Friday, May 2, 2008

ภาคสอง ตอนที่ 7

เช้าวันนั้น เมื่อตื่นนอนแล้วผมก็ต้องเก็บที่นอนให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ลงไปช่วยคุณป้าทำอาหาร ที่บ้านนี้ตอนเช้ากินข้าวสวยกันครับ ต่างจากบ้านผมที่ต่างจังหวัดที่ตอนเช้ากินข้าวต้ม กับข้าวก็มี ๒-๓ อย่าง เพราะถือว่าไม่ใช่มื้อใหญ่ ที่ขาดไม่ได้คือไข่เจียวเป็นกับข้าวยืนพื้น

หน้าที่ของผมที่เริ่มได้รับมอบหมายก็คือ ช่วยจัดเตรียมโต๊ะอาหาร เตรียมจาน ชอนส้อม และอื่นๆเอาไว้บนโต๊ะ เนื่องจากผมยังใหม่ต่อบ้านนี้ ก็เพิ่งมาอยู่ได้เป็นวันที่สองเอง ดังนั้นจึงยังไม่คุ้นกับที่เก็บอุปกรณ์ข้าวของต่างๆ ก็ยังเงอะงะอยู่บ้าง ยังต้องคอยให้เอ๊ดแนะนำ

เรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษและคิดว่าเป็นเรื่องที่ผมปรับตัวได้ค่อนข้างยากก็คือการทำอะไรเบาๆ เนี้ยบๆ อย่างเช่น จะวางจาน วางช้อน ก็ต้องเบามือ อย่าให้มีเสียงดังกระทบกัน ผมโดนดุเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว เช้านี้ก็ยังโดนดุอีก เพราะว่าวางช้อนส้อมเสียงดังไปหน่อย ที่จริงนิสัยของผมก็ใช่ว่าจะเป็นคนทำอะไรมือหนักโครมคราม แต่ว่ามาตรฐานของบ้านนี้สูงกว่าคุณสมบัติที่ผมมีอยู่มาก ผมก็เลยโดนดุ

หลังจากที่โดนดุ ผมก็เพิ่งมาถึงบางอ้อเอาวันนี้เอง ว่าทำไมในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เวลาที่เอ๊ดอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดตอนปิดเทอม ผมสังเกตว่าเอ๊ดทำอะไรเรียบร้อย พิถีพิถัน และมือเบาขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่เดิมเพียงสังเกตเห็น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มาวันนี้จึงได้รู้ว่าเอ๊ดมาฝึกเอานิสัยประณีตมาจากบ้านคุณลุงคุณป้านี่เอง

ในการกินอาหารมื้อเย็นเมื่อวาน ผมคุยกับเอ๊ดจ้อจนโดนดุ ว่าไม่ควรพูดคุยกันระหว่างกินอาหาร เพราะเป็นมารยาทที่ไม่เหมาะสม เช้าวันนี้ผมจึงนั่งกินอาหารเงียบๆ ไม่กล้าคุยอะไร

“อู เมื่อคืนนอนสบายไหม เจ็บไข้ไม่สบายอะไรหรือเปล่า นั่งซึมเชียว” คุณลุงถามระหว่างมื้ออาหาร

เฮ้อ คุยก็โดนดุ ไม่คุยก็หาว่าไม่สบายอีก

“สบายดีครับคุณลุง” ผมตอบเบาๆ พยายามไม่พูดอะไรมาก

“งั้นอาหารไม่ถูกปากหรือลูก ซึมเชียว” คุณป้าถามขึ้นมาอีกคน

“อาหารอร่อยครับ” ผมตอบอ้อมแอ้ม ที่อ้อมแอ้มเพราะว่ากำลังเคี้ยวอาหารอยู่

“เวลาเคี้ยวอาหารอย่าพูดสิลูก เคี้ยวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยตอบก็ได้” คุณป้าดุ

เป็นงั้นไป โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ผมชักเริ่มรู้สึกว่าบ้านนี้ไม่ค่อยน่าอยู่เอาเสียเลย ที่หอยังดีกว่าเยอะ เหลือบมองไปทางเอ๊ด เห็นเอ๊ดอมยิ้ม แอบทำหน้าเยาะเย้ยผม คงนึกสมน้ำหน้าที่ผมอยากดิ้นรนนัก

หลังจากกินอาหารเสร็จ เราก็ช่วยกันล้างถ้วยจาน เอ๊ดคงสงสารผมนิดหน่อยกระมัง เลยอาสาล้างจานให้ ให้ผมคอยรับจานที่ล้างแล้วไปตากในตะแกรงก็พอ ที่เอ๊ดล้างจานให้ก็เพราะว่าถ้าผมล้างจานเอง ก็คงทำจานกระทบกันเสียงดัง แล้วคงไม่วายโดนดุอีก

อาหารมือเช้าผ่านไปด้วยความทุลักทุเลในความคิดของผม หลังจากที่ล้างจานเสร็จเรียบร้อย พ่อกับแม่ก็มาถึงพอดี

แค่สองวัน ใจผมก็เริ่มฝ่อไปหน่อยแล้ว อยากจะบอกกับพ่อและแม่เหลือเกินว่าให้หาที่อยู่ใหม่ให้ผมดีกว่า หรือไม่อย่างนั้นก็ขอกลับไปโรงเรียนประจำอย่างเดิม แต่ก็แค่คิดไปอย่างนั้นเอง เพราะกว่าจะผ่านอุปสรรคมาจนถึงวันนี้ได้ก็แทบแย่ เรื่องอะไรจะไปยอมแพ้ง่ายๆ

เช้าวันนั้น ผมแต่งตัวด้วยชุดนักเรียนใหม่เอี่ยม คาดเข็มขัดหนังสีดำหัวทองเหลืองขัดจนมันวาว รองเท้าหนังขัดจนมันเช่นกัน ชุดนักเรียนใหม่ชุดนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง จากชุดนักเรียนใหม่ที่เคยได้รับในปีก่อนๆ เมื่อก่อนชุดใหม่มันก็แค่ชุดใหม่ แต่ชุดนี้พิเศษยิ่งกว่า

ผมมองดูตัวเองในกระจกเงาในห้องนอน เห็นเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดปักตัวอักษรสีน้ำเงินเข้ม ชุดใหม่ที่ผมสวมใส่อยู่นี้เป็นผลจากความพยายามตลอดทั้งปีของผม เป็นสิ่งที่ผมได้มาด้วยความสามารถของตนเอง ไม่ได้พึ่งพาใคร รวมทั้งไม่มีใครสนับสนุน นับเป็นความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตวัยเด็กของผม

ผมนึกไปถึงไอ้นัย เมื่อไอ้นัยแต่งตัวด้วยชุดใหม่ มันก็คงมีความรู้สึกเช่นเดียวกับผมเหมือนกัน ... ป่านนี้ไอ้นัยคงออกจากบ้านแล้ว เดี่ยวเราก็คงได้เจอกัน …

“อู ยืนเหม่ออะไรอยู่ แต่งตัวเสร็จก็ไปได้แล้ว ป๋ารออยู่” เอ๊ดซึ่งแต่งตัวเสร็จแล้วชะโงกหน้าเข้ามาในห้องนอน ร้องเตือนผม

“ชักช้าจริง” เอ๊ดบ่น แต่ผมกำลังอารมณ์ดี เลยไม่ได้ใส่ใจที่จะต่อปากต่อคำด้วย

เช้าวันนั้น พ่อเป็นคนพาผมไปมอบตัวและลงทะเบียนเรียนเพียงคนเดียว ส่วนแม่กับเอ๊ดแวะลงกลางทาง แม่จะหาซื้อพวกเตียงนอน โต๊ะทำงาน และข้าวของเครื่องใช้ในห้องนอนมาให้ผม เอ๊ดซึ่งเดิมทีว่าจะไปกับผม ถูกพ่อสั่งให้ไปช่วยซื้อของกับแม่แทนอย่างกะทันหัน ทำให้เอ๊ดบ่นอุบอิบ เพราะอยากจะไปดูโรงเรียนใหม่ของผม แต่แล้วก็อดไป

- - -

เรามาถึงที่โรงเรียนเวลาประมาณ ๙ โมงเช้า เมื่อไปถึง เห็นนักเรียนในชุดใหม่เอี่ยมละออเต็มไปหมด เสียงคุยดังจ้อกแจ้กจอแจ พวกผู้ปกครองก็คุยกัน นักเรียนใหม่ก็เริ่มสร้างความคุ้นเคยด้วยการพูดคุยกัน บรรยากาศจึงอบอวลไปด้วยเสียงพูดคุย

ผมพยายามมองหาไอ้นัย แต่ก็ยังไม่เจอ จนในที่สุด ผมได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งร้องเรียกอยู่ข้างหลัง

“อู อู ทางนี้ว้อย”

เสียงของไอ้นัยนั่นเอง ผมหันกลับไปมอง เห็นไอ้นัยเดินตรงเข้ามาหา ผมดีใจจนอยากเข้าไปกอดมัน แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้

หลายปีมานี้ เมื่อผ่านช่วงเวลาปิดเทอมใหญ่ครั้งใด ผมรู้สึกว่าไอ้นัยโตและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ไอ้นัยในชุดนักเรียนใหม่ กางเกงดำของมันตัดเป็นทรงรัดรูป ทำให้เห็นทรวดทรงของลำตัว ตะโพก และก้นที่งอนสวยชัดเจน ผิวไอ้นัยดูคล้ำขึ้นเล็กน้อย ปีนี้ไอ้นัยดูไม่ค่อยสูงขึ้นเท่าไรนัก ผมเสียอีกที่สูงเร็ว เมื่อปีที่แล้วผมสูงกว่าไอ้นัยอยู่หน่อยเดียว ปีนี้กลับดูสูงกว่ามันมากขึ้นกว่าเดิม

ไอ้นัยไว้ผมรองทรง แสกกลาง ปลายผมหยักศกเล็กน้อย ผมของไอ้นัยถ้าไว้ยาวจะเห็นว่าด้านหน้าหยักศกนิดหน่อย ถ้าตัดสั้นจะไม่เห็น ไรหนวดของมันเขียวเข้มขึ้นกว่าเดิมทำให้ใบหน้าของมันดูเข้มขึ้น ประกอบกับสิวที่ขึ้นนิดหน่อย ทำให้ใบหน้าของไอนัยนั้นไม่ใช่น่ารักแบบเด็กอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นใบหน้าของวัยรุ่นที่หล่อเหลาคนหนึ่งในสายตาของผม

สิ่งที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับทรงผมของมันก็คือ เมื่อก่อนตอนปิดเทอม เมื่อไว้ผมยาว มันจะหวีผมแสกข้าง แต่ปีนี้ดูจะไว้ยาวกว่าทุกปี แถมยังเปลี่ยนจากแสกข้างมาเป็นแสกกลางอีกด้วย

ไอ้นัยตรงรี่เข้ามา คว้ามือผมมากุม นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่มันแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้ผมได้รับรู้

ผมกุมมือมันเอาไว้แน่นเช่นกัน เมื่อเรายืนในระยะที่ใกล้กัน กลิ่นสบู่หอมผสมกลิ่นตัวอ่อนๆที่ผมคุ้นเคยก็โชยมา ใบหน้า มืออันอบอุ่น กางเกงที่รัดรูป และกลิ่นอ่อนๆ ที่ผมได้รับสัมผัส ทำให้ผมรู้สึกอารมณ์พลุ่งพล่านอย่างประหลาด เป้ากางเกงของผมตุงขึ้นมาโดยไม่สามารถจะควบคุมได้


<ผืนหญ้าเขียวชอุ่มที่ริมบึงน้ำ ณ บริเวณนี้เอง ที่ก่อให้เกิดความทรงจำและเรื่องราวมากมาย>

9 comments:

Anonymous said...

ช่วงนี้โพสต์อย่างลุ่มๆดอนๆเต็มที ไม่ได้ป่วยหรือว่าหายไปไหนหรอกครับ แต่ว่าหาเวลายากเหลือเกิน คงต้องเป็นแบบนี้ไปอีกช่วงหนึ่ง

ถึงจะมาช้า แต่ก็พยายามมา ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งไอ้อูคนนี้ก็แล้วกันครับ

อู

Anonymous said...

ขอบคุณและเป็นกำลังใจเสมอครับ คุณอู

Anonymous said...

สวัสดีครับไม่ทิ้งหรอกครับ
มารายงานตัวคนแรกเช่นเดิมนะครับ

Arus

Anonymous said...

เอาอีกเอาอีกนะ

Anonymous said...

เย้ๆมาต่อแล้วว :)

ไม่ทิ้งหรอกครับ แค่คุณอูสัญญาว่าจะมาต่อเรื่อยๆ อย่าทิ้งกันไปนานเท่านั้นเอง ;)

ขอบคุณค้าบบบ

Anonymous said...

ถ้าจะหายไปนานเพราะมีเหตุจำเป็นก้อได้ไม่ว่ากันแต่ขอความกรุณามาแจ้งเหตุผลให้ทราบด้วยจะได้รอต่อไปอย่างมีความหวังไม่เลื่อนลอยนะค้าบบบบ
KTB

Anonymous said...

สุขสันต์วันวิสาขบูชาล่วงหน้านะครับ ... อย่าลืมไปทำบุญกันนะครับ จะได้โชคดีมีสุขทั้งเรื่องงานและความรัก ^_^

boyclub29 said...

มาต่อวัยๆ นะคิดถึง

น่ารักดี

อยากเห็นหน้าจัง

เปิดเทอมแล้วยุ่งๆ แต่จะหนีมาอ่าน 555+

รักนะจุ๊ฟๆ

Anonymous said...

ช่วงนี้ชีวิตวุ่นๆครับ กลับบ้านก็เหนื่อยทุกวันเลย เลยโพสต์ไม่ค่อยต่อเนื่อง

อดใจรออีกหน่อยนะครับ

หวังว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนคงสบายดี คิดถึงทุกคนครับ

อู