วงหน้าที่คุ้นเคย ผิวสีแทนสวย ทำให้ผมอยากอยู่คุยกับมันนานอีกหน่อย แต่ก็คงไม่ได้เสียแล้ว
“ผมต้องกลับละครับ คุณอา” ผมเอ่ยปากลา “ป๋ารออยู่ ป๋าจะเดินทางกลับวันนี้เลย”
“อ้าว จะกลับแล้วเหรอ ไม่ลองนั่งรถเมล์กลับบ้านกับนัยเค้าหน่อยเหรอ” คุณอาเอ่ยปากชวน
ผมงง นั่งรถเมล์อะไรกัน หันไปมองหน้าไอ้นัยเป็นเชิงถาม มันก็อมยิ้ม
“วันนี้คุณอาให้กูนั่งรถเมล์กลับบ้านเองน่ะ” ไอ้นัยอธิบาย “คุณอาบอกว่าอีกหน่อยต้องนั่งรถเมล์มาเรียนเอง เลยอยากให้ลองนั่งดูก่อนเปิดเทอมจริงๆ”
อือม์ ความคิดเข้าท่าแฮะ คุณอานี่รอบคอบกว่าพ่อผมมากเลย ผมเองก็ไม่เคยนั่งรถเมล์กับเขา ตอนเรียนประถมก็อยู่แต่ในหอโรงเรียน จะไปไหนมาไหนก็มีคนพาไปตลอด
“อยากลองมั่งจังครับ” ผมบอก
“ก็ลองไปขอป๋าดูสิ” คุณอาแนะนำ
ผมจึงขอให้คุณอากับไอ้นัยรอสักครู่ เพื่อจะไปขออนุญาตพ่อ ซึ่งพ่อก็เห็นดีด้วย ลองนั่งดูก่อน จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรก่อนเปิดเรียนจริงๆ คราวนี้พ่อตกลงใจง่ายอย่างที่ผมนึกไม่ถึง ปกติต้องไม่เห็นด้วยเอาไว้ก่อนเสมอ คงเห็นว่าในที่สุดก็ต้องนั่งรถเมล์อยู่ดีกระมังครับ ค้านไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
พ่อบอกถ้าอย่างนั้นพ่อจะไปรอรับเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านคุณป้าก่อน แล้วให้นั่งรถเมล์กลับบ้านเอง แล้วไปเจอกันที่บ้าน
จากนั้นพ่อก็แยกตัวกลับไปก่อน ผมรีบวิ่งตื๋อไปหาคุณอากับไอ้นัย
“เรียบร้อย” ผมบอก “ไปกันได้”
ไอ้นัยมีสีหน้าแปลกใจ
“ทำไมป๋ายอมง่ายนักวะ ฮุฮุ แปลกจัง” ไอ้นัยพูดพลางหัวเราะ มันคงรู้จักนิสัยของพ่อผมดี ว่าขอให้ขัดเอาไว้ก่อน
โรงเรียนมัธยมชายล้วนในเขตพระนครนั้นมีเพียง ๒ แห่ง อยู่ใกล้ๆสะพานพุทธแห่งหนึ่ง กับอีกแห่งหนึ่งอยู่ใกล้ๆกรมที่ดิน นอกจากนั้นก็จะเป็นโรงเรียนอาชีวศึกษา โรงเรียนพาณิชย์ มีหลายแห่ง โรงเรียนหญิงล้วนในเขตนั้นก็มีหลายแห่ง อยู่ใกล้ๆกันทั้งนั้น
คุณอาพาไอ้นัยกับผมเดินไปทางสะพานพุทธ ก็ไกลอยู่เหมือนกัน ที่ต้องเดินไปไกลขนาดนั้นเพราะว่า ที่ใต้สะพานนั้นเป็นท่ารถหรือว่าเป็นต้นสายของรถเมล์หลายสาย
เราเดินไปเรื่อยๆ ข้ามถนนมาทางลานหน้าสะพานพุทธ จากนั้นเดินลอดอุโมงค์สั้นๆเพื่อทะลุไปที่ถนนใต้สะพาน ที่นั่นเป็นท่าของรถเมล์หลายสาย ในตอนที่ผมเรียนนั้น เท่าที่จำได้มีสาย 8, 73, 11 สามสายที่จอดที่นั่น รถเมล์ในตอนนั้น โดยเฉพาะรถเมล์สาย 8 ไม่ได้เป็นรถร่วมสภาพโทรมๆแบบสมัยนี้ แต่เป็นรถของ ขสมก. รถเมล์สาย ๘ ยุคนั้นเป็นรถเมล์ทรงกล่องสี่เหลี่ยม เหมือนขนมปังปอนด์สี่เหลี่ยม ตัวรถเป็นสีขาว คาดสีน้ำเงิน ค่ารถจำไม่ได้แน่นอนนัก น่าจะหนึ่งบาทห้าสิบสตางค์ ตลาดนัดสะพานพุทธก็ยังไม่มี
คุณอาให้เราเดินมาขึ้นที่ต้นสายเพราะว่าเมื่อมาเรียน การเดินมาขึ้นที่นี่จะทำให้ได้นั่ง ถ้าไปขึ้นตามทางจะไม่มีที่นั่ง
หลังจากพาเรามาส่งที่ใต้สะพานพุทธ และกำชับผมกับไอ้นัยอีกเล็กน้อย คุณอาก็เดินกลับไปที่โรงเรียนเพื่อขับรถกลับ ปล่อยให้ผมกับไอ้นัยผจญภัยกันสองคน เราสองคนขึ้นไปนั่งรอบนรถเมล์สาย ๘ คันที่จะออกต่อไป ตอนที่เราขึ้นไปบนรถใหม่ๆ รถเมล์ยังว่างๆอยู่เลย เราสองคนนั่งติดกัน แต่เพียงครู่เดียว คนก็ขึ้นมากันเต็มรถ ส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองมากับนักเรียน คงจะลงทะเบียนเสร็จแล้วก็พากันกลับ
“มึงเคยนั่งรถเมล์เองมั้ยวะ” ผมถามไอ้นัย
ไอ้นัยสั่นหัวดิก “เคยนั่ง แต่ไม่เคยไปไหนเอง คุณอาพาไปตลอด”
“แล้วมึงแน่ใจไหมว่าจะกลับถึงบ้าน” ผมถามอีก ชักรู้สึกปอดๆเหมือนกัน เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ต้องนั่งรถเมล์เดินทางด้วยตัวเอง
“สบาย” ไอ้นัยพูด “เรียน ม.๑ นั่งรถต่อเดียวไม่ถึงก็แย่แล้ว คนออกเต็มรถ มึงก็ถามเข้าไปดิ”
“มึงยังไม่ได้เรียนสักหน่อย แค่จบ ป.๖ เท่านั่นแหละ ทำคุย” ผมขัดคอมัน แต่ก็ไม่ได้กลัวหลงอะไรหรอกครับ มีไอ้นัยอยู่ด้วย ถึงอย่างไรก็อุ่นใจ
เพียงครู่เดียว รถก็แน่นไปด้วยผู้คน คนขับในชุดเสื้อฟ้า กางเกงน้ำเงิน ก็เดินขึ้นมาสตาร์ตรถ และขับออกไป
และแล้ว การผจญภัยย่อยๆของผมกับไอ้นัยก็เริ่มขึ้น...

<ถนนมุ่งสู่สะพานพุทธ ส่วนหนึ่งเส้นทางกลับบ้าน>