Saturday, October 3, 2009

ภาคสาม ตอนที่ 23

หลังจากที่ดูห้องเช่าในซอยลาดพร้าว ๒๕ เสร็จก็เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว ผมจึงรีบขึ้นรถกลับไปที่หมอชิตเพื่อขึ้นรถทัวร์กลับบ้านทันที

วันนั้นเป็นวันที่ผมเดินมากที่สุดในชีวิต ตั้งแต่เด็กมาจนเรียนถึง ม.๔ ไม่เคยเดินในวันเดียวไกลขนาดนี้มาก่อน ผมเดินตั้งแต่ปากทางลาดพร้าว ข้ามแยกรัชดาภิเษกตัดลาดพร้าว มาจนถึงซอยลาดพร้าว ๒๕ ไล่มาทุกซอย เดินอยู่ประมาณ ๖ ชั่วโมง ตั้งแต่ก่อนเที่ยงยันเย็น ถ้าคิดเป็นระยะทางก็น่าจะสิบกิโลเมตรได้ และที่สำคัญก็คือตอนกลางวันแดดร้อนมาก ตอนนั้นไม่รู้จักครีมกันแดดจึงไม่ได้ใช้ เมื่อโดนแดดนานๆเข้าเวลาเหงื่อออกจะรู้สึกแสบผิวหนัง

ตอนขากลับ เมื่อผมนั่งรถผ่านแยกรัชดาภิเษกตัดกับลาดพร้าว เห็นเด็กขายพวงมาลัยเดินอยู่ขวักไขว่ ผมเพิ่งเข้าใจความยากลำบากของเด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกก็ตอนนี้เอง กรุงเทพฯในตอนนั้นสามารถขายของตามสี่แยกได้ จะผิดกฎหมายหรือเปล่าก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ว่าตำรวจไม่จับ เมื่อรถติดไฟแดง เด็กหญิงชายเหล่านี้ก็จะกรูกันลงมาบนถนนขายหนังสือพิมพ์บ้าง พวงมาลัยมะลิสดบ้าง เมื่อก่อนขายหนังสือพิมพ์กับพวงมาลัยมะลิสดเป็นหลัก ที่คอยเช็ดกระจกรถก็มีบ้าง แต่ต่อมาก็มีวิวัฒนาการจนมีสินค้าหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น ปลอกโต๊ะรีดผ้า ถั่วต้ม ข้าวโพดต้ม ตลอดไปจนถึงยาดม ยาอม ยาหม่อง และไม่แคะหู ฯลฯ

ตอนนั้นผมทั้งเหนื่อย ทั้งเมื่อย และกระหายน้ำ แต่ก็ไม่กล้าเสียเวลาแวะกินอาหาร เพราะกลัวพลาดรถทัวร์แล้วจะกลับดึก เมื่อไปถึงหมอชิตหลังจากซื้อตั๋วรถได้แล้วนั่นแหละ จึงมีโอกาสซื้อน้ำหวานดื่ม

การเดินทางไปต่างจังหวัดทางบกในตอนนั้นก็อาศัยรถ บขส. รถทัวร์ และรถไฟเป็นหลัก รถตู้ไปต่างจังหวัดก็มีแล้ว แต่ยังไม่มีเส้นทางมากมายเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้งผมไม่รู้จักเส้นทางรถตู้และจุดขึ้นลงด้วย จึงไม่ได้ใช้

กว่าจะถึงบ้านก็สามทุ่มกว่า วันนี้กลับดึกกว่าวันก่อนเสียอีก เมื่อแม่เห็นผม คราวนี้ไม่โวยเรื่องกลับช้า เพราะผมบอกเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่กลับตกใจที่เห็นสภาพของผม

“ตายแล้วอู ไปทำอะไรมา ทำไมหน้าแดง แขนแดง แดงไปหมดทั้งตัว” แม่ตกใจ

แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินมาทั้งวัน แต่เมื่อเห็นหน้าแม่ ผมก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทั้นที ผมจากจะเล่าให้แม่ฟังถึงเรื่องห้องเช่าที่ผมไปดูมา ผมคิดว่าแม่น่าจะเห็นด้วยกับผม แต่ตอนนี้โอกาสไม่ค่อยเหมาะ เพราะแม่กำลังทำงานอยู่ชั้นล่าง พ่อก็อยู่อีกห้องหนึ่ง ยังคุยไม่สะดวกเพราะว่าผมยังไม่อยากให้พ่อรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ตั้งแต่มีเรื่องตาลเป็นต้นมา ผมรู้สึกว่าเข้าหน้าพ่อไม่ค่อยติด ดูพ่อโมโหง่ายขึ้นและพูดกับผมด้วยถ้อยคำที่รุนแรงขึ้น จนผมรู้สึกกลัวๆอย่างไรก็ไม่รู้

“แม่ แม่ เดี่ยวว่างแล้วขึ้นไปห้องอูหน่อยดิ อูมีเรื่องจะคุยให้แม่ฟัง” ผมกระซิบบอกแม่

“แล้วทำไมค้องกระซิบด้วย” แม่ถามด้วยความสงสัย “นี่เรายังไม่ได้บอกแม่เลยว่าไปทำอะไรมา หัวหูแดงไปหมด ยังกับไปตากแดดมา”

“ก็ตากแดดมาน่ะสิแม่” ผมตอบ

“ตายแล้ว แดงขนาดนี้คงต้องไปตากแดดมาทั้งวัน เดี่ยวก็เป็นไข้ไม่สบายเอาหรอก” แม่บ่นอีก แล้วก็ถาม “แล้วนี่ไปเที่ยวเล่นอยู่ข้างนอกทั้งวัน ไม่ท้องเสียเข้าห้องน้ำแล้วเหรอ”

เออ จริงสินะ นี่ถ้าแม่ไม่พูดผมก็ลืมนึกถึงไปเลย วันนี้ทั้งวันผมไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรืออาการท้องเสียเลย

“ไม่มีเลย” ผมตอบ “แปลกเหมือนกันแฮะ”

ผมรีบกินอาหารเย็นที่เหลือไว้บนโต๊ะอาหารอย่างรีบๆ จากนั้นก็ขึ้นข้างบนเพื่ออาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็รีบเข้าไปคุยกับเอ๊ดทันที ผมคิดว่าถ้าเริ่มคุยกับเอ๊ดก่อนน่าจะดีกว่า ถ้ากล่อมเอ๊ดได้สำเร็จ เอ๊ดก็จะช่วยพูดให้ผมได้

เมื่อผมเดินเดินเข้าไปในห้องนอน ตอนนั้นยังไม่ได้ใส่เสื้อ เอ๊ดเห็นก็ร้องทักทันที

“เฮ้ย ไปทำอะไรมาน่ะ แดงเป็นลายเลย”

“แดงยังไง แดงเป็นลาย” ผมงง

“ก็ส่องกระจกดูสิ” เอ๊ดตอบ

เมื่อผมส่องกระจกดูจึงได้เห็นว่าร่างที่ถอดเสื้ออยู่ของผมนั้นเหมือนกันคนผิวคล้ำใส่เสื้อแขนสั้นสีขาว เพราะผิวส่วนที่อยู่นอกร่มผ้าของผมกลายเป็นสีแดงไปหมด ส่วนผิวที่อยู่ในร่มผ้าเป็นสีขาว โดยเฉพาะที่ต้นแขนและต้นคอ สีผิวตัดกันเด่นชัดมาก

“วันนี้อูเข้ากรุงเทพฯมา” ผมเริ่มเข้าสู่หัวข้อการสนทนา

“อ้าว” เอ๊ดร้องอย่างตกใจ “ไหนแม่บอกว่าไปหาเพื่อนในเมืองไง”

“ก็ไปในเมืองแหละ แต่ว่าเป็นเมืองกรุง” ผมตอบแบบศรีธนญชัย

“นี่ถ้าป๊ากับแม่รู้มีหวังโดนเอ็ด อยู่ดีๆหนีเข้ากรุงเทพฯคนเดียว” เอ๊ดบ่นอุบ

“อูโตแล้วนะ แล้วก็ไม่เห็นเหรอว่าอูกลับมาแล้ว อูไปมาสองครั้งแล้วด้วย อูพึ่งตัวเองได้น่า” ผมคุยโว

“แล้วเข้ากรุงเทพฯไปทำไม” เอ๊ดถาม

เมื่อเอ๊ดถามถึงวัตถุประสงค์ ผมก็รีบเข้าประเด็นทันที ผมเล่าให้เอ๊ดฟังถึงเรื่องการหาห้องเช่าของผม รวมทั้งห้องเช่าที่ถูกใจที่ซอยลาดพร้าว ๒๕

“อย่าฝัน เป็นไปไม่ได้” เอ๊ดรวบรัดตัดความ “เด็กอายุแค่นี้จะไปอยู่หอพักคนเดียวได้ไง ป๊ากับแม่ไม่มีทางยอมอยู่แล้ว”

“ก็นั่นไง แต่มันเป็นทางเดียวที่อูจะได้กลับไปเรียนที่กรุงเทพฯอีก เอ๊ดช่วยพูดหน่อยดิ นะนะนะ” ผมหยอดลูกอ้อน

ยังไม่ทันทีเอ๊ดจะตอบว่าอะไร แม่ก็เข้ามาในห้องพอดี ผมจึงเล่าเรื่องการไปกรุงเทพฯและห้องเช่าให้แม่ฟังอีกครั้งหนึ่ง

“นี่ตกลงไม่ได้ไปหาเพื่อนหรอกเหรอ” แม่ถาม

“อูโกหกน่ะแม่” ผมตอบตามตรง “ถ้าบอกก่อนคงไม่มีใครให้อูไป”

“โธ่เอ๊ย ทำไมทำอะไรไม่บุ่มบ่ามแบบนี้นะ” แม่บ่น “แล้วทำไมจู่ๆคิดเรื่องเรียนที่กรุงเทพฯขึ้นมาอีก ก็ตกลงว่าจะกลับมาเรียนที่บ้านเราแล้วนี่”

“ก็แม่กับเอ๊ดคิดว่าอูควรจะเรียนที่กรุงเทพฯไม่ใช่เหรอ” ผมย้อน

“อูรู้ได้ไง” แม่ทำหน้าแปลกใจ

“ก็อูได้ยินป๊า แม่ แล้วก็เอ๊ดคุยกันเมื่อวันก่อนน่ะ” ผมตอบ “ถ้ามีทางอูก็ยังอยากกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯแหละแม่”

“นั่นมันหมายถึงอูไปพักกับคุณลุงคุณป้าอีกต่างหาก” แม่พูดแบบตัดบท ไม่ยอมให้ผมต่อรอง “ไม่ได้หมายความว่าให้อูไปเช่าห้องอยู่คนเดียว อายุแค่นี้จะไปอยู่คนเดียวได้ไง เป็นอะไรขึ้นมาใครจะดูแล”

“โธ่ แม่อย่าห่วงอูเกินไปนักเลย อูก็อยู่ห่างบ้านมาตลอด ตอนประถมอูก็อยู่หอ อูพึ่งตัวเองได้นะแม่” ผมรีบหาเหตุผลสนับสนุนตนเอง

“นั่นมันอยู่หอ มีครูดูแล แล้วตอนมัธยมก็มีผู้ใหญ่ดูแล มันไม่เหมือนกัน อย่ามาพูดให้ยากเลย เป็นไปไม่ได้” แม่ปิดประตูไม่ยอมให้มีการต่อรองใดๆ

ผมอ้อนวอนแม่อยู่นาน ชักแม่น้ำทั้งห้า มหาสมุทรทั้งเจ็ด แต่แม่ก็ไม่ยอมท่าเดียว ผมหันไปมองทางเอ๊ด อุตส่าห์ขยิบหูขยิบตาให้เอ๊ดช่วยพูดให้บ้าง แต่เอ๊ดก็ทำเฉย

“โอ๊ย ตื๊ออยู่นั่นแหละ” แม่ชักรำคาญ “ไปพูดกับป๊าก็แล้วกัน ถ้าป๊ายอมจะไปก็ไป” แม่โบ้ยให้ไปต่อรองกับพ่อแทน คงจะรำคาญผมเต็มที ว่าแล้วก็เดินออกจากห้องไป

หลังจากที่แม่ออกไป ผมต่อว่าเอ๊ดที่ไม่ยอมช่วยพูด

“อู อย่าเพ้อฝันเลย มันเป็นไปไม่ได้” เอ๊ดพยายามเตือนสติ “พ่อแม่ที่ไหนจะยอมให้ลูกอายุเท่านี้ไปอยู่คนเดียว อูไม่น่าเอาเรื่องที่ได้ยินวันนั้นไปทึกทักเอาเลย”

“งั้นอูลองไปคุยกับป๊าดูก็ได้” ผมรวบรัดตัดความบ้าง

ที่จริงผมก็รู้ดีว่าที่แม่บอกว่าให้ไปถามพ่อนั้นเป็นเพราะแม่เห็นว่าผมตื๊อหนัก จึงพูดเพื่อปัด แต่ทำไงได้ ในเมื่อผมเกิดความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ผมก็จะไม่ยอมทิ้งมันไปง่ายๆ

ผมลงไปหาพ่อทันที ตอนนั้นพ่อยังนั่งทำงานอยู่ที่ชั้นล่าง เมื่อผมเข้าไปในห้องทำงาน เห็นใบหน้าของพ่ออมแดง เหมือนกับไปตากแดดมา

ผมเล่าเรื่องการไปกรุงเทพฯและการเช่าห้องพักให้พ่อฟังอีกรอบเป็นรอบที่สาม

“อูบ้าหรือเปล่า” พ่อสวนด้วยเสียงอันดังทั้งๆที่ผมยังเล่าไม่ทันจบ “ใช้อะไรคิดเนี่ย เด็กอายุแค่นี้จะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง ญาติพี่น้องอยู่ใกล้ๆก็ไม่มี”

ผมสะอึกกับคำพูดของพ่อ ผมเพิ่งเล่าไปได้ไม่กี่ประโยคก็ถูกพ่อสวนกลับมาด้วยถ้อยคำที่ดุดัน แต่ก่อนพ่อไม่เคยพูดจารุนแรงกับผมขนาดนี้ เพิ่งจะมีก็ในช่วงหลังนี่เอง

ผมอ้อนวอนอีก พยายามพูดให้พ่อมั่นใจว่าผมดูแลตัวเองได้

“นี่เราตกลงกันไปแล้วนี่ อูก็ตัดสินใจว่าจะกลับมาอยู่บ้านเอง แล้วจะมายึกยักอะไรอีก” พ่อพูดเสียงแข็ง

“ก็...” ผมจนด้วยเหตุผล เพราะสิ่งที่พ่อพูดเป็นความจริง การกลับมาเรียนที่บ้านในครั้งนี้เป็นความเต็มใจของผมเอง

ผมหวนนึกถึงสภาพของโรงเรียนใหม่ที่ได้ไปเห็นมา มันทำให้ผมยากที่จะทำใจได้ ผมนึกถึงเพื่อน นึกถึงโรงเรียนที่ผมรัก นึกถึงไอ้บอย นึกถึงไอ้กี้ ถ้าให้ผมเรียนที่บ้าน ผมยอมทนให้ไอ้กี้ด่าดีกว่า และสุดท้าย ผมนึกถึงไอ้นัย...

“ให้อูลองเช่าห้องอยู่ดูสักเทอมไม่ได้เหรอป๊า ถ้าไม่ไหวค่อยกลับมาเรียนที่นี่ตอน ม.๕ มาเรียนที่นี่ตอนนี้มันก็ครึ่งๆกลางๆ” ผมพยายามหาเหตุผลถูไถไป ถือคติตื๊อครองโลก

แต่คตินี้คงใช้ไม่ได้ผลในเวลาและสถานการณ์นี้ เพราะเมื่อผมตื๊อหนักเข้า ผมก็เผลอหลุดปากออกไป

“ป๊าหาโรงเรียนอะไรให้อูเรียนก็ไม่รู้ ไม่น่าเรียนเลย” ผมพูด

มันเหมือนกับไปจี้จุดอะไรในตัวพ่อ เข้า เพราะเพียงเท่านั้นเองพ่อถึงกับโมโหและเกรี้ยวกราดขึ้นมา

“ไอ้อูนี่พูดไม่รู้เรื่อง ตกลงป๊าไม่ดี ป๊าไม่ได้ความเลยใช่มั้ย ถึงได้หาโรงเรียนไม่ดีมาให้เอ็งเรียน ทำอะไรให้ก็ไม่ชอบสักอย่าง ต้องหาเองใช่มั้ยถึงจะดี” พ่อเอ็ดตะโร ใบหน้าแดงก่ำ “ได้ ... ถ้าอยากจะไปอยู่ที่กรุงเทพฯก็ไปเลย แล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก ปีกกล้าขาแข็งแล้วจะไปไหนก็ไป ไอ้ลูกเวร สร้างแต่ปัญหา ดูเอ๊ดเค้าบ้างสิ ทำตัวเรียบร้อย ไม่ทำให้พ่อแม่หนักใจ จะเอาตัวอย่างดีๆไปทำบ้างไม่ได้หรือไง”

ผมตกตะลึง ไม่เคยถูกพ่อดุด่าขนาดนี้มาก่อน และยังเป็นการดุด่าอย่างที่ไม่ค่อยมีเหตุผลอีกด้วย คำว่าไอ้ลูกเวรสะเทือนใจผมอย่างที่สุด

“พรุ่งนี้รีบเก็บข้าวของไปเลยนะ” พ่อสำทับ “ถ้าไม่เก็บ ป๊าเก็บให้เอง”

“นี่ป๊าไล่อูเหรอ” ผมถาม รู้สึกว่าเสียงของตนเองสั่นเครือ

“เออ” พ่อตอบชัดถ้อยชัดคำ “บ้านนี้มันไม่ดี ไม่น่าอยู่ พ่อก็ไม่ดี อยากไปอยู่กรุงเทพฯก็รีบไปเลย”

“นี่ป๊าพูดเองนะ” ผมพูดด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ ค่อยๆถอยหลังออกมา เมื่อพ้นประตูห้องทำงานของพ่อก็หันตัวกลับ พอดีเห็นแม่และเอ๊ดยืนอยู่ ผมรีบวิ่งขึ้นชั้นบนทันที

ความรู้สึกของผมในขณะนั้นมันตื้อไปหมด ทั้งเสียใจและน้อยใจ ทำไมพ่อจึงได้พูดจารุนแรงกับผมถึงขนาดนี้ ทำเหมือนกับผมไม่ใช่ลูก แต่ไม่ได้รู้สึกอยากร้องไห้เลยแม้แต่น้อย ผมจะต้องเข้มแข็ง...

เมื่อผมเข้ามาในห้องนอน แม่กับเอ๊ดก็ตามเข้ามา แม่ลงกลอนประตูเหมือนกับจะกลัวว่าพ่อจะตามเข้ามา

“โอ๊ย จะบ้าตาย ไปกันใหญ่แล้ว” แม่บ่น ทำท่าเหมือกับปวดหัวอย่างหนัก

“นี่มันเรื่องอะไรกันแม่ ทำไมป๊าถึงได้ด่าอูรุนแรงขนาดนี้” เอ๊ดถาม เอ๊ดคงรู้สึกเห็นใจผมอยู่บ้างเหมือนกัน

“ป๊าเค้า เอ้อ...” แม่อึกอัก “เค้ากินเหล้ามาน่ะ”

“หา” เอ๊ดกับผมอุทานขึ้นมาพร้อมกัน

หลังจากนั้นแม่จึงเล่าความลับที่ลูกๆไม่เคยรู้มาก่อนว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พ่อมักมีอาการเครียดและนอนไม่หลับ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องปัญหาการเงิน อีกทั้งเกี่ยวกับเรื่องแชร์น้ำมัน ซึ่งเกี่ยวโยงกับคุณลุงคุณป้าด้วย มาถึงตอนนี้แม่จึงเล่าเรื่องแชร์น้ำมันให้เอ๊ดฟัง และเล่าต่อไปว่าหลังจากนั้นพ่อก็ดื่มเหล้าตอนเย็นหลังอาหาร วันละนิดหน่อย เพราะดื่มแล้วทำให้นอนหลับสบาย มิน่าล่ะ บางวันจึงเห็นพ่อหน้าแดง

แม่ยังเล่าต่อไปอีกว่าน่าจะมีเรื่องราวลึกๆที่แม่ไม่รู้ แม่เคยถามแต่พ่อไม่เคยตอบ หลังจากนั้นแม่ก็ถามผมว่าคุยอะไรกันถึงได้ทะเลาะกัน ผมก็เล่าเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นให้แก่แม่และเอ๊ดฟัง

ปกติพ่อไม่เคยแสดงอาการมึนเมาออกมาแต่อย่างใด กิริยาอาการก็เป็นปกติ ยกเว้นเรื่องหน้าแดง แสดงว่าคงดื่มวันละหน่อยจริงๆ แต่วันนี้อาจกำลังอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ แล้ว ผสมกับอารมณ์เสียเรื่องของผมเข้าไปอีก จึงเอะอะขึ้นมา แม้แอลกอฮอล์ที่พ่อดื่มเข้าไปจะไม่ถึงกับเมา แต่ก็คงพอมีฤทธิ์ที่จะทำให้นิสัยเปลี่ยนแปลงไปได้

คืนนั้นผมเข้านอนด้วยความรู้สึกที่สับสน คำพูดขับไล่ของพ่อยังดังก้องอยู่ในหูของผมจนกระทั่งผมหลับไป...

- - -

เช้าวันรุ่งขึ้น แม้รีบเข้ามาหาผมแต่เช้า ตั้งแต่ผมยังไม่ตื่น แล้วก็ปลุกผมกับเอ๊ดขึ้นมา

“เช้านี้อูไปขอโทษป๊าเสีย เข้าใจไหม” แม่พูด

“อูไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” ผมแย้ง ความรู้สึกน้อยใจยังไม่จางหายไปจากความรู้สึก

“ยังจะพูดอีก” แม่ถอนหายใจ “ไปขอโทษป๊าเสียก็แล้วกัน”

ผมไม่ตอบอะไร วันนั้นทั้งวันผมไม่พูดกับพ่อเลย แม้ว่าแม่มาพร่ำบอกอย่างไรผมก็เฉย หลายปีที่คบกับไอ้นัยมา ผมซึมซับเอานิสัยและวิธีการของมันมาได้ไม่น้อย และวิธีการที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือการดื้อเงียบ

บรรยากาศในบ้านอึมครึมตลอดทั้งวัน ผมเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง พ่อเองก็ไม่พูดอะไรถึงเรื่องเมื่อคืนอีกเลย

- - -

ค่ำวันนั้น

เมื่อเวลาอาหารเย็น โต๊ะอาหารที่นั่งกันสี่คนเงียบราวกับไม่มีคนนั่งอยู่เลย ทุกคนกินอาหารโดยไม่มีการพูดคุย โดยเฉพาะพ่อมีใบหน้าแดงก่ำ

“พรุ่งนี้อูไปไหนหรือเปล่า” เอ๊ดชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบ

“ฮึ” ผมสั่นหัวเป็นคำตอบ

เพียงประโยคเดียวเท่านั้นก็ได้เรื่อง เพราะเมื่อพ่อได้ยินก็พูดขึ้นมาทันที

“อ้าว นี่ยังไม่เก็บข้าวของอีกเหรอ” พ่อพูด

“ป๊า” แม่พูดเป็นเชิงเตือน

“อะไรเล่า” พ่อพูดเสียงเข้ม แล้วก็หันมาพูดกับผมต่อ “ไหนบอกว่าจะไปอยู่กรุงเทพฯไง ทำไมไม่เก็บข้าวของไปเสียที”

“อูขึ้นไปข้างบนก่อนไป” แม่พูด

“ป๊าไล่อูเองนะ... ได้... อูจะไป” ผมพูดทิ้งท้ายก่อนลุกจากโต๊ะอาหาร

- - -

หลังจากที่ผมขึ้นมาบนห้อง สักครู่แม่และเอ๊ดก็ตามขึ้นมา แม่ตำหนิผมที่ผมไม่ยอมขอโทษพ่อตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เรื่องราวจึงบานปลาย ส่วนผมก็บอกกับแม่ไปว่าในเมื่อพ่อขับไล่ ผมก็อยากลองไปใช้ชีวิตอยู่เองตามที่คิดเอาไว้ ตอนแรกไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ไม่ยอม แต่เมื่อผมยืนกรานหนักเข้า รวมทั้งบอกกับแม่ว่าจะแค่ขอลองดูสักเทอมหนึ่ง ถ้าไม่ไหวก็จะยอมกลับมา แม่ก็เงียบไป ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

วันถัดมา ผมเตรียมตัวเข้ากรุงเทพฯอีกเพื่อไปเจรจาเช่าห้องพัก พ่อไม่พูดอะไรเลยสักคำ ทำให้ผมน้อยใจหนักยิ่งขึ้น แสดงว่าพ่อหมายความอย่างที่พูดจริงๆ แม่พยายามห้ามปรามแต่ผมก็จะเข้ากรุงเทพฯให้ได้ ในที่สุดก็มาลงเอยที่ว่าเอ๊ดเดินทางมาเป็นเพื่อนด้วย

ผมพาเอ๊ดขึ้นรถทัวร์อย่างชำนาญ เพราะขึ้นมาแล้วสองสามครั้ง แม้แต่เอ๊ดเองก็ไม่เคยนั่งรถทัวร์หรือรถ บขส. เข้ากรุงเทพฯมาก่อนเพราะว่าปกติพ่อจะมารับ ทำให้เอ๊ดทึ่งในความสามารถของผมไม่น้อย

ผมพาเอ๊ดไปดูห้องเช่าที่ผมหมายตาเอาไว้ เอ๊ดดูแล้วก็ไม่พูดอะไร

“ตกลงจะมาอยู่กันสองคนพี่น้องเหรอ” แม่บ้านคนเดิมถาม

“อือ... ครับ” ผมตอบไม่เต็มเสียง

“มาดูสองครั้งแล้วยังไม่ตัดสินใจเสียที” แม่บ้านพูดเปรยๆ “ถ้ามาครั้งที่สามอาจไม่มีห้องแล้วนะน้อง นี่ดีว่ามีคนย้ายออกตอนช่วงปิดเทอม ถ้าปกติละก็อย่าหวังว่าจะมีห้องเลย เพราะว่าแต่ละคนเช่าอยู่กันเป็นปีๆ”

“เช่าเลยก็ได้ครับ” ผมตัดสินใจ เพราะคิดว่าที่แม่บ้านพูดเป็นความจริง เนื่องจากห้องเช่ารายอื่นก็พูดทำนองนี้เช่นกัน ผมกลัวว่าห้องที่ผมถูกใจนี้จะหลุดมือไป

“ถ้าเตรียมเงินมาพร้อมพี่ชายก็มาเซ็นสัญญากับคุณน้า” แม่บ้านพูด คำว่าคุณน้าหมายถึงคุณน้าเจ้าของห้องเช่า

“พี่ชายเหรอ” ผมทวนคำ “ทำไมไม่ให้ผมเซ็นละครับ”

“ยังเด็กอยู่ จะทำสัญญาได้ไง” แม่บ้านหัวเราะ “พี่ชายนี่อายุก็ยังไม่ถึง ๒๐ ที่จริงก็ยังทำสัญญาเองไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็พออนุโลม แต่อย่างน้องนี่ไม่ได้หรอก”

ผมหันไปพยักเพยิดกับเอ๊ดเป็นทำนองว่าให้ช่วยทำสัญญาให้ที แต่เอ๊ดเฉย

“เอ๊ด” ผมกระซิบ “ทำดิ”

เอ๊ดก็ยังเฉย จากนั้นก็บอกแม่บ้านว่าจะมาใหม่อีกที ว่าแล้วก็ลากผมออกมาจากตึก



<ภาพสถานีขนส่งหมอชิตเก่า ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามสวนจตุจักร ซึ่งเป็นสถานีขนส่งทั้งสายเหนือและสายอีสาน คำว่าหมอชิตนั้นเดิมทีเป็นชื่อตลาดเนื่องจากพื้นที่นี้ก่อนที่จะมาเป็นสถานีขนส่งเดิมเป็นตลาดนัดมาก่อน เรียกว่าตลาดหมอชิต สังเกตตึกที่มีศรชี้ นั่นคือตึกการบินไทยที่ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต>


<ด้านหลังของอาคารสถานีขนส่งหมอชิตเก่า จะเห็นว่าเป็นท่ารถ และลานจอดรถ ด้านข้างของสถานีขนส่ง (ซึ่งมองไม่เห็นในภาพนี้) เป็นร้านค้า ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร ส่วนด้านหลังของสถานีขนส่งนั้นเป็นสถานีโทรทัศน์ช่อง ๗ ทำให้ สถานีโทรทัศน์ช่องนี้มีชื่อเล่นที่เรียกกันติดปากกันว่า วิกหมอชิต นั่นเอง>


<สถานีขนส่งหมอชิตหลังจากที่ได้ย้ายออกไปอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร หรือที่เรียกว่าหมอชิต ๒ ในเดือนเมษายน ๒๕๔๑ พื้นที่หมอชิต (เก่า) ก็ถูกพัฒนาเป็นโรงจอดรถและซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้าบีทีเอส สังเกตตึกการบินไทยที่ศรชี้ในภาพเพื่อเปรียบเทียบตำแหน่งกับภาพบน>

44 comments:

Anonymous said...

ที่ 1 สุดยอด

thom

Bomber_Boy said...

พลาดไปนิด
__________
Bomber_Boy

Anonymous said...

รักอาอู

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

"ตอนหน้าก็จะรู้แล้วครับว่าผมจะได้กลับมาเรียนที่กรุงเทพหรือเปล่า"
เนี้ยใช่อูพูดป่าว
t1000

yo408 said...

รีบมาลงชื่อแย่งที่5ไว้ก่อน
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรคอมเม้นท์เท่าไหร่ เหตุการณ์มันอึมครึมๆ

Anonymous said...

หลานหนิงมารายงานตัวครับ

อ่านตอนนี้แล้วลุ้นตาม เอาใจช่วยเด็กชายอู

เมื่อก่อนนี้อ่านแล้วก็แค่สงสาร

แต่ตอนนี้เข้าใจความทุกข์ของการรอคอยแล้วครับ

ว่าการรอคอยใครสักคนให้เค้ากลับมา

มันทรมาณยังไง

เป็นกำลังใจให้นายอู และอาอูด้วยครับ

หลานหนิง

Anonymous said...

ไรกันพี่อูมาโพสไม่บอกกันเลย
วันหลังก่อนโพสโทรมาบอกผมก็ดีะนครับ
อิอิอิ

ไอซี

Anonymous said...

(^_^)อรุณสวัสดิ์คร้าบบคุณอาอู ตอนที่แล้วลุงเรียกตัวเองว่าอาก็อาครับ http://www.youtube.com/watch?v=mq5pLi0huhw เพลงที่อาชอบครับความหมายดีจังเลยผมขอชอบด้วยคนนะครับ รอแป้ปกำลังฟังอีกเพลงอีกครับ

Anonymous said...

http://www.youtube.com/watch?v=aTYBaV9b5go โดนนนนอีกแล้วเพลงนี้ก็ความหมายน่าจะดีผมฟังออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ดูจากคลิปพอเข้าใจเรื่องเหมือนอารึเปล่าตามหาความรักนะครับ เด๋วเย็นกลับมาฟังใหม่ไปล่ะ(^_^)

Anonymous said...

ที่อาอูถามผม เรื่องทำไมฟังเพลงย้อนยุค ก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน แต่สุนทราภรณ์ถ้าตอบตรงๆก็คือไม่ค่อยชอบครับ แต่ไม่ถึงกับเกลียดหรอกนะ ฟังได้คับ แต่ไม่ชอบฟังเฉยๆ วงcarpentersนี่ผมรู้จักครั้งแรกตอนยังเด็กๆ พ่อผมเปิดให้ฟัง เพราะพ่อเป็นชอบฟังเพลงครับ เพลงไหนดีก็จะเปิดให้ลูกฟังด้วย ตอนนั้นพ่อเปิด yesterday once more ผมเริ่มชอบก็ตอนนั้นล่ะ ผมรู้สึกถูกใจเสียงของเธอมาก เสียงเพราะมาก นุ่ม ฟังแล้วสบาย และเสียงของเธอก็เข้ากับแบ็คอัพพี่ชายเธอ แล้วเพลงที่เธอร้องเสียงเธอก็ใส่อารมณ์ดีมาก เพลงเศร้าก็เศร้าเพลงสนุกก็สนุก เพลงอื่นๆของเธอที่ผมชอบก็มีอีกเยอะคับ เช่น good bye to love หรือ (they long to be)close to you เพลงที่พี่ที่ 1 เอาให้เพลงที่ 2 ผมก็ไม่เคยฟัง ขอบคุณครับ เพราะมากเลย แล้วที่สำคัญ ผมเริ่มชอบเพลงสากลภาษาอังกฤษก็เพราะวงนี้แหละครับ

ขอเอาเพลงมาต่อจากพี่ที่ 1 นิดนึง เพลงgoodbye to love คับ อิอิ carpenters 3 เพลงติดเลย จะโดนด่ามะเนี่ย - -

http://www.youtube.com/watch?v=nooeMrCws-A

ปล.ขอบคุณครับที่มาเขียนต่อให้

Sea~~!!

Anonymous said...

คาดว่าได้อยู่ กทม. ถึงจะได้มีความตื่นเต้น

แบงค์ครับ

^S-U-N^ said...

หวัดดีคร้าบบบ
มาทักทาย
ไปอ่านก่อนนะคับ

ฝากเพลง Que Sera Sera
ของโฆษณาไทยประกันชีวิต และก็แบบต้นฉบับไว้
ลองไปฟังกันนะครับ เพราะและก็ซึ้งมากๆ
http://bignose.exteen.com/20091001/mv-que-sera-sera-whatever-will-be-will-be-doris-day

Anonymous said...

(^_^)วันนี้มีดีเจเปิดเพลงให้ลุงฟังมากมายยังขาดลุงชูอีกคน เม้นบนมีคนบอกรักลุงอีกด้วยวู้ๆ ผมชอบรูปที่ลุงลงให้ดูตอนนี้รถสีนี้ยังมีไหมครับ ตลาดหมอชิดนี่ขายอะไรครับเมื่อวันไปเซ็นผมมองลงไปก็เห็นรถจอดเต็มเลยจ้าของเก็บตังคันละ20ก็รวยแล้วเนอะ ลุงอูมาอยู่วัดประยูรดิเดินข้ามสะพานมาก็ถึงรรแล้วกิ้กๆ ลุงเคยกลับไปที่รรบ้างไหมครับตอนเย็นค่ำๆคนไม่ค่อยมีแล้วหลังเล่นบอลเสร็จนั่งคุยกับเพื่อนนี่คิดถึงเหมือนกันมันเหงาๆยังไงก็ไม่รู้นะ ป๋าเขาคงรักลุงมากแหละครับเขาเป็นห่วงนี่น่ากลับบ้านก็ดีนะผมว่าจะได้ดูแลป๋าด้วยผมว่าเขามีเรื่องกลุ้มใจมากๆอยู่น่า

Choo said...

ช่วงนี้หลานๆ ของอาอูคงสอบเสร็จแล้ว ดูสดใสกันทุกคน อาก็เลยได้ผลบุญได้ฟังเพลงที่หลานๆ ฝากอาอูไปด้วย ลาภหูเหมือนกันครับ เพลงไพเราะ ความหมายดี เลยขอตีตั๋วฟังในช่วงนี้ละกันครับ

แต่ก็อดไม่ได้ ขอฝากเพลง "ดอกไม้จะบาน" เป็น เพลงเพื่อชีวิตเป็นกำลังใจให้ เด็กชายอู ละกัน

http://www.youtube.com/watch?v=tTNcjYWBreo

ว่าแต่ปัญหาช่องว่างของพ่อกับลูกชายวัยรุ่น ไม่ว่าสมัยไหนๆ ก็เป็นปัญหาเรื่องมุมมองที่ต่างกัน แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ต่อความรักและความผูกพันของพ่อลูก

เป็นกำลังใจให้อูครับ

ชู

dodo said...

ไม่ได้เข้ามานาน โพดตั้ง2ตอน
คิดถุงจัง
เด๊ะไปอ่านรวดเดียวหมดเลย
รักทุกคนนะครับ
รักคนแต่งด้วย
ไปละ บาย

LAO FANCLUB
โดโด้

nai said...

เห็นใจป๊ากับแม่ครับ สงสัยไม่รู้จะกางตำราไหนดี ลูกชายคนเล็กมาไม้นี้ คงงงกับพฤติกรรม

แต่ผมว่าป๊ากำลังลองของอูอยู่ ประเภทถ้าแน่จริง ลองดูกันซักตั้ง ส่วน อู ในขณะนั้น คงลุยไปข้างหน้าอย่างเดียว ถ้าเจอกำแพงก็พุ่งชนหมด

เป็นกำลังให้ อู ครับ (ป๊า พี่เอ็ด โดยเฉพาะแม่ครับ)

นัย

Anonymous said...

ไปทานตามสัญญาแล้ว แต่อาอูคงไม่ได้ไปสินะ T-T

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

"ตอนหน้าก็จะรู้แล้วครับว่าผมจะได้กลับมาเรียนที่กรุงเทพหรือเปล่า"
เนี้ยใช่อูพูดป่าว

ก็ถูกแล้วนี่ครับ ตอนหน้าก็จะรู้ไง แต่ว่าตอนนี้ยังไม่รู้ ที่จริงก็น่าจะพอเดาได้แล้ว ตอนนั้นน้อยใจพ่อมาก เลยทำให้เกิดทิษฐิ พ่อเองก็คงน้อยใจผมด้วยเหมือนกันกระมัง บางครั้งเราก็ทำร้ายคนที่รักเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ปีนั้นเป็นปีที่ครอบครัววุ่นวายมาก

ป่านนี้หลาน arus คงนอนพุงกางจากสุกี้โอเด้งอยู่ รักอาแล้วกินเผื่ออาบ้างหรือเปล่า

ตอบหลานที่หนึ่ง เรียกอาบ้างลุงบ้าง เพราะความสับสน ชีวิตสับสนบ่อยๆ รถสีส้มยังมีครับ ก็เหมือนรถเมล์ของ ขสมก นั่นเอง ประหยัดที่สุด แต่ว่าก็ต้องใช้ความอดทนสูง

โรงเรียนก็ไปบ้าง บางทีมีธุระแถวนั้น ผ่านห้างไนติงเกลก็เดินโฉบเข้าซอยไปดูโรงเรียนเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะส่วนใหญ่เป็นเวลาเย็นแล้ว ครูอาจารย์ก็เกษียณไปมากพอดู ไปแล้วบางทีก็รู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าอยู่บ้าง แต่ เอ... เราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันหลานถามทำไม

เหตุที่ยังต้องการอยู่แล้วลาดพร้าว หลานที่หนึ่งลองทายดูหน่อยสิ ถ้าทายถูกจะมีรางวัลให้ เดี๋ยวจะหาสปอนเซอร์จากแถวๆนีให้ ขอจากพี่ไอซีก็แล้วกัน

เรื่องก่อนโพสต์ให้โทรไปบอกก่อน โทรไปยุโรปคงเสียเงินหลายอยู่ ส่งเป็นอีเมลไปบอกแทนได้ไหม

เพลง whatever will be นั้นเพราะมาก ร้องมาตั้งแต่ชั้นประถมเพราะว่าตอนเรียนประถมจะมีชั่วโมงสันทนาการ ครูจะเล่นเปียโนและเอาเพลงฝรั่งมาสอนให้ร้อง ส่วนใหญ่เป็นพวกเพลงเด็กๆ และก็เก่าๆ เช่น Old folks at home, Swanee river, Give me oil in my lamp, O Susanna, Twinkle ฯลฯ ยังพอจำเนื้อร้องได้อยู่

หลานๆปิดเทอมขอให้มีความสุขกันทุกคน

อู

Anonymous said...

โดนหลานตัดพ้อเสียแล้ว T_T ขอโทษด้วยนะหลาน

อู

Anonymous said...

มาแล้วครับ ตอนที่แล้วไม่ได้เม็นท์มา
เชื่อว่าอูต้องได้มาเรียนกรุงเทพแน่(คาดการณ์ล่วงหน้าแบบคุณชูอีกแล้ว)เชื่อว่าพ่อของอูใจหนึ่งคงคิดอยากให้ลูกลองดูซิว่าจะอยู่ได้ไหม แต่ใจจริงนั้นห่วงลูกมาก
ช่วงที่ผมเรียนผมก็อยู่คนเดียวแต่ตอนเรียนอยู่มหาลัยแล้ว ที่พ่อกับแม่ไม่อยากให้อูไปอยู่คนเดียวเพราะห่วงว่าหากเกิดอะไรขึ้นแล้วจะแก้ปัญหาให้กับตังเองอย่างไร ซึ่งความจริงแล้ว เราจะต้องพิสูจน์ให้ พ่อและแม่ได้รู้ว่าเรามีความรับผิดชอบกับตังเองมากแค่ไหน
เป็นกำลังใจให้อูครับ ยิ่งช่วงนี้เจอกับปัญหาทางบ้าน
ด้วย
memts42

boom said...

สงสัยว่าอูจะไม่ได้กลับมาอยู่กรงเทพฯ แหงๆเลย
แต่ก็ลุ้นเอาใจช่วยครับ

boom

Anonymous said...

ถามหลาน arus หน่อย
สุกี้โอเด้ง ใช่เจ้าที่เคยเปิดที่เซนต์หลุยส์ 3 หรือเปล่า
กลับมาเปิดอีกแล้วหรือว่าไปกินที่ไหน
ขอบใจเน้อ
thom

Anonymous said...

(^_^)คำถามกิ๊กๆ หมูยิ่งกว่าเลขฟิสิกส์เคมีชีวะรวมกันซะอีกครับลุงผมขอเดาว่า
ก.ลุงอูจะแอบไปบ้านคุณอาหวังจะมีข่าวของลุงนัยไงล่ะ
ข.จะได้อยู่ใกล้กับคุณลุงป้าแพราะวันหยุดลุงจะไปช่วยทำงานบ้างเพื่อตอบแทนพระคุณ
ค.ลุงอูจะแวะไปหาลุงชัชมั้งครับ
ง.ถูกทุกข้อ
จ.ผิดทุกข้อ
ผมเลือกข้อ ก.หุหุ ถ้าถูกผมขออะไรดีขอให้ลุงอูถูกรางวัลแล้วกันตอบดีๆนะลุงไม่งั้นอด5555+++ คำถามของลุงอูเด๋วลุงชูต้องมาตอบแน่เลยทางลุงเขาล่ะ

Anonymous said...

ใช่ครับ ร้านตรงอัสสัมเล็ก (อัสสัมชัญแผนกประถม)
แต่ร้านนี้ลูกชายทำ

ไม่ได้ตัดพ้อครับ แค่เสียดายหน่อยๆ

แต่ผมสรุปว่า ถ้าอยากทานหาซื้อเตาเอง แล้วไปซื้อ
หน้าร้านตรงอัสสัมเล็กดีกว่า เพราะคุณแม่ทำอร่อยกว่า...

ลูกค้าเก่าแก่แบบบ้านผมทานกันรู้เรื่องนะครับคุณลูกชาย
(พี่ๆผมฝากบอก)

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

ตามอ่านอยู่นานคับ กว่าจะทัน
ช่วงนี้ยุ่งๆ ปวดหัวกับเรื่องส่วนตัวคับผม
เรื่องราวซับซ้อนมากมาย แต่ก็มารออ่านต่อไปคับ
^^sky^^

iBenz said...

ติดตามอยู่นะคับ

ขอให้ออกเร็วๆๆด้วยเถิดเป็นกำลังใจให้นะคับ

ช่วงนี้ปิดเทอมเเระ ไม่ค่อยมีรัยทำคับ

Choo said...

ไม่กล้าทายแล้วครับหลานที่หนึ่ง ไม่เคยถูกเลย เดาแนวลุงอูยาก มีอะไรหักมุมได้ตลอด

ช่วงนี้เห็นหลานๆ สอบเสร็จกันแล้ว เลยถอยออกมานั่งอ่านที่น้องๆ หลานๆ คอมเม้นต์บ้างครับ

เป็นกำลังใจให้ปู่อูครับ 555

ชู

iBenz said...

ขอโทดนะคับ คุณอู

ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจิงหรือว่าแค่เรื่องแต่งขึ้นคับ

ช่างสงสัย อิอิ

Anonymous said...

ู^
^

จิ้มคนข้างบน

เอ้าพวกเราตอบหน่อยเร้ว

หลานหนิง

Anonymous said...

พี่ชูเป็นลุง ดีนะ ผมเป็นแค่พี่


ไอซี

Anonymous said...

ตอนใหม่คงช้าหน่อยครับ เครื่องคอมฯถูกไวรัสถล่ม กำลังพยายามกู้งานในเครื่องอยู่ครับ คงทำอะไรไม่ได้นอกจากกู้งานแล้วก็ฟอร์แมตและลงโปรแกรมใหม่หมด

อู

nai said...

ขอบคุณครับที่แจ้งข่าว ว่าแต่ต้องการคนช่วยหรือเปล่า(ล้อเล่น)

ขอให้กู้งานได้ทั้งหมดครับ ใจเย็นๆ

นัย

yo408 said...

ใช้แอนตี้ไวรัสตัวไหนอยู่ครับ
ผมใช้ NOD32 + Super AntiSpyware
แม้Nod32จะกิ๊งก่องแก้ว บ้องแบ้วไปนิด แต่มันก็ป้องกันได้ดีพอควร ส่วนแอนตี้สปายแวร์ผมพอใจมาก พวกเว็บโหลดคลิบโป๊คนอัพได้เงิน ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้เป็นแหล่งปล่อยสปายแวร์ชั้นดี แอนตี้สปายแวร์ตัวนี้จัดการได้โอเคมาก เครื่องไม่อืดด้วย คอมผมเก่าแล้วครับ อายุอานาม4ขวบ เพื่อนๆขายทิ้งกับไปบริจาคหมดแล้ว

Anonymous said...

(^_^)มาหาแล้วอรุณสวัสดิครับลุงอู คอมไม่สบายขอให้หายป่วยไวๆน้าครับผมไม่รู้ซะด้วยว่าจะทำยังไงคงต้องให้พี่ๆในบอรดช่วยลุงเขาหน่อยนะครับ
^
^
คลิบอาไรขอดูด้วยคนกิ้กๆ

Anonymous said...

ที่แท้โดนไวรัสนี่เอง ผมก้ว่าและ หายไปไหนหว่า - -"
คอมผมเมื่อก่อนใช้ NOD32 สแกนรอบแรก - โอเคผ่านฉลุย สแกนรอบ2-เอ๊ะ ทำไมมันยังมียุ สแกนรอบ3-อ่าว ทำไมมันมีเยอะขึ้นล่ะ สแกนรอบ4-อืมม์ ไปล้างเครื่องเถอะ ตอนนี้ก้ใช้Kaspersky คับ ถ้าถามผม ผมว่าดีนะ คือสแกนรอบแรกหมดเลย มันจะไม่เหลือค้างรอบ2-3 เหมือนNOD หรืออาจเปนเพราะตอนนั้นโดนไวรัสแรงก้ไม่รุ

เมื่อวันก่อนดูหนังเรื่อง Mamma Mia!ด้วยคับ พี่ๆคนไหนปลื้ม abba ไปดูกานเลย เพลง abba ทั้งเรื่องเลยคับ เพลงดังๆมากมาย เช่น dancing queen แต่ถ้าตามบทในเรื่องแล้ว ผมชอบ 2 เพลงคับ เพลง our last summer กับ slipping through my fingers ผมเอาเพลงมาฝากคับ หวานๆซึ้งๆ ชวนนึกถึงอดีตดี
http://www.youtube.com/watch?v=kKuFi3y-Vds
อันนี้ไม่ใช่abbaร้องนะคับ ผมเอาอันในเรื่องมา

รุ่นๆผมปิดเทอมกันแล้ว มีความสุขดี ไม่อยากเปนผู้ใหญ่เลย เหนทำงานแล้วยุ่งตาย ไม่มีปิดเทอมด้วย

Sea~~!!

Anonymous said...

ตอนนี้ยังมึนอยู่เลยครับ ต้องฟอร์แมตใหม่ งานพังไปหลายอยู่ แต่โชคดีที่ไม่สำคัญมาก ที่สำคัญจริงๆอาจจะพังไปเพียงชิ้นเดียว

แต่ที่สำคัญที่สุดคือทั้งเรื่องของอูและภาพต่างๆที่สะสมเอาไว้ก็อยู่ในโน้ตบุ๊คเครื่องนี้หมด โชคดีที่กู้กลับมาได้

ปกติผมเลิกนิสัยชอบลงโปรแกรมนั่นนี่เพื่อทดลองเล่นมานานแล้ว วันก่อนมือบอน ไปยืมแผ่นของน้องที่ที่ทำงานมาลองดูว่ามีโปรแกรมอะไรใหม่ๆบ้าง ได้เรื่องเลย

ปกติใช้ antivirus ชื่ออเวจี (avg) ครับ ครั้งนี้ก็เอาอเวจีนี่แหละสแกน ได้ผลเหมือนหลานทะเล คือยิ่งสแกนหลายรอบยิ่งเจอมากขึ้น มิหนำซ้ำเครื่องก็ช้าลงๆๆๆ ในทีสุดก็ถึงกาลอวสานบู๊ตไม่ขึ้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว ไปใช้ร่มแดง antivir แทนครับ

พอดีช่วงนี้มีงานเร่งด้วย ต้องจัดการเรื่องเครื่องให้พอใช้งานได้ก่อนวันจันทร์ วันนี้ก็ไปฟอร์จูนทาวน์มา ขอไปจัดการกับเครื่องต่อก่อนครับ

หลานที่หนึ่งกินเผื่อเที่ยวเผื่อด้วย ลุงไม่ได้ไปไหนเลย วันก่อนว่าจะไปดู arus กินสุกี้เสียหน่อยก็คลาดกัน เอาไว้ชวนกันไปกินสองคนดีกว่า

อู

พี said...

ไม่ได้เข้าเน็ตมาหลายวัน(5วัน) งานยุ่งๆนะครับ เอ...เข้ามาหัวค่ำวันอาทิตย์แล้วทำไมยังไม่มี ตอน24 ตอนใหม่มาอีกนะ มาอ่านคอมเม้นต์คุณอู อืม...ขอให้แก้ไขเสร็จเร็วๆนะครับ

ช่วงนี้น้องๆหลายคน เสร็จภาระกิจในการสอบเริ่มเข้ามาตอบคอมเม้นต์กันแล้ว ค่อยคึกคักหน่อย เมื่อสักช่วงปลายกันยาต้นตุลา มีแต่ชมรมส.ว.เข้ามาตอบกัน ขำขำนะครับ

แต่ได้เห็นคอมเม้นต์ พระอาทิตย์ ทะเล ท้องฟ้า อืม...ธรรมชาติทั้งน้าน...ค่อยสดใสขึ้นมาหน่อย เจอพายุฝนมา ครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาหลายวัน อ้อ...รวมทั้งคนอื่นๆ ที่ไม่ได้เอยชื่อด้วยนะครับ มาอ่านแล้วมาเม้นต์ให้กำลังใจน้องอู คุณอู พี่อู อาอู หรือลุงอู อันนี้คงไม่มีใครเรียกนะครับ แล้วแต่ใครจะเรียกตามวัยตัวเองนะครับ

ถึงคุณอู แก้ไขเสร็จแล้ว มาเล่าเรื่องต่อนะครับ จะตามติดต่อไปครับ

+ PEE +

Choo said...

เข้ามาส่งกำลังใจคับ คงไม่ช้านะคับ

มองในแง่ดี. ไวรัสคอมฯจะทำให้เรารอบคอบขึ้นในวันหน้า

เก่งคอมฯขึ้นด้วย

แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ลุล่วงนะคับ

ชู

Stamp's Portfolio said...

ดีคับพี่อู อาอู ลุงอู ก่อนอื่นขอโทษด้วยที่เพิ่งเม้นนะครับ
ผมอ่านทีเดียวรวดเลยครับใช้เวลานานหน่อยแต่ผมมีความสุขมากเลยอะครับ ตอนไหนที่อาอูทุกข์ใจผมก็ทุกข์ใจไปด้วย ไม่รู้จะอินอะไรนักหนา
ยังไงผมจะติดตามและก็มาคอมเม้นให้กำลังใจอีกนะครับ
ปล.เพลงเก่าหน่อยแต่ผมโหลดมาแล้วนะ ฮ่าๆ

Stamp's Portfolio said...
This comment has been removed by the author.
Anonymous said...

http://www.imeem.com/iamyoke/music/V3zhupBQ//

อยากให้ลองฟังเพลงนี้อะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องหรอกแต่ผมชอบอะ

joekung said...

รออ่านนะครับ รีบๆมาลงนะครับ คนแอบอ่านรออยู่ อิอิ

Anonymous said...

เข้ามาหลายรอบแล้วยังม่ายเห็นเลย ไม่ได้เร่งนะคับอิอิ

คนที่แอบอ่าน (อยากอ่านต่อมากมาย)

Anonymous said...

(^_^)ลุงไม่ไปไหนนะดีแล้วครับ ฝนตกมากมายระวังไม่สบายนะครับลุง