึงจะอึดอันแต่ก้อยงดีที่ได้เจอกะนัยเกือบทุกวันมันมีความสุขดีมะช่ายเหยอ
เพราะฉะนั้นอดทนอดทนและห้ามบ่น
ผมตอบแทนคือได้อยู่ใกล้นัย
นั่นคือความสุขที่อยู่ในใจนี่
ตอนนี้ต้องยอมรับตัวเองแล้วนะ
นัยแฟนฉัน
ดีไม่ดีก้ออาจจะได้มีรัยกะนัยต่อไปอีกงัย อย่าลืมว่าตอนนี้ยังเป็นหนี้ค้างนัยอยู่มะช่ายเหยอ
ยังไม่รู้ว่านัยมันจะเอาคืนเมื่อไหร่ 55555
เตรียม ต.เอาไว้ดีดีนะ
ต. ในที่นี้ไม่ใช่ "ตัว" นะ แต่เป็น "TOOD" อะ
ผมแหย่อูเล่นหนุก ๆ นะครับอย่า
เป็นกำลังใจให้อูนะครับที่จะได้อยู่กะนัยไปอีก 6 ปีเต็มๆ เวลายังอีกยาวไกล ตอนนี้ต่างคนต่างยอมรับแล้วว่าเป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนปิดเทอม ปอ 6 แล้ว
คงมีเรื่องหนุก ๆ มาเล่า ให้อ่านอีกนะครับ
ตอนนี้บรรยากาศเครียดจงเยยคับ
มะเป็งรายเดี๋ยวพอเข้าที่เข้าทางก้อคงจะมีเรื่อง xxxx
มาเล่าใหเฟังอีก
จะรอต่อไปนะค้าบบบ
KTB (นิก) อะ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
คิดถึงชัชมันจังเลย
อยากอัดตูดไอ้ชิตแก้แค้นให้นัยจังเลย
เอาให้มันเดินขากางไปเยย
555555

Anonymous said...

อ่านนานแระ แต่ลืมเม้ม
เด่วจะว่าเอา

เลยมารายงานตัวซะหน่อย



ทีหนึ่งพัน

Anonymous said...

อูคับตอนนี้ฝนกลับมาตกอีกแล้วนะครับ
ดูแลสุขภาพด้วยระวังอย่าโดนฝนเดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ งานยุ่งปะอย่าเครียดนะครับ
จะได้มาต่ออีกงัย
กำลังรออยู่นะครับ
ไม่ได้เข้ามาเร่งนะ
แค่อยากมีอะไรที่จะคุยกะอูงัยครับ
อยากรู่จังครับว่าปัจจุบันนี้
อู กะนัยและชัชยังได้พบกันมั่งป่าวครับ
หรือว่าอูกะนัยมาอยู่บ้านเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วครับ
ใช่ปะ 55555
สงสัยนะครับ
อิจฉานะ
นิกคับ

boyclub29 said...

มาเม้นๆ รอวันรอคืนลงไวไวนะครับจะรออ่านอีก

Anonymous said...

ตอบคุณนิกครับ

เรื่องความเป็นไปของอู ชัช และนัย นั้นเป็นปมสำคัญของเรื่อง ถ้าบอกแล้วเรื่องก็จะหมดสนุกครับ ดังนั้นจึงต้องขออุบเอาไว้ก่อน เอาไว้สรุปในตอนจบของเรื่อง แต่จะจบเมื่อไรยังไม่ทราบเหมือนกันครับ เพราะผมเล่าไปเรื่อยๆ

อู