Sunday, July 26, 2009

ภาคสาม ตอนที่ 9

ผมรีบวิ่งไปยังห้องธุรการของโรงเรียนซึ่งอยู่ในตึกหลังเดียวกับสหกรณ์แต่ว่าอยู่คนละปีกกัน ผมสังหรณ์ว่านี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องอำ

ตลอดสามปีกว่าที่ผมเรียนอยู่ที่นี่ ผมเข้าไปในห้องธุรการน้อยครั้งมาก เพราะว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องเข้าไปติดต่อ ดังนั้นผมจึงไม่รู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับระบบจดหมายภายในโรงเรียนเลย

เมื่อไปถึง ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าจะรับจดหมายได้ที่ไหน พี่เจ้าหน้าที่บุ้ยปากไปที่ตะกร้าพลาสติกสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ใบหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะมุมห้อง

“โน่นจ้ะน้อง ไปหาเอาเองเลย” พี่เจ้าหน้าที่ตอบ

ในตะกร้าขนาดใหญ่มีจดหมายกองอยู่เป็นจำนวนมาก บางฉบับมีฝุ่นจับเขรอะ แสดงว่ามีจดหมายที่ผู้รับไม่รู้อยู่เป็นจำนวนมาก

ผมคุ้ยจดหมายดูสักครู่ มือไม้สั่นด้วยความตื่นเต้นร้อนรน ในที่สุดก็เห็นจดหมายอากาศหรือว่าแอโรแกรม (aerogramme) มาจากเมืองนอกอยู่สองฉบับ ตัวจดหมายมีฝุ่นจับ เมื่อหยิบมาดูจ่าหน้าซองก็พบว่าทั้งสองฉบับนั้นจ่าหน้าซองถึงผม มันเป็นลายมือที่ผมคุ้นเคย...ลายมือของไอ้นัยนั่นเอง!

ผมดีใจมาก เพราะในที่สุดผมก็ได้รับการติดต่อจากไอ้นัย แต่แล้วผมก็เริ่มเอะใจว่าไอ้นัยเขียนมาถึงผมแล้วกี่ฉบับกันแน่

ผมค่อยๆหยิบจดหมายในตะกร้าขึ้นมาดูทีละฉบับ หลังจากตรวจดูจ่าหน้าซองของจดหมายทั้งหมด ผมพบว่าไอ้นัยเขียนจดหมายถึงผมทั้งหมด ๓ ฉบับด้วยกัน สองฉบับเป็นแอโรแกรมซึ่งมีลักษณะเป็นจดหมายสำเร็จรูป เขียนเสร็จแล้วพับ เอาน้ำทาที่ลิ้นขอบจดหมายให้กาวละลายออกมาแล้วปิด จากนั้นส่งในตู้จดหมายได้เลย ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นจดหมายแบบเป็นซองซึ่งต้องไปชั่งน้ำหนักติดแสตมป์ที่ไปรษณีย์ ตัวซองโป่งพองออกมาแสดงว่าตัวจดหมายที่อยู่ภายในซองคงมีจำนวนหลายแผ่น

จดหมายทั้งสามฉบับจ่าหน้าซองเป็นภาษาไทย เขียนชื่อผม ระบุชั้นม.๓ และเลขห้องที่ผมเรียนชัดเจน จากนั้นจึงมีภาษาอังกฤษต่อท้ายว่า Bangkok Thailand

จดหมายทั้งสามฉบับนี้มาถึงโรงเรียนตั้งแต่ปีที่แล้วโดยที่ผมไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย!

ระบบจดหมายของนักเรียนในช่วงที่ผมเรียนอยู่นั้นไม่ค่อยดีเท่าไร จดหมายที่มาถึงนักเรียนจะไม่มีการบอกให้ผู้รับได้รู้ ต้องถือว่ารู้เอาเอง การรับจดหมายก็หละหลวม หลังจากที่ไปคุ้ยตะกร้าแล้วก็หยิบไปได้เลย หากมีการขโมยจดหมายกันหรือแม้แต่หยิบผิดไปจะไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย ถึงรู้ว่ามีจดหมายหายก็จับมือใครดมไม่ได้

ผมเอาจดหมายทั้งสามฉบับออกมาจากห้องธุรการ พลางคิดว่าจะหาที่สงบๆที่ไหนอ่านดี... ผมอยากรู้เนื้อความในจดหมายใจแทบขาด แต่ก็ต้องหาที่ที่สงบและปลอดภัยเพื่ออ่าน เพราะผมไม่รู้ว่าข้างในไอ้นัยเขียนอะไรไว้บ้าง

ห้องสมุดก็แล้วกัน...

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผมก็รีบวิ่งตรงไปยังห้องสมุดทันที

ผมเดินเข้าไปด้านในของห้องสมุด เลือกมุมสงบที่มีคนน้อยที่ไอ้นัยเคยนั่งอ่านหนังสือ

ผมพิจารณาจดหมายทั้งสามฉบับ ดูวันที่จากตราประทับไม่ชัด จึงฉีกจดหมายทั้งสามฉบับออกมาพร้อมกันเพื่อดูวันที่ แอโรแกรมสองฉบับไอ้นัยเขียนเมื่อปลายเดือนสิงหาคมและกันยายนปีที่แล้ว ส่วนอีกฉบับที่เป็นจดหมายใส่ซอง ข้างในระบุว่าเขียนตอนปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้วเช่นกัน

- - -

ผมหยิบแอโรแกรมฉบับแรกขึ้นอ่าน มันเป็นจดหมายที่ไอ้นัยเขียนสั้นๆเขียนเพียงไม่กี่บรรทัด

หวัดดีอู

เป็นไงบ้าง แปลกใจไหมที่ได้รับจดหมายที่โรงเรียน ตอนแรกกูคิดว่าจะเขียนไปที่บ้านต่างจังหวัดของมึง แต่มาคิดอีกที ถ้าส่งไปที่นั่นไม่รู้ว่าเมื่อไรมึงจะได้อ่าน และอีกอย่าง กูกลัวว่าจดหมายจะถูกคนอื่นเปิดอ่านด้วย เลยเขียนมาที่โรงเรียนดีกว่า น่าจะเร็วและเป็นส่วนตัวมากกว่า

ตอนนี้กูอยู่ที่เอมริกาแล้ว เมือง... รัฐ... อากาศเย็นกว่าเมืองไทยเยอะเลย ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องเป็นห่วง

วันนี้กูเล่นกีตาร์เพลงอะไรรู้ไหม A Lover’s Concerto ไง เล่นไปก็คิดถึงมึงไป จำตอนที่กูเล่นเพลงนี้ให้มึงฟังได้ไหม กูยังจำได้ไม่เคยลืม

มึงอยู่เมืองไทยเป็นไงบ้าง เขียนจดหมายมาเล่าให้ฟังบ้างนะ

คิดถึง
นัย

- - -

ผมรีบหยิบแอโรแกรมฉบับที่สองขึ้นมาอ่านต่อ มันยังคงเป็นจดหมายสั้นๆเพียงไม่กี่บรรทัดเช่นเดิม

หวัดดีอู

เห็นมึงเงียบไป ไม่ตอบจดหมายมา คิดว่าจดหมายคงไปถึงมึงตอนที่มึงกำลังเตรียมตัวสอบหรือไม่ก็กำลังสอบไล่อยู่ ทำเกรดให้ดีๆนะ กูจะได้เอาแบงก์กาโม่จากมึงมาใช้บ้าง

วันนี้ฟังเพลง Longer ของ Dan Fogelberg มา ฟังแล้วคิดถึงมึงจัง

กูอยู่ที่นี่สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง มึงอยู่โน่นเป็นไงบ้างเขียนมาเล่าให้กูฟังบ้าง รออ่านอยู่

คิดถึง
นัย

- - -

ปกติไอ้นัยไม่ใช่คนช่างเล่า ตอนเด็กๆเวลาปิดเทอม เมื่อเราเขียนจดหมายถึงกัน ผมมักเป็นฝ่ายที่เขียนยาวเหยียด เล่าโน่นเล่านี่ ส่วนไอ้นัยก็มักเขียนเพียงสั้นๆ แต่ก็ยังไม่สั้นถึงขนาดนี้ และปกติไอ้นัยก็ไม่เคยบอกว่าคิดถึงผมอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้มาก่อน

ผมดึงจดหมายฉบับที่สามออกจากซอง ครั้งนี้ไอ้นัยเขียนมายาวมาก มีความยาวถึงหลายหน้ากระดาษ เนื่องจากผมคุ้นเคยกับลายมือของไอ้นัยดี ผมสังเกตว่าจดหมายฉบับนี้ของมันมีลายมือหลายแบบ มีทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ มีทั้งหวัด ทั้งบรรจง มีทั้งลายมือยุ่งเหยิงและเรียบร้อย

หวัดดีอู

กูรอจดหมายจากมึงทุกวัน แต่ก็ไม่เห็นจดหมายตอบของมึงเลย

สองฉบับที่แล้วกูยังไม่แน่ใจว่ามึงคิดยังไงกับกู ก็เลยไม่กล้าเขียนอะไรไปมาก คิดเอาไว้ว่าเมื่อมึงตอบมาแล้วจะได้คุยกันต่อ

ตอนนี้กูเข้าใจแล้วว่ามึงคงเกลียดกูมากเลย เกลียดจนไม่อยากตอบจดหมายกู กูไม่โทษมึงหรอกนะ เพราะกูรู้ว่ามึงเจ็บ ต้องโทษตัวกูเองที่ทำเหี้ยๆเอาไว้ คิดแล้วก็สมน้ำหน้าตัวเองเหมือนกัน จริงไหม

ถ้ามึงเกลียดกูขนาดนี้ ถึงกูอธิบายอะไรมึงก็คงยังเกลียดกูอยู่ดี แต่ถึงยังไงกูก็คิดว่าจะเล่า... ก็เรื่องที่กูปิดบังมึงไง เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วก็จะเล่าให้มึงฟัง เพราะถ้าไม่เล่าตอนนี้กูอาจไม่มีโอกาสได้เล่าอีก และคงจะเป็นเรื่องที่คาใจเราสองคนตลอดไป

กูมีเรื่องที่โกหกมึงมาตั้งแต่เด็กจนโต กูโกหกมานานจนไม่กล้าบอกความจริงกับมึง เพราะกลัวว่ามึงจะเกลียดคนโกหกอย่างกู ก็เลยต้องโกหกมึงเรื่อยมา

ที่จริงกูเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่ใช่คนต่างจังหวัด พ่อกับแม่เลิกกันตอนกูยังเด็ก อายุได้ ๔ ขวบ พ่อหน้าตาเป็นยังไงก็จำไม่ได้แล้ว ตอนนั้นยังเด็กมากและไม่เคยเจอกันอีกเลยหลังจากที่เลิกกับแม่

หลังจากที่เลิกกับพ่อ แม่ก็มีแฟนใหม่ แล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ตอนนั้นแหละที่กูได้ไปอยู่ต่างจังหวัด ตอนนั้นจำความได้แล้ว ห้าขวบ แฟนใหม่ของแม่ กูไม่เรียกพ่อเลี้ยงได้ไหม ไม่อยากเรียก แฟนใหม่ของแม่มีลูกชายอยู่แล้วคนนึง แก่กว่ากูสามสี่ขวบ บ้านเราอยู่ด้วยกันรวมสี่คน

ชีวิตช่วงนั้นไม่ค่อยดีนัก แฟนใหม่ของแม่เป็นนักธุรกิจ ต่อหน้าก็ทำดีกับกู แต่ลับหลังก็ดุด่ากูตลอด ถ้ากูทำอะไรไม่ถูกใจหรือไม่ทันใจ เค้าก็จะตีกู หยิกกู ลูกเค้าก็รังแกกูเป็นประจำ แม่ซื้อของเล่นให้ก็แย่งเอาไปพัง มันไม่ได้เล่นนะ มันเอาไปพัง กูจะได้ไม่มีของเล่นไง

แม่กูก็พอรู้มั้ง คิดว่านะ เพราะบอกให้อดทน แต่บางทีแม่ก็ไม่เชื่อที่กูเล่า หาว่ากูเรียกร้องความสนใจ วันๆก็กูไม่ค่อยเจอแม่หรอก กลางวันกูก็ไปโรงเรียนอนุบาล ตอนเย็นกลับมาก็ไม่ค่อยได้เจอแม่ แม่มักต้องไปงานเลี้ยง งานสังคม กับแฟนเสมอ ทิ้งให้กูอยู่กับลูกชายเค้า แถมยังนอนห้องเดียวกันอีกด้วย มันแกล้งกูสารพัด เคยจับกูมัดกับเก้าอี้แล้วเอาเทียนหยดใส่ด้วย

กูอยู่ที่นั่นต้องพยายามเอาตัวรอดด้วยการทำตัวเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่มีปากเสียงกับใคร กูคิดว่าถ้าทำตัวเป็นเด็กว่าง่ายแล้วใครๆจะได้รักกูบ้าง โดยเฉพาะแม่ แต่กูไม่คิดว่ามันได้ผล เพราะไม่เห็นจะมีใครรักกูเลย

ตั้งแต่กูโดนไอ้เด็กคนนั้นรังแก กูเคยฝันเอาไว้ว่าอยากมีพี่ชายที่ใจดีและรักกูสักคน

กูอยู่บ้านนั้นได้สองปี เรียนอนุบาลจนจบอนุบาลสอง แล้วแม่ก็เลิกกับแฟนคนนี้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กูก็ได้มาอยู่กับคุณอาสองคนนี้ และเข้ามาเรียน ป.๑ จนได้เจอกับมึงนั่นแหละ คุณอาผู้ชายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ หลังจากนั้นแม่ก็ไปไหนก็ไม่รู้ ตอนนั้นยังเด็ก ไม่รู้เรื่องของผู้ใหญ่ แต่ก็มารู้อีกทีตอนหลังว่าหลังจากเลิกกับแฟนคนนั้นแล้วแม่กูไปมีแฟนใหม่อีก แล้วต่อมาก็มีอีกหลายคน

มันก็เลยกลายเป็นว่าคุณอาต้องสอนให้กูบอกว่าบ้านกูอยู่ต่างจังหวัด แล้วมาพักกับอาในกรุงเทพฯเพื่อเรียนหนังสือ จะได้ไม่ต้องเล่าเรื่องครอบครัวมาก คนอื่นจะได้ไม่รู้ว่ากูเป็นเด็กที่พ่อแม่ทิ้ง คุณอาทั้งสองคนรักกูมาก กูว่ารักกูมากกว่าพ่อแม่จริงๆของกูเสียอีก แต่ทำไมเค้าไม่รับกูเป็นลูกเสียเลยก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้มึงก็รู้ความลับแล้วนะ กูโกหกเพื่อนทุกคนรวมทั้งมึงด้วยมาตั้งแต่เด็ก มันนานหลายปีเต็มที พอกูคิดจะบอกความจริงก็ไม่กล้า เพราะโกหกมานานเกิน


<จดหมายอากาศ (aerogramme) เป็นจดหมายสำเร็จรูป มีลักษณะเป็นกระดาษบางๆหนึ่งแผ่น ขนาดประมาณ A4 มีแสตมป์อยู่แล้วเรียบร้อย มีลิ้นด้านข้างทากาวเอาไว้ การเขียนก็เขียนข้อความและจ่าหน้าซองไว้ในจดหมายอากาศนั้นเลย เมื่อเขียนเสร็จก็พับทบกัน เอาน้ำละลายกาวที่ลิ้นของจดหมายแล้วปิด ก็จะได้จดหมายสำเร็จรูป นำไปส่งในตู้ไปรษณีย์ได้เลยโดยไม่ต้องไปที่ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อชั่งน้ำหนักและคำนวณค่าแสตมป์ แนวคิดก็คล้ายกับไปรษียบัตรนั่นเอง แอโรมแกรมในภาพนี้เป็นแอโรแกรมของสหรัฐอเมริกา>


<ภาพแอโรแกรมหรือจดหมายอากาศของไทยในยุคที่ผมเรียนมัยธยม สมัยนั้นจดหมายอากาศราคาฉบับละ ๘.๕๐ บาท เมื่อพับเสร็จเรียบร้อยแล้วจะได้จดหมายอากาศซึ่งมีด้านหน้าและด้านหลังอย่างที่เห็นในภาพ ปัจจุบันจดหมายอากาศราคาฉบับละ ๑๕ บาท แม้ในยุคนี้ซึ่งเป็นยุคของอีเมล การใช้แอโรแกรมจะน้อยลงไปมาก แต่ก็ยังมีผลิตออกมา มีนักสะสมจำนวนหนึ่งซื้อแอโรแกรมเพื่อการสะสม ไม่ใช่เพื่อใช้งาน เพราะว่าภาพประกอบสวยๆด้านหน้าและด้านหลังของแอโรแกรมล้วนแต่มีความหมายและความเป็นมา>

58 comments:

Anonymous said...

คิดถึงนัยมากเลย ในที่สุดก็มีเรื่องของนัยเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น อยากรู้ว่าความลับของนัยที่โดนจับในห้างจังเลยว่านัยจะบอกอูว่าอย่างไร
MC

Anonymous said...

อูจะส่งเนื้อเพลงที่แต่งให้นัยมั๊ยน้า นัยคงดีใจมากเลย อูสบายดีไหมครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากรักษาสุขภาพนะครับ
MC

Anonymous said...

อูจะส่งเนื้อเพลงที่แต่งให้นัยมั๊ยน้า นัยคงดีใจมากเลย อูสบายดีไหมครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากรักษาสุขภาพนะครับ
MC

Anonymous said...

รักอาอูนะครับ

หลาน Ar ของอาอู

Anonymous said...

ตกใจมากว่ามาเจออานัยในลักษณะนี้ด้วย
แถมมีเล่าเรื่องที่ยาวมากอีกต่างหาก...

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

สบายดีครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง จดหมายยังไม่จบครับ อ่านต่อตอนหน้า

เบอร์ ๔ น่ะ หลานตัวจริงหรือเปล่าครับ คำพูดดูแปลกไปจากเดิม

อู

Anonymous said...

เย้~~!! อานัยเขียนจดหมายมาจริงๆด้วย แต่เสียดายจัง อาอูไม่ได้ไปรับจดหมายเสียนานจนไม่รุเรื่อง อานัยก็เข้าใจผิดว่าอาอูโกรธอีก แย่จังเลย อาอูเขียนกลับไปเลยครับ เอาให้ว่องเลยๆครับ ยังไงก็ดีใจครับ นึกว่าอานัยไปยุอเมริกาแล้วจะลืมอาอู ดีใจจังที่ยังไม่ลืมกัน อาอูเขียนกลับไปเลยครับ ผมอยากรุจังเลยว่าตอนต่อไปจะเปนยังไง ดีใจจังที่อานัยกลับมา

ปล.ขอบคุณครับที่มาเขียนต่อให้

Sea~~!!

พี said...

ตอนนี้สั้นจัง... ต้องรอ ตอนต่อไป
เห็นใจคุณอูครับ ที่ต้องมาพิมพ์และโพสต์ให้ได้อ่านกัน อยากรู้จังว่า ทำงานอะไรนะ ถึงมีเวลา แต่ไม่ต้องบอกหรอกครับ สงสัยเฉยๆ
ขอบคุณที่ถามถึงเรื่องความรัก ....
ก็ดีนะครับที่ห่างกันไป 1 เดือน ทำให้ผมสบายใจได้ขึ้นเยอะ สิ่งแวดล้อม, คน ที่เปลี่ยน + กับงานที่ต้องทำ ช่วยได้เยอะ แต่ผมก็โทรศัพท์มาคุยกับน้องเขา สัปดาห์ละครั้ง คุยทั่วๆไป สั้นๆ 2-3 นาที แต่ที่ผมดีใจมากกว่าก็คือ เมื่อผมกลับมา เจอกันครั้งแรก(วันที่ผมมาอ่านและโพสต์ในตอนที่8ภาค3)น้องเขาดูเหมือนคุยด้วยดี และดูเป็นกันเอง ใกล้เคียงกับตอนที่ยังไม่รู้ว่าผมแอบบชอบแล้ว เมื่อหัวค่ำวันนี้ ก็ชวนผมกินเหล้าและชวนไปเที่ยวต่อด้วยตอนเที่ยงคืนวันนี้ (เจอกันครั้งที่2) ผมยังไม่ได้รับปากว่าจะไปเพราะปกติก็ไม่ค่อยได้เที่ยว เริ่มหมดวัยเที่ยว ผมยังแซวเลยว่าทำไมอารมณ์ดีจังวันนี้ เขาว่า อารมณ์ดีเพราะวันเกิดแฟน(หญิง)เขา และอยากดื่มเหล้าไม่ได้กินมาหลายวันแล้ว...
ยังไม่รู้เลยว่าจะวางตัวยังไง ให้เหมาะสม...
หลบออกมาเดินเล่นตลาดนัด และเข้าร้านเน็ต เดี๋ยว ต้องไปเจอกันอีกแล้ว
" พี่พี่... น้องน้อง " สงบใจไว้ ทำใจได้แล้วนะ
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
พี

Anonymous said...

วันนี้ arus มาแนวหวานจัง สงสัยพี่อูจะตั้งตัวไม่ทัน รีบถามใหญ่เชียว

เอิ๊กกกก

Bomber_Boy said...

ตอนนั้นพี่อูคงดีใจมากเลยครับที่ได้รับการติดต่อจากนัย...

แต่ผมไม่อยากเดาต่อว่าจะเขียนตอบกลับหรือไม่..อย่างไร...มาต่อให้ไวๆ นะครับ อยากอ่านต่อจนจะทนไม่ไหวแล้ว...

Oh my love like a red red rose.......

naja said...

คิดถึงนัยจังเลยครับ

yo408 said...

ไม่ทันยุคที่เอารูปซองมาโพส เห็นแต่ยุคที่เป็นแอร์เมล์ สั้นๆ รอบซองขลิบด้วยแดงน้ำเงินสลับขาว ครั้งแรกที่เคยได้มาจากเพื่อนแม่ที่ลาออก แต่งงาน ไปอยู่ต่างประเทศ เป็นผู้ช่วยทูตทหาร ส่งมาจากเมืองนอกหาแม่ แต่จ่าหน้าซองมาเป็นภาษาอังกฤษทั้งดุ้น แถมตราประทับเขลอะมาเชียว กี่ปั๊มก็ไม่รู้กว่าจะมาถึงมือที่เมืองไทย

Anonymous said...

ตัวจริง แต่พิมพ์ตก T-T

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

ดีใจด้วยครับพี่อู พี่นัยเค้ามาง้อแล้วนะ
แล้วได้ตอบจดหมายเค้ากลับไปหรือป่าว
อยากรู้จังครับ แล้วก็อยากรู้ต่อไปอีกว่า
นัยได้ส่งจดหมายมาอีกหรือป่าว

IZ

Anonymous said...

ติดต่อได้เสียที นัย - อู

thom

Anonymous said...

ดีใจจังที่อูได้รับจดหมายจากนัย ถึงแม้จะช้าไปหน่อย(อีตาอูไปรับช้าเองเสียนิ.... เฮ้อเวรกรรม)

แต่มีลางสังหรณ์ว่าต้องเจออุปสรรค์อีกแน่ๆ ฮิๆๆๆๆ

รออ่านอยู่นะครับ ขอบคุณครับ


วุฒ

Choo said...

ดีใจที่จริงๆ แล้ว นัยรักอู อ่าน จม.ถึงไม่ได้บอกรักก็รู้ว่าแคร์แค่ไหน จริงๆ นัยปลื้มพี่เต้เป็นแค่อยากมีพี่ชายเท่านั้นเอง สงสารนัยจัง เป็นเด็กอาภัพ

นัยได้ตามหาหัวใจของตัวเองกลับมาแล้ว แล้วอูได้ตามหาหัวใจของตนเองบ้างหรือยังครับ

เชื่อว่าอูเขียน จม.กลับไป แต่ต้องมีอุปสรรค หากันไม่เจอ นัยเปลี่ยน รร.หรือ เปลี่ยนที่อยู่ไปแล้ว

ที่ไหนยังมีรัก ที่นั้นย่อมมีหวังครับ
พรากจากกันยังหากันได้ แม้เวลาผ่านไปเป็นสิบสิบปี
แต่หาก...จากกัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้บอกความในใจ
มันค้างตลอดชีวิตเลยนะอู

สงสัยว่าอูเขียนเรื่องนี้มา 4 ปี มีวัตถุประสงค์อื่นแผงอยู่หรือไม่ แต่อูไม่ต้องตอบหรอกครับ

ผมเอาเพลง "ทางหนึ่งซึ่งหวัง" ของ The innocent มาฝาก อู และผู้ตามหารักทุกคน (เป็นเนื้อเพลง mp3โหลด เอาเองครับ 55) น้องๆ หลายคนคงรู้จัก แต่หลานๆ ไม่แน่ใจ

ตะวันลับไป หนทางยังไกล เสมือนไร้ซึ่งจุดหมาย
ดั่งความฝันที่พลันมืดมิด ขาดทิศทางนำฉันไป
แม้ว่าต้องรอ ท้อใจกระไรฝืนใจข่ม แม้คลื่นลม
กระหน่ำให้หวังมลายสิ้น

* ผ่านมาตามทางแสนไกล แม้ฉันจะได้ก็แค่เพียงธุลีดิน
หยาดแห่งความรักอบอุ่นที่หลั่งริน สู่หัวใจที่สิ้นศรัทธา

** แม้หนทางใหม่อาจไกลสุดลิบตา
ฉันจะฝ่าเรื่อยไปมิไหวหวั่น ด้วยใจยึดมั่นตราบวันผันผ่าน
เพื่อให้ฝันนั้นเป็นจริง

นานเท่านานหนทางที่ผ่าน ดูเวิ้งว้างและเงียบเหงา
ดั่งฝันร้ายติดตามเป็นเงา เฝ้าย้ำให้เราทุกข์ทน
แล้วมีใครบ้าง หวังเดินตามทาง แม้หมองหม่น
ขอเพียงทนอย่าบ่น ให้หวังนั้นสูญสิ้น (ซ้ำ *,**)

ไม่มีผู้คนตามหนทาง โดดเดี่ยวอ้างว้างกลางหนทางเปลี่ยว
จะมีใครเหลียวแล ความตายนั้นคือความพ่ายแพ้
สิ่งหนึ่งนั้นแม้สิ้นสุด คงไม่หยุดหนทางหวังยังคอย
ใยโดนปล่อยให้หงอยเหงาเดียวดาย

หยาดแห่งความรักอบอุ่นที่หลังริน สู่หัวใจที่สิ้นศรัทธา (ซ้ำ **)

ชู

ปล.เป็นกำลังใจ ออกกำลังกายรักษาสุขภาพด้วยเด้อ

Anonymous said...

From the bottom of my broken heart.

"Never look back."We said.
How was I to know I'd miss you so?
Loneliness up ahead, emptiness behind.
Where do I go?

Sea~~!!

Anonymous said...

คืนเดียวทำไมรีพลายเยอะจัง

หลาน arus อาหน้าแดงแล้ว มีคนตั้งกองแซวด้วย

ดีใจที่พีกลับมาส่งข่าว ขอให้มีความคืบหน้าด้วยดีครับ

ระบบจดหมายที่โรงเรียนเป็นยังงั้นเองครับ เด็กที่รับธนาณัติเป็นประจำก็จะรู้กัน แต่เด็กนักเรียนทั่วไปจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีจดหมายมา ผมเองและแม้แต่นัยก็คิดไม่ถึง จดหมายเลยค้างอยู่ตั้งปี ที่หลานทะเล น้อง IZ เด็กวางระเบิด และคนอื่นๆถามว่าผมตอบจดหมายไปหรือเปล่านั้นรีบตอบเลยล่ะ แถมเฝ้ารอทุกวัน จนพี่ธุรการสงสัย ว่าทำไมต้องแวะมาทุกวัน

หลายคนคงเดาได้ว่าเรื่องราวต่อไปไม่ราบรื่น เพราะผมเคยบอกไว้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีนัย เลยอาจพอเดาได้ แต่คอยอ่านต่อว่าเนื้อความในจดหมายเป็นอย่างไรก็แล้วกันครับ และหลังจากตอบไปแล้วจะเป็นอย่างไร

กู๋เป็นไงบ้าง เงียบไปเลย เห็นใครหายนึกได้ก็ถามๆดู อย่าแกล้งหายเพื่อให้ผมหาเลยครับ เพราะเดี๋ยวจะหายกันหมด

พี่ชูพูดได้ตรงใจมาก นัยเป็นเด็กอาภัพครับ ที่ถามผมว่ามีวัตถุประสงค์อะไร เขียนมาตั้ง ๔ ปี รบกวนพี่ลองคาดเดาดูหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากทราบความเห็นของพี่

อู

Anonymous said...

พี่ชูเป็นหมอเดาให้หน่อยนะครับ พี่อูเค้าร้องขอมา
น้องทะเลเนี่ยะ เนี่ยะเพลงเนี่ยะเศร้ามาเลยอ่ะ
จะบอกว่าตอนสมัยพี่ม.3 ภาษาอังกฤษพี่ไม่กระดิกเท่าไหร่เลย ขอตอนที่สิบเลยได้มั๊ยครับพี่อู


IZ@รอไม่ไหวแล้ว

Anonymous said...

ทำไมวันนี้คอมเมนต์คึกคักยังงี้ละเนี่ย แถมอูยังหน้าแดงอีก เจอหลานฝากรักเข้าให้ 555 ^_^

ชักอยากรู้เหมือนกันว่าพี่อูมีวัตถุประสงค์อะไร พี่ชูทายก่อนพี่อูจะได้เฉลย

สงสารนัยครับ ไม่นึกเหมือนกันว่าชีวีตของนัยจะขาดความรักขนาดนี้ มีหลายปมที่ยังไม่มีคำตอบ คาใจผมมาตั้งแต่ภาค 2 แล้ว สงสัยว่าคงได้คำตอบจากจดหมายนี่เอง

รีบมาต่อไวๆเลยครับ

wan

Anonymous said...

(-_^) ที่2+2โหยตอนนี้คนมากจริง ช่ายๆอยากอ่านต่อแล้วครับลุง ตอนเรียนไม่รู้เลยครับว่าจดหมายส่งมาที่รร.ก็ได้ คิดว่าส่งไปบ้าน ขอบคู้นนลุงอูหน้าแดงครับ

Anonymous said...

(^o^) ลืมบอกผลสอบพอใช้ครับคุณทะเล ผมเรียนไม่เก่งครับ ถ้าเป็นลูกทุเรียนหล่นแทนลูกแอ๊ปเปิล้นิวตั้นคงไม่ได้เกิดอาจป็นกฏของ U redface ก็ได้หุหุ

Anonymous said...

http://www.imeem.com/gamink/music/F1eW4L08/saichon-r/
หาไม่เจอในยูทูบครับลุงชู เจอในอิ่มเอมครับ ชื่อรุ่นเหรอครับตัวอย่างเช่น รุ่น130 ครอง....ไงครับ เดี๋ยวผมเรียกปู่เลยเอิ้กๆ

Anonymous said...

แล้วพี่ไม่ตอบกลับไปเหรอครับ
หรือว่าเนื้อในจดหมายที่เหลือ จะทำให้
พี่ อู ไม่ตอบกลับไป

t1000

Anonymous said...

ดีใจจัง

ในที่สุดก็มา

ยุ่น said...

ชีวิต..วุ่นวน..ค้นคว้า
เสาะหา..หนทาง..สร้างฝัน
เวลา..ผ่านไป..นานวัน
สิ่งนั้น..พลันหาย..ปลายทาง

ลุ้นครับ....แสงสว่างที่ปลายทาง
ขอบคุณครับ คุณอู

ยุ่นครับ

Choo said...

หลานที่1 ทายว่ารุ่น 130 ปู่ว่า เอ้ย ลุงว่า รุ่นของหลานมากกว่า รุ่นลุงต้องลบออกไปอีกยี่สิบกว่าๆ ครับ

งานเข้าเลยครับ น้องอูให้ทายเหตุผล น้อง iz น้องแว่นก็เลยอยากรู้ไปด้วยเลย ผมจะลองเดาดูนะครับ มันเป็น "เหตุผลส่วนตัวครับ" 55 ถูกชัวร์ ล้อเล่นครับ

ข้อแรก "อูต้องการให้นัยมีตัวตน" นัยเป็นเด็กอาภัพ ไม่มีใครรัก ไม่มีใครสนใจ แม้แต่อูที่ในใจคิดว่ารักนัย แต่อูก็ละเลยนัยไปนาน เหมือนนัยไม่มีตัวตน อูไม่เคยแสดงออกว่ารักนัยมากแค่ไหน อูเก็บซ่อนนัยไว้ในใจมายาวนาน ไว้เป็นความลับมากเกินไปและนานเกินไป อูจึงอยากแสดงออกว่ารักนัย แคร์นัย อยากบอกให้ใครก็ได้ที่ไว้ใจรับรู้ว่าอูรักนัยมากแค่ไหน เพื่อให้นัยได้มีตัวตนกลับมาอีกครั้ง แต่อูก้ยังไม่กล้าบอกเพื่อนสนิท เพราะไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะเข้าใจ จึงเลือกที่จะบอกคนในนี้แทน เพราะที่นี้เข้าใจความรักแบบนี้

ผมก็เดาตามประสบการณ์นะ หากอูไม่อยากให้เขียนข้อ 2 ต่อ บอกนะครับ เพราะอย่งาที่บอกจริงๆ แล้วมันคือเหตุผลส่วนตัว

ทุกคนอย่าซีเรียสตามนะครับ เป็นแค่การแชร์ประสบการณ์และวิเคราะห์ไปตามเหตุปัจจัยเท่านั้น

เป็นกำลังใจให้อูนะครับ เพลงที่เขียนฝากไว้ มีความหลายทุกตัวอักษร หากอูพิจารณาดูจะรู้ว่าผมต้องการบอกอะไร

ชู

ปล.วันนี้คนในนี้เยอะมาก แสดงว่ามีแต่คนรัก อู นัย แล้วอย่าลืม ชัชนะ เขาแคร์อูมาก รู้ตัวเปล่า

Anonymous said...

สมแล้วที่พี่ชูเป็น ปูชณียบุคคลในบอร์ด
วิเคราะห์ได้เทพมากมาย อิอิอิ

IZ@คิดถึงเฮียนัย

Anonymous said...

พี่ชูอย่ากั๊กข้อ 2 ไว้สิครับ ปล่อยมุขแบบนี้เหมือนพี่อูเลย ชอบกั๊กเอาไว้

ก็พี่อูให้พี่ชูทาย ก็เปิดโอกาสแล้ว ทายต่อเลยครับพี่ ยิ่งลุ้นอยู่ด้วย

wan (วันครับ ไม่ใข่แว่น)

Anonymous said...

ไม่ได้อ่านนานครับ

ยังค้ิดถึงเหมือนเดิม

ตอนนี้กลับถึงไทยได้สามอาทิตย์กว่า

ปลอดภัยจากหวัดครับ

อยากอ่านต่อเร็วๆจัง

จะมีความลับอะไรของนัยอีกหรือเปล่าน้า

อาร์ม

Anonymous said...

พี่อูครับ ดีไม่ดี comment จะเฉียด 100 เอานะครับ

ปล. พี่ชูชอบแทงกั๊ก (ชอบแทงคนชื่อกั๊กหรือป่าว)
ล้อเล่นนะครับ

IZ อยากไปมัลดีฟ

Anonymous said...

เห็นคอมเมนต์ตอนนี้มากเป็นพิเศษ ผมเพิ่งนึกออกว่าน่าจะเป็นเพราะทุกคนยังรักนัยอยู่นั่นเอง พอรู้ว่ามีข่าวจากนัยก็เลยเข้ามาคอมเมนต์

ที่จริงตอนนี้ยาวมาก ผมเลยต้องตัดแบ่งเพราะเขียนรวดเดียวไม่ไหว เลยอาจดูสั้นไปหน่อย ช่วงนี้ทำงานไม่ค่อยทันเลยครับ

ชอบคุณพี่ชูสำหรับเพลงครับ เข้าไปฟังที่หลานที่หนึ่งหามาให้แล้ว ไพเราะและมีความหมายดีจริงๆ

เชิญพี่ชูต่อข้อสองได้เลยครับ ผมก็อยากทราบ แฉได้ไม่ว่ากันครับ มีหลายคนอยากทราบความเห็นของพี่ไม่ได้มีแต่ผม พี่ไม่ต่อเดี๋ยวน้องๆหลานๆจะว่าพี่กั๊กเหมือนผมจริงๆ

น้อง IZ จะไปมัลดีฟก็รีบไปเสีย อีกหน่อยจะจมหมดแล้วครับ ตอนนี้เที่ยวภูเก็ตราคาย่อมเยามาก น่าไปเหมือนกัน แต่ก่อนไปไม่ไหวเพราะแพงเหลือเกิน

อาร์มหายไปนาน ดีใจที่ได้คุยกันอีกครับ

อู

Choo said...

อูใจแข็งมากไม่ยอมบอกใบ้กันบ้างว่าข้อแรก ผมมาถูกทางหรือเปล่า ออกน้ำออกทะเลไป เดี๋ยวน้องๆ หลานๆ จะหัวเราะเยาะเอาได้ แล้วผมจะไปถูกหรือนี้ เอาเป็นว่าผมวิเคราะห์ไปตามที่คิดละกัน ผิดถูกอูบอกด้วยดิ

ข้อ 2 “อูรู้สึกผูกพันกับบอร์ดนี้และคนในนี้เหมือนเป็นบ้านเป็นครอบครัว ยิ่งคนรักนัยมากเท่าไร อูก็มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น” เริ่มแรกจากแรงบันดาลใจตามข้อแรก เขียนไปเรื่อยๆ อูเริ่มรู้สึกเหมือนได้กลับไปในอดีต ได้ใกล้ชิดกับเพื่อนเก่าๆ ทั้งชัชและนัย อีกครั้ง มีความสุขเมื่อนึกถึงชีวิตวัยเด็ก รวมถึงความเศร้าในใจด้วย และเมื่อมีเพื่อนๆ ในนี้มากขึ้น เกือบทุกคนมีความรักให้นัย ทำให้อูมีความสุข ทำให้รู้สึกเหมือนบอร์ดนี้เป็นบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่มีสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น ได้สัมผัสถึงความห่วงใย เข้าใจ และความอบอุ่นที่หยิบยื่นให้แก่กัน โดยเฉพาะหลานๆ ของอาอู ฮิ ฮิ

ข้อ 3 “อูหวังให้นัยได้เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้” อูเชื่อว่าหากยังมีวาสนาต่อกันนัยต้องเข้ามาเจอบอร์ดนี้ ถึงเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของตัวละคร มันมีโครงร่างจากเรื่องจริง แล้วเสริมแต่งให้น่าสนใจติดตาม หากถ้านัยได้เข้ามาอ่านจะเข้าใจความรู้สึกของอูอย่างหมดเปลือก แต่หากเวลาผ่านไปแล้วนัยไม่ได้เข้ามาในบอร์ดนี้ อูจะถือว่าไม่มีวาสนาต่อกัน ลึกๆ ผมอยากจะให้ข้อนี้ผิดจากที่คิด

ข้อสุดท้าย ผมขอกั๊กละกัน เป็นเพื่อนอูก็ต้องนิสัยขี้กั๊กเหมือนกันซิ 555 อูไม่แย้มออกมาบ้าง ข้อสุดท้ายผมก็ไม่เฉลย (เริ่มต่อรอง)

ชู

ปล.หรือว่าผมคิดเพ้อเจ้อไปคนเดียว แหงๆ เลย

dodo said...

อยากอ่านตอนที่10อ่ะมั่ยรู้อยู่ไหน
ผมคนประเทศลาวนะพึ่งอ่านชอบมากอ่า

dodo said...

แนะนำผมที

Anonymous said...

นัยยยยยยยยยยยย
รออย่างไร้จุดหมาย คิดนู่นนี่ไป ฟุ้งซ่าน ไม่รู้ว่าอีกคนเค้าคิดยังไงกับเรา


เข้าใจความรู้สึกเลยอะ - -"





OK

Anonymous said...

เพิ่งมีถึงตอนที่ 9

ตอนที่ 10 ยังไม่มา ก็เลยหาไม่เจอน่ะ

Anonymous said...

อาอูครับ ถ้าเกิดช่วงนี้เหนื่อยๆแล้วก็ไม่ค่อยว่าง ก็พักหน่อยนะครับ ยังไงเป็นเห่วงเรื่องสุขภาพของตัวเองเอาไว้ดีที่สุดนะครับ เจ็บไข้ได้ป่วยไปจะยุ่ง พี่ๆอาๆลุงๆด้วยนะครับ รักษาสุขภาพกันหน่อยนะครับ ลุงชูก็กั๊กอีกแล้ว อิอิ อยากรู้นะครับๆ พี่ที่ 1 ก็มารยาทดีอีกแล้วแหะ ผมว่าแล้วว่าพี่ IZ ต้องรู้จักเพลงนี้ เพราะเห็นอยู่เมืองนอกน่าจะฟังเพลงสากลเยอะ แล้วเพลงนี้ก็ดังมากดังด้วย

Sea~~!!

Anonymous said...

เอ้อ ลืมเขียนระบาย ผมตกวิทย์แน่ๆเลยอ่ะ 55 พอดีเพิ่งสอบเสร็จมาครับ ข้อสอบโคตรรรรรรยากกกกกกเลย ตกแน่ๆ T^T เซงจังเลย เมื่อวานคะแนนเลขก็ออกก็ตกไปอันนึงจาก 3 อัน ก็ยังดีครับ ปกติผมจะตก 3 อันเลย - - ปีนี้ตั้งใจเรียนขึ้นนิดนึง

Sea~~!!

Anonymous said...

เลขกะวิทย์ ง่ายนิดเดียวน้องทะเล
เพลงอื่นมีอีกม่ะ 55เปลี่ยบ้างนะ
ไม่เอา บริทนี่ย์ หอก (spear)แล้ว

Anonymous said...

ขอบคุณหลานทะเลมากที่เป็นห่วงอา ซึ้งใจจริงๆที่มีหลานๆคอยเป็นห่วง อาไม่ค่อยสนิทกับเครือญาติ มีหลานก็เหมือนกับไม่มี เพราะแทบไม่ได้ไปมาหาสู่กัน ช่วงนี้อาก็ทำตามที่หลานแนะนำอยู่ครับ คือนอนเยอะขึ้น แล้วก็แบ่งเวลาไปว่ายน้ำบ้าง ตอนนี้สระว่ายน้ำคนน้อย เพราะกลัวหวัดกัน เลยว่ายน้ำสบายดี ไม่เกะกะใคร

ที่จริงหลานมีบางอย่างที่เหมือนอานัย ถ้าตั้งใจเรียนอีกหน่อยก็เรียนได้อยู่แล้ว ในยุคต่อไปที่หลานจะจบออกไปทำงาน ความรู้จะเปลี่ยนแปลงและเก่าเร็วมาก ในยุคนั้นความรู้จะไม่สำคัญเท่ากับศักยภาพในการหาความรู้ หมายความว่าถึงการจำสูตร จำเนื้อหาไม่ได้สำคัญเท่ากับการมีความสามารถในการเรียนรู้ ที่ว่าเมื่อเราอยากรู้อะไรเราจะสามารถเรียนรู้เรื่องเหล่านั้นได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อตอนจบออกไปทำงาน หลังจากที่เราพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยไปแล้ว ความสามารถนี้จะสำคัญยิ่งในยุคของหลาน ดังนั้นการที่หลานสอบตกในวันนี้ไม่ได้แปลว่าหลานไม่เก่ง แต่ข้อสอบในยุคปัจจุบันยังวัดความรู้ความจำกันอยู่มากนั่นเอง ถ้าหลานมีศักยภาพที่จะเรียนรู้แล้วละก็ต่อไปหลานเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว

ตอบพี่ชูครับ ที่จริงตอนผมอ่านคำถามของพี่ ผมชะงักไปเลย กลับบ้านไปคิดแล้วก็ยังหาคำตอบให้แก่ตัวเองอย่างจริงจังไม่ได้เหมือนกันว่าผมเขียนไปเพื่ออะไรกันแน่

ดังที่เคยบอกว่าเรื่องราวมันเป็นไปแบบตกบันไดพลอยโจน ว่าจะเขียนสั้นๆแล้วก็ติดพัน ดังนั้นผมก็ไม่เคยคิดอย่างจริงจังสักทีว่าเขียนไปเพื่ออะไร ดังนั้นถ้าจะถามว่ามีวัตถุประสงค์อะไรคงตอบไม่ได้ เพราะถ้าตั้งวัตถุประสงค์ก็คงต้องมีการวางแผนและตั้งใจทำมันออกมาให้ได้ตามแผน แต่นี่ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมเขียนเพราะว่าอยากเขียน ตอนเริ่มต้นคนอ่านนิดเดียว แต่ก็ยังเขียนต่อมาเรื่อยๆเพราะว่าอยากเขียน และถ้าจะถามว่าเขียนแล้วมีความคาดหวังอะไรไหม ก็ตอบว่ามีบ้าง ดังนั้นจะขอเรียกว่าเป็นความคาดหวังก็แล้วกันครับ

ความคาดหวังของผมก็คือ

- อยากให้เรื่องนี้เป็นหลักฐานทางสังคมชิ้นหนึ่ง ว่าในยุคสมัยหนึ่งชีวิตของคนทั่วไปเป็นอย่างไร ชีวิตแบบเกย์เป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมทางสังคมในยุคนั้นเป็นอย่างไร ฯลฯ ผมก็เลยพยายามใส่ข้อมูลโน่นนี่ประกอบเข้าไปด้วย อย่างเช่นเพลงต่างๆ ภาพต่างๆ ที่อยู่ในยุคของผม

- อยากให้ชีวิตของอูและนัยมีส่วนช่วยเติมเต็มแก่ชีวิตของผู้อ่าน หลายๆคนอาจมีชีวิตในที่ไม่ราบรื่น หรือว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไปในชีวิตช่วงหนึ่ง ก็อยากให้ชีวิตของเด็กสองคนนี้ได้ช่วยเติมในส่วนที่ขาดหายไปในด้านความรู้สึก

- อยากให้คนอ่านเติบโตไปพร้อมๆกับอูและนัย ผมอยากให้ชีวิตของเด็กสองคนนี้เป็นเหมือนต้นไม้ที่พวกเราทุกคนเฝ้าดูมันเติบโตและเจริญงอกงาม อยากให้พวกเราอยู่เป็นเพื่อนอูและนัย และก็อยากให้อูและนัยอยู่เป็นเพื่อนของทุกคน เติบโตไปด้วยกัน เรียนรู้ชีวิตไปด้วยกัน ได้เห็นทั้งด้านสว่างและด้านมืดของเด็กสองคนนี้ ซึ่งก็เป็นตัวแทนของด้านสว่างและด้านมืดในจิตใจของทุกคนนั่นเอง

หลายคนอาจสังเกต ว่าหลายปีที่พวกเราเผ้าดูนัยและอูเติบโตนี้ เมื่อผ่านช่วงเวลาสำคัญ เวลามักจะตรงกัน อย่างเช่นถ้ามีเรื่องช่วงปีใหม่ ตอนนั้นก็จะถูกโพสต์ในช่วงใกล้ๆปีใหม่พอดี หรืออย่างตอนปัจจุบันที่อูได้รับจดหมายจากนัย เหตุการณ์ก็เกิดในเดือนกรฎาคมนี้เช่นกัน เพื่อให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมให้มากที่สุดแม้จะเป็นเรื่องคนละยุคสมัยกันก็ตาม ฯลฯ

ที่จริงความคาดหวังเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาพร้อมกันไล่เป็นข้อๆแบบนี้ แต่ว่าจากเท่าที่ทบทวนคิดดู มันก็น่าจะออกมาเป็นทำนองนี้แหละครับ แล้วก็ยังมีความคาดหวังอีกหลายข้อที่ขอไม่บอกในตอนนี้ แต่จะเอาไว้บอกตอนที่อวสานจริงๆก็แล้วกันครับ เพราะอย่างในภาคสอง ผมทำพลาดไป เดิมทีไม่ได้คิดว่าจะเขียนต่อ ก็เลยเผยว่าใครเป็นอย่างไรเมื่อโตแล้ว รวมทั้งบอกเรื่องของนัยไปด้วย พวกเราก็เลยเหมือนกับรู้อนาคตที่อูยังไม่รู้ในตอนนั้น ซึ่งที่จริงถ้าผมคิดทันว่าจะเขียนต่อภาคสาม ผมจะไม่เล่าเรื่องของนัย เพราะอยากให้ทุกคนรู้เท่าๆกับที่อูรู้ เพราะชีวิตคนเราไม่มีใครรู้อนาคต จะได้ไม่ประมาทกับชีวิต

ไม่ทราบว่าตอบคำถามพี่ชูได้ตรงประเด็นหรือเปล่า คงพอได้นะครับ

อู

Choo said...

ได้อ่านความคาดหวังที่อูบอก ผมต้องวนอ่านซ้ำหลายรอบแล้วไตร่ตรองไปพร้อมๆ กัน อึ้งไปเล็กน้อยสำหรับคำตอบของอู ผลัดกันชะงักละกันครับ ใช่แล้วคนเราควรทำอะไรตามใจที่อยากจะทำเป็นงานอดิเรก ทำอะไรแล้วมีความสุขก็จะทำไปเรื่อยๆ บางเรื่องไม่จำเป็นต้องมีจุดประสงค์หรือความคาดหวัง เพียงแค่ใช้ใจในการนำทางเหมือนที่อูเคยบอกไว้

ผมคงไม่ต้องเฉลยข้อสุดท้ายที่เตรียมไว้ เพราะอูได้สรุปทุกอย่างครบถ้วนหมดแล้ว ขอบอกจากใจจริงว่า “นายแน่มาก” จะเขียนว่า “เราภูมิใจในตัวนายจริงๆ” ก็ยังรู้สึกกระดากปากกระดากใจอยู่ แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ รู้สึกโชคดีมากที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในบอร์ดนี้ของอู ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับเชิญ 555 โชคดีที่ได้เป็นเพื่อนอู ขอเป็นเพื่อนทั้งๆ ที่อูยังไม่ได้รับคำอะไรเลย จะมีวาสนาได้เห็นตัวจริงหรือเปล่าครับ ได้เห็นความห่วงใยระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่าน นอกเหนือจากการคอมเมนต์ตัวละครหรืองานเขียนเหมือนบอร์ดอื่นๆ

จริงๆ อูมีลักษณะของศิลปิน มีจิตวิญญาณของความเป็นครูอยู่ในตัวสูง จะวิเคราะห์ผิดอีกหรือเปล่าเนี้ย เวลาเพียง 1 เดือนที่ผมเข้ามาวุ่นวายในบอร์ดนี้ หลังจากตามอ่านอย่างเดียวมาเป็นปีๆ ได้เข้าใจและได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากบทละครฯ จากอูผู้เขียน และจากน้องๆ หลานๆ ไม่น้อย

โดยเฉพาะรุ่นขาสั้น เท่าที่รู้มี หลานที่1 เคยแย่งกันเข้าป้ายครั้งหนึ่ง เป็นคนมีน้ำใจสูง หลานทะเลของลุงอูที่น่าจะเป็นน้องเล็ก นอกจากจะเหมือนอานัยตามที่อาอูบอก ผมว่าก็คล้ายอาอูอยู่ไม่น้อย แต่อย่าหื่นเหมือนอาอูนะ แก่แดดไปหน่อย และหลาน Arus ของอาอู ที่ขยันเรียนมากๆ กำลังจะสอบเอ็นซ์ปีนี้ ทำให้รู้สึกกระชากวัยลงมาบ้าง หลังจากงงๆ กับภาษาวัยรุ่นอยู่เล็กน้อย ขอบอกว่าหลานทั้งหมดโชคดีมากๆ ที่ได้เป็นหลานของอาอู รักษาอาอูคนนี้ให้ดีๆ นะครับเพราะนี้แหละปูชนียบุคคลของบอร์ดตัวจริง 555

ขอสวัสดีและยินดีที่ได้รู้จักกับน้องๆ มีขาประจำ เช่น yo408, IZ, Naja, และคนอื่นอีกมากมาย จำไม่หวาดไม่ไหว ก็ขอยินดีที่ได้รู้จักเป็นทางการอีกซักหนครับ ขอโทษน้องวันด้วย ดันทักเป็นน้องแว่นซะงั้น ขอแก้ข่าวด ผมไม่ได้กั๊กซักกะหน่อย แค่พยายามซักอูให้บอกอะไรบ้างอย่าง ได้ผลด้วย ฮิ ฮิ

เป็นกำลังใจให้ทุกคน รักษาสุขภาพกันด้วย แบ่งเวลาออกกำลังกายกันบ้างนะคร๊าบ เวลาอูไปว่ายน้ำอย่าลืมแขม่วพุงไว้ด้วย จะติดตามการเติบโตของอูและนัยไปเรื่อยๆ ครับ ว่าแต่ตอน 10 เมื่อไรมา มีเพื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านตามแล้วนะอู

ชู
ปล. ตะหงิดๆ อยู่แล้วเชียว งานนี้ออกน้ำออกทะเลจริงๆ ด้วย หน้าแตกหมออูไม่รับเย็บเลย 555

Anonymous said...

พี่อูครับ ผมพูดไม่ค่อยเก่งนะ
แต่อยากจะบอกว่า สังคมเล็กที่พี่อูทำสร้างขึ้นมา
มีค่าทางจิตใจมากนะครับ
ทำให้พวกเราได้ติดตามเรื่องราว อู&นัย
และก็โตมาพร้อมๆกัน
อีกอย่างที่พี่อูสอนหลานๆ ก็คือเรื่องการเรียนรู้
ฝรั่งเค้าเป็นนี้กันมานานแล้ว เค้าถึงได้พัฒนากันไปเร็ว


ปล.วันนี้ดาวโหลดเอกสารทางโหราศาสตร์มาอ่าน มึนกันไปเลย

IZ@อยากเป็นโหร และรอคำแนะนำจากพี่อู

Anonymous said...

อาอูครับ ก็อย่างที่บอก ที่นี่ก็เหมือนเป็นบ้าน คนในบ้านเดียวกันก็ต้องเป็นห่วงกันสิครับ แต่ทำไมลุงชูถึงบอกว่าผมเหมือนอาด้วยล่ะ ลุงชูมาบอกด้วยนะครับ ตัวผมสำรวจตัวเองยังไม่รู้เลยว่าเหมือนตรงไหน - -?

ทำไมมีแต่คนไม่ชอบบริทนี่ย์เยอะแยะเลย ผมชอบเพลงในอัลบั้มใหม่ของเธอนะครับ ผมว่าเพลงเธอเพราะ+มัน และฟังแล้วสนุกดี

I have nothing.
If I don't have you.
55 คุ้นๆกันไหมครับ คราวนี้มาแก่เลย

Sea~~!!

dodo said...

คับ ๆ ขอบคุง นะ ครัฟ อยากอ่านไวๆนะ ชอบมากๆรุย อ่านไป บางที ก็ ร้องไห้ ไปด้วยเลย (ตอนเศ้าๆอ่า)

dodo said...

โห เพลงที่นัย ชอบ เล่งให้ อู ฟังคิดว่าเพลง ไร เหอๆๆๆA Lover’s Concerto เพลงนี้ ที่บ้านฟังทุกวันเลย อุดสาลองฟังใน เว็บ youtube แต่สุดท้ายเพลงนี้ ฟัง เปน พันๆ รอบแล้ว ที่บ้านคุณแม่ ชอบฟังนะ

dodo said...

แต่ก็ เพลาะดี (มิน่า นัย กะ อู ถึงชอบ อิอิ)

Anonymous said...

dodo ใช้ภาษาได้เหมือนวัยรุ่นไทยเลย น่ารักจัง ยินดีที่ได้รู้จักนะคัฟ

Bomber_Boy said...

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พี่อูน่าจะมีมิตติ้ง UUStory FC. จะ่ได้มีการพบปะสังสรรค์กันระหว่างพี่อู กับน้องๆ หลานๆ แล้วก็พี่ๆ (อาชูคนเดียวหรือเปล่านะ...555+) ดีไหมครับ รู้สึกว่าตอนนี้แฟนคลับเยอะเหลือเกิน ยิ่งในตอนนี้คอมเมนต์เยอะมากๆ เป็นประวัติการณ์เลย

ว่าแต่ว่าเมื่อไหร่จะมาต่อเนี่ย รอนานแล้วนะครับ
__________
เด็กวางระเบิด

Anonymous said...

50 comment โอ้โห สุดยอดครับ ระวังblogจะระเบิดนะครับคุณอู

ดีใจกับอูที่มี fanclub มากมาย

วุฒ

Choo said...

ตอบหลานทะเลครับ ลุงคิดว่าหลานเป็นคนช่างเจรจา เจ้าความคิด มีจินตนาการสูง ห่วงใยผู้อื่น ชอบบริการ แต่ก็มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง แต่จะขี้บ่นเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งคล้ายกับอาอูในบทนิยายฯ ตอนวัยมัธยมต้นเหมือนหลานตอนนี้ แต่อาอูในเรื่องฯ กับอาอูตัวจริงนิสัยเหมือนกันหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ หลานวางแผนเรียนต่อ ม.ปลาย สายไหนครับ ? ลุงเดาว่าสายศิลป์ครับ

ลุงชู

Anonymous said...

ตอนนี้นานจัง
เข้ามาหลายรอบแล้ว
รีพลายแฟนก็หลาย

สงสัยช่วงนี้อูงานคงยุ่งมาก

thom

พี said...

ตอน 10 มาช้านะครับ.... ไม่รู้ว่า..ยุ่ง หรือ ป่วย เพราะช่วงนี้ ฝนแถวบ้านผมตกเกือบทุกวัน แทบไม่ได้เห็นแสงแดด ยังงัยคุณ อูและเพื่อนๆ น้องๆนักอ่าน ก็รักษาสุขภาพกันไว้หน่อยนะครับ ยิ่งมีไข้หวัดใหญ่2009 มาป่วนด้วย...ป้องกันไว้หน่อยก็ดีนะครับ
ใครๆหลายคนมารอหลายรอบแล้ว...รวมทั้งผมด้วย เสาร์นี้จะได้อ่านไหม นา....ยังไงก็จะเข้ามาดูเรื่อยๆ
ตอนนี้ (ตอน9 )เลยเป็น ตอนเผยความใน และทักทายกันไปเลย...อ่านคอมเม้นต์ก็เพลินดี เพราะอยู่กับจอ4เหลี่ยมอย่างเดียวก็น่าเบื่อ อ่านสำนวนการตอบของแต่ละคนแล้วก็จะได้จินตนาการไปว่าน่าจะเป็นรุ่นไหน แต่ก็เดาอยาก...
มีความสุขกันทุกคนครับ
พี

Anonymous said...

ก่อนออกไปเรียนขอวิเคราะห์ว่าตอนนี้มีเหตุปัจจัย
หลายอย่างที่ทำให้เกิดปริมาณ comment ที่ขึ้น
ประวัติศาสตร์ได้

1. จดหมายของอานัย
2. เปิดปมสำคัญที่ผูกไว้แต่ภาคต้นๆ เรื่องบ้านอานัย
3. จังหวะการเขียนที่น่าสนใจ
4. "การตัด" ตอนจดหมาย
5. หลานๆแซว+ทักทายกันมาก เพราะเผยโฉมกัน
เยอะมากๆ
6. การสังเคราะห์จากอาูชู และอานัย
7. ใครๆ ก็รักอาอู

หลาน Arus ของอาอู

Anonymous said...

คอมเมนต์ประวัติศาสตร์จริงๆ ขอบคุณครับที่ร่วมแสดงความเห็น และต้องขอทักทาย dodo "สบายดี"

พี่ชูเก่งมากครับ หลอกล่อให้ผมหลุดเล่าอะไรออกมาได้หลายเรื่อง

น้อง IZ ที่ถามเรื่องโหราศาสตร์ ขอยกไปตอบในตอนหน้านะครับ ตอบตอนนี้ไม่ทัน

arus หลานรักวิเคราะห์ได้เข้าท่ามาก โดยเฉพาะข้อ 7 ขอให้จริงตามนั้นเถอะ

คืนนี้ตอน 10 มา ตอนนี้โพสต์ไม่ทันครับ รออีกหน่อย ขออภัยที่ทำให้ทุกคนต้องรอครับ

อู

Anonymous said...

ไม่มีเวลาอ่านเลย เรียนหนัก งานยุ่งๆ คับพี่อู

ตามอ่านอยู่คัีบ ยังไม่หมด อ่านตอนนี้แล้วดีใจมาก
พระเอกผมกลับมาแล้ว
^^sky^^

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับที่มีตอนนี้ เหมือนต่อชีวิตให้ผมเลย
ผมน้ำตาไหลเลย รู้สึกมีความสุขที่สุด
ป่าน