Sunday, August 10, 2008

ภาคสอง ตอนที่ 16

โรงอาหารที่นี่คึกคักและจ้อกแจ้กจอแจกว่าที่โรงเรียนเก่ามาก บรรยากาศความพลุกพล่านทำให้เราไม่สามารถนั่งแช่กินอาหาร และคุยกันไปได้เหมือนอย่างที่แต่ก่อนเคยทำมา ดังนั้นเพียงครู่เดียวเราก็กินอาหารเสร็จ

“ไปไหนดีหว่า” นัยถามเปรยๆ

ในที่สุดเราก็ได้คำตอบ นั่นคือ เราเดินสำรวจให้ทั่วโรงเรียน จะได้ทำความรู้จักกับสถานที่ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น

“แหม ติดกันเป็นปาท่องโก๋เลยนะ” เสียงหนึ่งลอยมาจากด้านหลังขณะที่เรากำลังเดินสำรวจรอบๆโรงเรียน ผมหันไปดู โหนกนั่นเอง

“จะไปไหนไม่เห็นชวนกันมั่งเลย” โหนกเดินมาจนทันกันกับผมและไอ้นัย แล้วต่อว่าเล็กน้อย

“อ้าว ก็ไม่เห็นนี่ โรงอาหารแน่นจะตาย หานายไม่เจอ เลยไม่รู้จะชวนได้ไง” ผมตอบ “นี่กำลังจะเดินดูให้ทั่วๆโรงเรียน”

“ทีนัยยังไม่เห็นหลงกับอูเลย” โหนกพูด

เออ จริงสินะ ที่พูดก็ถูก ก็ผมตามเดินไอ้นัยติดๆนี่ แต่ไม่ได้เดินตามไอ้โหนก ก็เลยไม่หลงกับไอ้นัย แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป

หลังจากนั้นเราสามคนก็เดินสำรวจโรงเรียนด้วยกัน เดินไปคุยไป จนใกล้ได้เวลาเข้าเรียนในภาคบ่าย จึงได้แยกกับไอ้นัย

การเรียนในภาคบ่ายก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงแค่อาจารย์คนอื่นๆเข้ามาแนะนำและพูดคุยด้วย ที่นี่อาจารย์แค่ละคนรับผิดชอบสอนกันคนละวิชา ดังนั้นวันหนึ่งเรียน ๗ คาบก็มีอาจารย์ ๗ คนเข้ามาสอน ต่างจากโรงเรียนเก่าซึ่งครูประจำชั้นคนเดียวเหมาสอนเกือบทุกวิชา ยกเว้นเพียงบางวิชาเท่านั้น ที่นี่คาบเรียนหนึ่งใช้เวลา ๕๐ นาที แล้วมีช่วงที่เปลี่ยนวิชาซึ่งต้องรออาจารย์คนอื่นเข้ามาสอน ช่วงเปลี่ยนวิชานี้จะกินเวลาประมาณ ๑๐ นาที

ช่วงเปลี่ยนวิชานี้เป็นช่วงที่สนุก เพราะเป็นช่วงที่ไม่มีอาจารย์อยู่ในห้อง พวกเราจึงคุยกันได้อย่างเต็มที่ นักเรียนในห้องเริ่มทำความคุ้นเคยกันก็จากช่วงเปลี่ยนวิชานี่เอง

เราเลิกเรียนเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง เมื่อเสียงออดบอกเวลาสิ้นสุดคาบเรียนสุดท้าย นักเรียนทุกคนก็กรูกันออกมาจากห้อง

ที่หน้าห้อง ผมพบไอ้นัยยืนทำหน้าตายรออยู่แล้ว

“ทำไมเลิกเร็วนักวะ” ผมถามมัน

“ครู เอ๊ย อาจารย์ปล่อยก่อนนิดเวลานึง” ไอ้นัยตอบ มันยังไม่ค่อยคุ้นกับการเรียกอาจารย์ว่าอาจารย์

“ทำอะไรดีหว่า” ผมเริ่มรู้สึกเคว้ง เพราะเคยแต่เป็นนักเรียนประจำ พอโรงเรียนเลิกก็เดินกลับเข้าหอพักของโรงเรียน ไม่เคยใช้ชีวิตแบบนักเรียนไปกลับมาก่อน

“ก็กลับบ้านดิ ถามได้” ไอ้นัยตอบ

นึกถึงบ้านขึ้นมา ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากกลับไปเร็วนัก เพราะว่ากลับไปก็ไม่มีอะไรจะทำ อีกอย่าง ผมยังไม่คุ้นกับ “บ้าน” ใหม่ของผมนัก ครั้นจะนั่งทำการบ้านต่อที่โรงเรียน ก็ไม่มีการบ้านให้ทำเสียอีก ผมอยากหาอะไรทำฆ่าเวลาสักหน่อย แล้วกลับถึงบ้านทันกินข้าวเย็นก็พอ

“ไปเยี่ยมไอ้ชัชกันดีกว่า” ผมเสนอ “เวลามีถมเถ แวะไปหามันหน่อย กลับบ้านไม่ช้ามากหรอก”

แน่นอน ไอ้นัยย่อมไม่ขัดข้องอะไร เพราะไอ้นัยไม่เคยขัดใจใครอยู่แล้ว

“คุยอะไรกันอยู่เนี่ย” เสียงโหนกแทรกเข้ามา พร้อมกับเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย

“จะไปโรงเรียนเก่าอ่ะ” ไอ้นัยตอบ พร้อมเอ่ยปากชวน “ไปด้วยกันไหม”

“ไม่ล่ะ” โหนกตอบ “เดี๋ยวต้องรอรถมารับ”

พอรู้ว่าที่บ้านจะมารับ เราก็ไม่ได้คะยั้นคะยออีก เป็นอันว่าผมกับไอ้นัยก็นั่งรถกลับด้วยกันเพียงสองคน

กว่าจะเดินไปถึงใต้สะพานพุทธ กว่าจะนั่งรอให้รถออก ก็ใช้เวลาไปโข คิวรถสาย ๘ ที่จอดเรียงรายอยู่ที่ท่ารถ สามคันแรกล้วนแต่มีคนขึ้นไปนั่งจนที่นั่งเต็มหมดแล้ว เราจึงต้องขึ้นไปนั่งในคันที่สี่ ซึ่งกว่าจะถึงคิวออกจากท่าก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

ช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณเกือบๆบ่ายสี่โมง การจราจรช่วงนั้นยังไม่แน่นมาก เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน ดังนั้นใช้เวลาเพียงเกือบหนึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงโรงเรียนเก่าของเรา

ผมกับไอ้นัยเดินผ่านประตูใหญ่เข้าไปด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง เมื่อไม่นานมานี้เอง ที่ผมรู้สึกว่าที่นี่เป็นโรงเรียนของเรา แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่แล้ว กางเกงนักเรียนสีดำของเราสองคน ท่ามกลางกางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน ยิ่งขับเน้นให้เห็นถึงความแตกต่าง ไม่น่าเชื่อว่าจากโรงเรียนเก่ามาเพียงไม่กี่วัน ทำให้ผมรู้สึกถึงความแตกต่างได้มากขนาดนี้

ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว มีนักเรียนเหลืออยู่ในโรงเรียนไม่มากนัก เรารีบตรงดิ่งไปยังหอนักเรียนประจำทันที

ผมทักทายกับยามหน้าประตูหออย่างคุ้นเคย พร้อมกับบอกว่าอยากขอเข้าไปเยี่ยมเพื่อนหน่อย ซึ่งยามก็ยอมปล่อยให้ผมผ่านเข้าไปโดยดี ทั้งๆที่จริงผิดระเบียบ แต่คงเห็นว่าผมเป็นเด็กเก่าของหอนี้ จึงยอมผ่อนผันให้

เมื่อไอ้นัยกับผมเดินเข้าไปในเขตหอพัก สายตาของนักเรียนประจำก็จับจ้องมาที่เราสองคน เพราะชุดนักเรียนที่แตกต่างออกไปทำให้เป็นจุดสังเกต ผมพยายามมองหาไอ้ชัช

“ไอ้อู ไอ้นัย” เสียงอันคุ้นเคยเรียกอยู่ข้างหลังผม ไอ้ชัชนั่นเอง

ไอ้ชัชเพิ่งจะเดินเข้าหอมา มันปราดเข้ามาเอามือกุมมือผมกับไอ้นัยไว้

“เย็นแล้วเพิ่งจะกลับเข้าหอ มึงหนีไปไหนมาวะ” ผมทักมัน

“กูรีบมา ลืมเอากล้วยมาฝากมึงนะ โทษที” ไอ้นัยทักบ้าง ว่าแล้วก็หัวเราะฮุฮุ

เราทักทายกันด้วยความดีใจ แล้วหลังจากนั้น เพื่อนในหอที่เห็นผม ก็ทยอยกันเดินออกมาทักทาย

ผมสังเกตว่าปิดเทอมปีนี้ ไอ้ชัชไม่ได้โตขึ้นมากนัก ส่วนสูงก็ไม่ค่อยเพิ่ม ผมเลยดูสูงกว่ามันมากขึ้นไปอีก แต่ที่น่าสังเกตคือมันเริ่มมีสิวบนใบหน้าบ้างแล้ว ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็ดูสูงขึ้น

“โรงเรียนใหม่เป็นไงบ้าง” ชัชถาม

ผมกับไอ้นัยต่างก็รีบเล่าถึงความแตกต่างจากที่นี่ เท่าที่ได้ประสบมาในหนึ่งวัน

“ได้เพื่อนใหม่เต็มห้องเลยนะพวกมึง กูก็ได้เพื่อนใหม่ตั้งครึ่งห้อง” ไอ้ชัชเล่าให้ฟังบ้าง ตอน ป.๖ นักเรียนที่นี่ออกไปเรียนต่อที่อื่นกันค่อนข้างมาก ทางโรงเรียนก็เลยรับนักเรียนใหม่เข้ามาเพิ่มในชั้น ม.๑

“ก็ไม่ใหม่ทั้งหมดว่ะ มึงรู้จักไอ้โหนกห้อง ๙ มั้ย มันเรียนห้องเดียวกับกู เจอมันวันนี้ก็เพิ่งจะรู้” ผมบอกมัน

ไอ้ชัชก็ไม่รู้จักโหนก ผมพยายามอธิบายรูปร่างหน้าตา มันก็ยังนึกไม่ออก

คุยกันได้เดี๋ยวเดียว ผมก็บอกมันว่าต้องกลับบ้านแล้ว สีหน้าของไอ้ชัชสลดลงในทันใด เมื่อเห็นใบหน้าของมัน ผมก็นึกถึงความผูกพันและความสนิทสนมของเราตลอดเวลาที่ผ่านมา อารมณ์ของผมก็เศร้าหมองลงด้วยเช่นกัน

“ต้องกลับไปให้ทันกินข้าวเย็นว่ะ คุณป้าสั่งเอาไว้” ผมบอกมัน “เอาไว้จะมาเยี่ยมมึงอีก” ผมพยายามปลอบใจมัน

“คราวหน้าจะไม่ลืมเอากล้วยมากฝาก” ไอ้นัยพยายามผ่อนคลายบรรยากาศ เสียงไอ้นัยยังไม่ทันขาดคำ มือของไอ้ชัชก็ตบหัวไอ้นัยเบาๆ

“นี่แน่ะ กล้วย” ไอ้ชัชบอก พร้อมทั้งหัวเราะ “เพี้ยง ขอให้มึงเยี่ยวรดที่นอนจริงๆสักทีเถอะวะ กูจะหัวเราะให้ฟันหักเลย”

ตอนแรกนึกว่ามีเวลาถมเถ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เรามีเวลาคุยกับไอ้ชัชและเพื่อนคนอื่นๆเพียงไม่นานนัก หลังจากร่ำลากัน เราก็รีบออกมาจากหอพักเพื่อกลับบ้าน

ขณะที่เดินอยู่ในโรงเรียน สายตาของผมเหลือบไปเห็นตึกประถมต้น และห้องน้ำประถมต้นในระยะไกล เท้าไวเท่าความคิด ผมเดินเลี้ยวไปทางห้องน้ำประถมต้นทันที

“ประตูไม่ได้อยู่ทางนั้น” ไอ้นัยพูด

“กูรู้แล้ว” ผมตอบมัน “จะไปเยี่ยว”

“ห้องน้ำแถวนี้ก็มีนี่” ไอ้นัยท้วงอีก “มึงจะไปเยี่ยวที่ห้องน้ำไหนเหรอ”

ผมไม่ตอบ แต่บุ้ยใบ้ไปทางห้องน้ำประถม

“ไหนว่าจะรีบกลับบ้านไง” ไอ้นัยถาม พร้อมทั้งยิ้ม

“กูเยี่ยวแป๊บเดียว กลับไม่ช้าหรอก” ผมตอบ “มึงจะซักไปถึงไหนวะไอ้นัย”

ไอ้นัยหัวเราะฮุฮุแบบยียวนอีก จนผมอดขำไม่ได้ ไอ้นัยมันก็แกล้งผมเป็นเหมือนกันนะเนี่ย

“มึงไปหาทิชชู่มาก่อน เดี๋ยวเลอะเทอะหมด” ไอ้นัยเตือนผม

จริงสินะ ผมลืมไป

“งั้นมึงเข้าไปรอก่อน” ผมบอกมัน แล้วตัวเองก็วิ่งตื๋อไปที่โรงอาหาร เพื่อซื้อกระดาษชำระมา โชคดีที่แผงขายของจุกจิกยังไม่ปิด ดังนั้นผมจึงได้ของที่ต้องการมา


<โต๊ะและเก้าอี้เรียนรุ่นเก่า คงเก่าแก่พอๆกับตึกเรียน ใช้ไม้เนื้อแข็ง ทั้งหนาและหนัก>

10 comments:

Anonymous said...

หลานรุสมาคนแรก >.<

มาให้อาอูเลี้ยงไอติมแล้วครับ

Fruit Flo™ ของ New Zealand Natural
ก็ได้นะครับอาอู >.<

หลาน Arus

Anonymous said...

T-T
ทำไมรู้สึกว่ากลับไปจะเจอ
อานัยโดนรุมโทรมล่ะเนี่ย >.<

...

อย่าให้เรื่องเป็นแบบนั้นนะครับอาอู T-T
ผมคงเศร้าแล้วไม่กล้าอ่าน

หลาน Arus

Anonymous said...

ถ้ารุมโทรมหมายความว่าต้องหลายคนช่วยกันทำ แต่นี่ทำกันแค่สองคน ไม่เรียกว่ารุมโทรมครับ

แล้วก็นัยมันมีความสุข ไม่ใช่ว่าโดนแล้วมีความทุกข์สักหน่อย หลานจะเศร้าแทนไปทำไม

อู

ปล. ไอติมที่ว่าราคาสกู๊ปละเท่าไร ถ้าไม่แพงอาจพิจารณาให้อา KTB หรืออากร หรืออาเด็กหลังโรงเรียนพาไปเลี้ยง

แต่ถ้าแพงมากอาจไม่มีใครกล้าพาไปเลี้ยง เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีครับ :-)

Anonymous said...

ขอบคุณครับอูสำหรบตอนที่ 16
จะเข้าห้องน้ำไปเยี่ยว ทำมัยนัยบอกว่าต้องใช้ทิชชู่ด้วย
5555
เรื่องแบบนี้ไม่ต้องพูดมาก ก้อรู้กัน นัยมันรู้ว่าทำมัยอูจะต้องไปเยี่ยวที่ห้องน้ำที่อยู่ไกล ๆ ด้วย ของแบบนี้รู้กัน
แต่เสียดายอย่างเดี่ยว น่าจะชวนชัชมันด้วย แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะใช้เวลานานมาก เดี๋ยวกลับไปทานข้าวเย็นไม่ท้น และนี่ก้อยังไม่แน่ว่าจะกลับไปทานข้าวเย็นทันปะ
แต่อย่างว่าแหละนี่เป็นโอกาสเหมาะที่หาไม่ได้ง่ายนักสำหรับ อูกะนัยที่จะได้มีรัยกันสนุกๆ แบบนี้ ไม่รู้ว่าคราวนี้ใครจะเจ็บตัว แต่ถ้าจะเจ็บตัวด้วยกันทั้งสองคนคงใช้เวลามากเดี๋ยวกลับบ้านไม่ทันกินข้าว สงสัยจะเป็นนัยเจ๊บตัวคนเดียวคราวนี้นัยได้สนุกตรูดแหงๆ คราวหน้าอูค่อยถูกนัยทำคืนมั่งแหละเจ๊บตรูดแหงๆอาอู
55555

**** น้อง Arus ไม่ต้องกลัวว่าอานัยจะถูกโทรมโดยอาอู เพราะสองคนนี้เขาโทรมกันไปโทรมกันมาหลายครั้งแล้ว จำไม่ได้เหรอ ส่วนใหญ่ก้อจะโดนอาอูแหละเป็นคนเริ่มต้น เรืองแบบนี้อานัยเขาก้อชอบสนุกไปซะอีก แต่อาอูนะพอจะโดนอานัยโทรมมั่งก้อแหยงนิดๆแต่ก้อยอม สาเหตุเพราะของอานัยเค้าใหญ่กว่าของอาอูนิดนึง
เรื่องแบบนี้สนุุกออก ไม่ต้องเศร้า ไม่ต้องกลัว อ่านสนุกออก เรื่องแบบนี้อาอูก้อสนุก อานัยก้อสนุก
อานัยเค้าชอบ เวลาอานัยเค้าทำอาอู อาอูก้อชอบ เพราะฉะนั้น น้อง Arus ไม่ต้องกลัว สองคนนี่เค้าไม่เจ็บหรอก สนุกซะอีก อ่านเถอะไม่ต้องกลัวรับรองว่าสองคนนี่ไม่เจ็บครับ ใช่มั้ยอานัยอาดู
5555 ของชอบอาอูอานัยเค้าหละ

ไอติมของอาอูอร่อยนะ แต่ไอติมของอากร กะของอา KTB ก้ออร่อยครับ
ของอากรเป็น swensen
ของอา KTB เป็น Buskin Robbin
ส่วนของอาอูเป็น Fruit Flo
น้อง Arus อยากกินของอาคนไหนก้อเลือกเอานะครับ

KTB

Anonymous said...

ไม่ยุติธรรมน่ะ น่าจะชวนชัดด้วย ไม่ยุติธรรม
ไม่ยุติธรรม

T1000

Anonymous said...

ชัชมันอยู่ในหอครับ ห้องน้ำในหอทำอะไรกันได้ยาก ยกเว้นดึกมากๆ

จุดที่เหมาะใช้ปฏิบัติการยามเย็นก็คือห้องน้ำประถมต้น ที่เคยใช้มาก่อนนั่นเอง แต่ครั้นจะชวนไอ้ชัชออกจากหอมาก็ยาก อีกอย่าง ตอนนั้นสถานการณ์พาไป ไม่ได้เตรียมการณ์เอาไว้ก่อน จะรีบกลับชวนไม่ทันด้วยครับ

กุ๊ก said...

สนุกมากครับเข้ามาอ่านตลอด.....

เป็นกำใจให้ครับ......

Anonymous said...

ตอนหน้าคงมีไรตื่นเต้นๆอีกแน่ๆ หุหุหุ รีบมาต่อเร็วๆนะครับอู เหมือนเดิมครับ
กร ครับ

Anonymous said...

มารอตอนต่อไป ส้าวๆ อดใจแทบไม่ไหว

หลานรุส... จริงๆ แล้วเป็นลุง

Anonymous said...

ลืมลงชื่อ รีบนชื่อ "ต๊อบ" เอิ๊กๆ