Saturday, March 15, 2008

ภาคสอง ตอนที่ 4

ผมพยายามตะกายตัวไปข้างหน้า เพื่อหนีจากท่อนลำของไอ้นัยที่สอดใส่เข้ามาในตัวของผม แต่ไอ้นัยยึดเอวของผมไว้ ผมจึงดิ้นไม่หลุด จำได้ว่าครั้งก่อนๆที่เคยโดนไอ้นัยทำไม่ได้เจ็บเท่าครั้งนี้ คงเป็นเพราะสรีระของมันโตขึ้นตามวัย ที่จริงของไอ้นัยตอนนี้ก็ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไร ก็ตามขนาดของเด็กที่กำลังเข้าวัยรุ่น ไม่ใช่ขนาดของผู้ใหญ่ แต่สำหรับกับผมแล้วมันทำให้ผมเจ็บมาก

“ไอ้นัย กูเจ็บ” ผมคราง แต่ไม่ทันเสียแล้ว ไอ้นัยถอนแท่งของมันที่เพิ่งกระแทกเข้ามา แล้วกระแทกซ้ำเข้าไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

คราวนี้ผมถึงกับร้องจ๊ากลั่นสวน เพราะความแสบร้อนเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ “โอ๊ย”

ไอ้นัยเหมือนกับเพิ่งรู้สึกตัว การกระทำของมันเมื่อครู่เหมือนกับไม่ใช่ไอ้นัย แต่เป็นวิญญาณร้ายอะไรสักตนที่มาสิงร่างของมัน ไอ้นัยหยุดแล้วแช่ท่อนลำของมันไว้เฉยๆ ผมอาศัยจังหวะนั้นดิ้นอีกครั้ง ดอของไอ้นัยจึงหลุดจากก้นของผม พอมันหลุดออกมาเท่านั้น ผมรู้สึกว่าก้นโล่งเหลือเกิน

“ขอโทษนะอู ลืมตัวไปหน่อย เจ็บมากไหม” ไอ้นัยถามเบาๆ น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง แต่ทีเมื่อครู่ไม่ยักเป็นห่วง กระแทกได้กระแทกเอา

“ยังไม่ตาย แต่เกือบไป” ผมตอบ “มึงทำเบาๆหน่อยไม่ได้เหรอ แสบฉิบหาย”

“อะ อะ ได้ๆ คราวนี้ทำเบาๆ” ไอ้นัยทำน้ำเสียงประจบ มันคงรู้ว่าผมเจ็บมากจริงๆเลยทำเอาใจ

ว่าแล้วไอ้นัยก็ชโลมออยล์ใส่ท่อนลำของมันอีก จากนั้นก็บรรจงสอดมันเข้ามาในก้นของผมช้าๆ

ไอ้นัยซอยเบาๆได้แค่ไม่กี่ที มันก็เผลอตัวซอยแบบกระแทกแรงๆอีก มาถึงตอนนี้ก้นของผมเริ่มปรับตัวได้แล้ว จึงรู้สึกเจ็บไม่มาก อีกอย่าง ผมพยายามทนด้วยละครับ อยากให้มันมีความสุข

ไอ้นัยซอยใส่ก้นของผมอย่างรุนแรง เพียงครู่เดียว ไอ้นัยก็กระแทกดอของมันเข้ามาจนสุดลำ แล้วถอนหายใจดังเฮือก เพียงแค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าน้ำของมันกำลังจะแตก จากนั้น ผมก็รู้สึกว่าดอของมันที่อยู่ในก้นของผมกระตุกเป็นจังหวะหลายทีติดๆกัน แล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆฉีดพุ่งอยู่ในก้น

ไอ้นัยยืนแช่อยู่ในท่านั้นสักครู่ แล้วมันก็ถอนดอของมันออกไป

“เสียวจัง” ไอ้นัยพูด ของของมันยังแข็งผงาด ไม่อ่อนตัวลงแม้แต่น้อย ส่วนปลายมีน้ำว่าวยืดย้อยลงมา

“เออ มึงเสียว แต่กูเกือบตาย” ผมบ่นอุบอิบ ยังดีนะที่มันน้ำแตกไว ขืนแตกช้าผมคงตายแน่

ไอ้นัยทำหน้าทะเล้นเป็นทีขอโทษขอโพย

“มึงไม่ต้องทำหน้าทะเล้น ตานี้ถึงทีกูแล้ว” ผมพูด พลางหยิบขวดออยล์มาเปิดฝาออก แล้วเทออยล์มาชโลมที่ท่อนลำของผม “โก้งโค้งลง” ผมสั่ง

ไอ้นัยโก้งโค้งหันก้นให้ผมแต่โดยดี ผมเอานิ้วที่ชุ่มไปด้วยออยล์ค่อยๆสอดเข้าไปในถ้ำของไอ้นัย

ผมชักนิ้วเข้าออกได้สักครู่ คราวนี้ก็เริ่มเอาของจริงเสียบเข้าไปแทน ไอ้นัยดิ้นเล็กน้อย คงรู้สึกเจ็บเหมือนกัน แต่ผมทำมันไม่แรง คงเจ็บไม่มากเท่าไร

ผมซอยท่อนลำภายในก้นของไอ้นัยอย่างช้า จากนั้นเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น แต่ถึงจะเร็ว แต่ก็นิ่มนวล ไม่ได้กระแทกกระทั้นแบบรุนแรงเหมือนไอ้นัย

ความเสียวทวีขึ้นเป็นลำดับ ผมชอบดูภาพตอนที่ท่อนลำของผมผลุบเข้าผลุบออกในถ้ำโพรงสีชมพูของไอ้นัย มันให้ความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน

ซอยเพียงครู่เดียว ผมก็รู้สึกเสียวและเกร็งไปทั่วร่างกาย แล้วผมก็หลั่งน้ำออกมาในก้นของไอ้นัย

หลังจากน้ำแตกแล้ว ผมรู้สึกเหมือนกับยังไม่อิ่ม ผมซอยท่อนลำของผมต่อไปเรื่อยๆ เบาๆ การซอยตอนน้ำแตกไปแล้วนี่มันค่อนข้างลื่นสบาย แตกต่างไปจากตอนที่ยังไม่แตกที่จะรู้สึกฝืดนิดๆ

ผมสังเกตเห็นว่าไอ้นัยโก้งโค้งอยู่เฉยๆ คงไม่รู้เจ็บอะไร ผมจึงซอยต่อไปเรื่อยๆ คราวนี้ซอยอยู่นานพอสมควร และแล้ว ความเสียวค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าน้ำจะแตกอีกรอบ

ผมซอยเร็วขึ้น เร็วขึ้น แล้วในที่สุด น้ำของผมก็แตกออกมาอีกครั้ง...

หลังจากน้ำแตก ไอ้นัยก็รีบถอนก้นของมันออกจากดอของผมทันที

“แสบจัง” ไอ้นัยบ่นอุบ “มึงจะล้างแค้นกูละสิ ทำเสียนาน”

“เปล่าโว้ย จะไปล้างแค้นมึงทำไม แต่ก้นมึงน่าเอาต่างหาก” ผมตอบ

แหย่กันไป แหย่กันมาเล็กน้อย จากนั้น เราทั้งสองก็ลงไปล้างตัวในน้ำ แล้วขึ้นมานั่งเล่นที่ริมบึง ตอนนั้นพระอาทิตย์อยู่เหนือหัวแล้ว น่าจะประมาณเที่ยง ที่บอกว่าประมาณเพราะว่าไม่ได้ใส่นาฬิกามากันทั้งสองคน ผมเริ่มรู้สึกหิว

“กินข้าวกันดีกว่า” ผมชวน

จากนั้นเราก็นั่งแก้ผ้ากินข้าวกัน โดยใช้กางเกงขาสั้นรองก้นเอาไว้ เพราะหากนั่งลงบนหญ้าเลยจะคันก้น

ขณะที่นั่งกินข้าวกันนั้น ผมก็มีโอกาสดูเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของไอ้นัยแบบเต็มๆ รู้สึกว่าในช่วงเทอมปลายที่ผ่านมานั้น ร่างกายของไอ้นัยเติบโตขึ้นอีก ดูมันมีกล้ามเนื้อมากขึ้น ซึ่งในระหว่างที่อยู่ที่โรงเรียนผมสังเกตไม่พบ อาจเป็นเพราะมีเสื้อผ้าปิดอยู่เลยดูไม่ออกก็ได้ ดอของไอ้นัยสงบนิ่งอยู่ในพงหญ้าสีดำ หนังหุ้มของมันร่นเข้าไปมากแล้ว ส่วนหัวเปิดออกมาจากหนังหุ้มปลายได้ประมาณครึ่งหัว

และที่สำคัญ พงหญ้าของไอ้นัยดูดกดำยิ่งขึ้นกว่าเดิม มันเริ่มยาวและหยิกจนเป็นพุ่มหนาพอควร

“มึงโตขึ้นเยอะเลยนะ ตอนเรียนอยู่ด้วยกันไม่ยักสังเกต” ผมทัก

“มึงก็โตขึ้น ปีนี้มึงสูงเร็วกว่ากูอีก” ไอ้นัยบอกผม จริงสินะ ผมก็คงโตขึ้นเหมือนกัน เพียงแต่ว่าอาจไม่ได้สังเกตตนเอง ไอ้ชัชก็คงโตขึ้นเช่นเดียวกัน

“โตขึ้นมึงอยากเป็นอะไรวะ” ผมถาม

“ก็อย่างที่บอก อยากเป็นสถาปนิกเหมือนอย่างอากู” ไอ้นัยตอบ “แล้วมึงล่ะ”

“ไม่รู้สิ” ผมพูด “เคยอยากเป็นหลายอย่าง กระเป๋ารถเมล์ คนขับแท็กซี่ ครู นักวิทยาศาสตร์...”

“แล้วตอนนี้...” ไอ้นัยถามต่อ

“ตอนนี้ไม่รู้แล้วล่ะ” ผมตอบ “รู้แต่ว่าไม่อยากทำกิจการแบบป๋า”

ความคิดเกี่ยวกับแผนการในอนาคตของผมตอนนั้นยังไม่ชัดนัก รู้แต่เพียงว่าไม่อยากอยู่บ้านต่างจังหวัด แล้วทำกิจการค้าขายแบบพ่อ ต่างกับไอ้นัยที่ตั้งเป้าหมายชีวิตเอาไว้ค่อนข้างชัดเจน ที่อยากเจริญรอยตามอย่างผู้ใหญ่ในบ้านของมัน

“แค่เรื่องย้ายโรงเรียนนี่กูก็ไม่เคยคิดมาก่อน ถ้ามึงไม่สอบ กูก็คงไม่ได้คิดไปไหน” ผมพูดต่อ

“แล้วมึงว่ามึงคิดผิดหรือคิดถูกล่ะ” ไอ้นัยถาม

“ไม่รู้ดิ” ผมตอบ ปกติผมเป็นคนที่ชัดเจน แต่ไอ้นัยเป็นคนที่ไม่มีอะไรชัดเจน อะไรก็ได้ แต่ว่าวันนี้เราสองคนกลับกลายเป็นตรงกันข้าม ผมรู้สึกว่าตัวผมเองไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่าง... แม้แต่ความรู้สึกที่มีต่อไอ้นัย ผมก็รู้สึกไม่ชัดเจน


<เส้นทางภายในสวนที่ร่มครึ้ม มีแสงแดดลอดเข้ามาได้เป็นบางช่วงเท่านั้น เราต้องขี่จักรยานผ่านสวนนี้ไปช่วงใหญ่จึงจะถึงบึงน้ำ บนเส้นทางเต็มไปด้วยใบไม้แห้ง เวลาขี่จักรยาน ล้อจะบดกับใบไม้แห้งเสียงดังกรอบแกรบไปตลอดทาง>

7 comments:

Anonymous said...

มาเจิมมาอ่านแล้วครับ รักเสมอ!!

Arus

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับอู
ในภาพที่อูแนบมา
บรรยากาศภายในสวนที่ไม่มีผู้คนก่อนถึงบึง
เวลาเข้าไปมันชวนให้อยากทำรัยกันสินะ
5555
สงสัยนิดนึงว่าเมื่อมามีรัยกันที่บึงนี่แล้ว
เวลากลางคืนที่ห้องนอนยังจะมีรัยกันอีกเหรอป่าว
และที่อูบอกว่า
"แม้แต่ความรู้สึกที่มีต่อไอ้นัย ผมก็รู้สึกไม่ชัดเจน"
ตอนนี้ถ้าว่าไปแล้วก้อไม่ได้อยู่ในโรงเรียนเดิมแล้วและกำลังจะไปเข้าโรงเรียนใหม่ด้วย
ความคิดแบบเด็กๆที่ไม่แน่ใจตัวเองก้อจะกลับไปกลับมา พอตอนนี้เหลือกันสองคนไม่เมือนกับตอนมีชัชอยู่ด้วยก้อจะมีความหึงหวงอยู่บ้างเพราะตอนนั้นเหมือนสามคนวนกันไปมา
ตอนนี้ของตายแล้วก้อแค่วนกันไปมาสองคน
ในช่วงวัยเด็กเป็นของจริงที่เมื่อพอรู้จักกิจกรรมเกี่ยวกับความใคร่แล้วมันเป็นเรื่องเหนือความละเอียดอ่อนของความรัก เพราะมันสนุกติดใจในรสชาติของการมีรัยกัน
แล้วอีกอย่างยังมีเรื่องของอนาคตอีกว่าจะเป็นอะไร
ยังตัดสินใจไม่ได้เป็นความกังวลในใจ
เลยทำให้ความรู้สึกที่มีต่อนัยไม่ชัดเจน
มันทำให้บอกได้ว่าอูไม่น่าจะเป็นเกย์ที่ชอบผู้ชายอย่างเดียว100%เพราะเมื่อก่อนอูก็มีความคิดที่จะทำอะไรกะเพื่อนผู้หญิงจำชื่อมะได้แล้วตอนที่ไปเล่นน้ำในบึงกันหลายๆคน ตอนนี้เลยทำให้จิตสำนึกเดิมๆที่ไม่แม่ใจกลับมาอีก เพราะนัยเหมือนเป็นของเล่นสำหรับอะไรที่สนุกๆกันได้แบบรู้ใจกันเพราะเหลือกันแค่สองคน
แต่ยังงัยผมก้ออยากให้ทั้งอูและนัยเป็นแฟนกันนะครับ
แบบคู่สร้างคู่สม หรือปัจจุบันนี้มาซื้อบ้านต่างคนต่างทำงานแล้วอยู่ด้วยกันแล้วก้อไม่รู้ ไปจดทะเบียนกันแล้วยังตอนนี้กฎหมายไทยเปิดให้แล้วนะ
555555 ล้อเล่นนะครับคลายเครียดขำๆ
ผมก้อแค่วิจารณ์เรื่องเพื่อให้อูได้อ่านเล่นถึงความคิดของผู้อ่านเรื่องของอูเป็นการตอบแทนความมีน้ำใจของอูที่เขียนเรื่องให้คนทั่วไปอ่าน
การเม้นมันเหมือนเป็นกำลังใจของผู่เขียนเรื่องอย่างหนึ่งที่ผู้เขียนและผู้อ่านสื่อต่อกัน
ยังงัยผมก้อจะเป็นกำลังใจให้อูและติดตามงานของอู
ตลอดไปครับ
KTB
ชื่อ KTB ของผมมีที่มาครับ
แต่เดิมใช้ KT เฉยๆแล้วไปบอกให้เพื่อนในเนทด้วยกัน
เขาถามว่าหมายถึงอะไร
พอบอกเขาไปเขาบอกว่าให้เพิ่มตัว T อีกตัว
ก็เลยเปลี่ยนเป็น KTB เพื่อนบางคนก้อเดาว่าทำงานธนาคาร KRUNGTHAI BANK มันไม่ใช่ครับถ้ารู้ว่ามันคืออะไรแล้วจะต้องหัวเราะ 555555 ว่าคิดได้งัยนี่
อูอยากรู้ปะผมจะอีเมลไปเฉลยให้อูได้หัวเราะว่าคิดได้งัย ผมจะไม่เฉลยในนี้นะครับ
555555
อูคอยรับ e-mailจากผมนะครับ
55555
บ๊ะบายครับ
ยังงัยผมก็ยังรักทั้ง3คนเหมือนเดิม
รักอูรักนัยรักชัช
เพราะสามคนนี้มีรัยให้ผมได้อ่านสนุกๆไปด้วยแต่รักอูมากนิดหน่อยเพราะเป็นคนเอาเรื่องมาเสนอ
5555
ขอบคุณมากครับ
KTB KTB KTB KTB
คถบ
5555

Anonymous said...

อยู่ในบ้านทำอะไรกันในห้องนอนไม่ได้ครับ เพราะว่าปกติเวลานอนจะไม่ล็อคห้อง จู่ๆถ้าเปลี่ยนเป็ยนล็อคห้องนนอนขึ้นมาก็จะผิดสังเกต เลยไม่ล็อคอย่างเดิม แล้วก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรกันในห้องนอน แต่เข้าใจว่าตอนนอนอาจมีเผลอกอดไอ้นัยไปบ้างตอนหลับ

ส่วนเรื่องความสับสนนั้น ช่วงนั้นกำลังเข้าวัยรุ่นครับ ก็กำลังพัฒนาความรู้สึกในเรื่องความรักอยู่ แต่พัฒนาการทางเพศดูจะไม่ค่อยปกติ พอมาเป็นแบบนี้เข้าเลยงงเหมือนกัน เหมือนกับว่าไม่รู้ว่าจะก้าวไปทางไหนดี อ่านต่อไปเรื่อยๆแล้วจะเห็นความสับสนในใจของผมชัดขึ้นครับ

อยากรู้จังว่า KTB มาจากอะไร ตกลงว่าเดิมชื่อ KT หรือ KB ครับ ถ้าชืิ่่อเดิมคือ KT ขอเดาว่ามาจาก กระเทย หุหุ

อู

Anonymous said...

เข้าใจคิดนะครับอู จริงๆแล้วผมก้ออยากรู้ครับ ว่า KT มาจากอะไรครับ ถ้าจะให้เดาก้อคงเหมือนอย่างที่อูเดาครับ หุหุหุ นอกเรื่องไปซะนาน ขอบคุณนะครับอูสำหรับเรื่องราวดีๆ ตอนนี้ครับ สนุกมากครับรีบๆ มาต่อเร็วๆนะครับ เป็นกำลังใจอยู่เสมอครับ คิดถึงครับ
กร ครับ

Anonymous said...

Hello. This post is likeable, and your blog is very interesting, congratulations :-). I will add in my blogroll =). If possible gives a last there on my blog, it is about the Impressora e Multifuncional, I hope you enjoy. The address is http://impressora-multifuncional.blogspot.com. A hug.

Anonymous said...

ดีคับอู
ขอโทษด้วยครับ
เม้นให้อูวันที่ 16 มีนาคม วันที่ 17 ไปเที่ยวลาว หลวงพระบาง กลับวันที่ 22 มีนาคม เพิ่งกลับมา และได้ส่ง e-mail ไปให้อูแล้วนะครับ ว่า KT คืออะไร และ KTB คืออะไร
ขอบอกว่า KT ไม่ใช่ กะเทย เพราะว่าผมไม่ได้เป็นกะเทย 55555 ผม rook krab 5555
ขอบอกใบ้ให้คุณ กร นะครับ
KT=คถ
KTB=คถบ(สำหรับ บ=บาน ครับ เพราะฉะนั้น คถ=?
เดาเอาเองครับ 555555)
KTB

Anonymous said...

ดีคับอู
ขอโทษด้วยครับ
เม้นให้อูวันที่ 16 มีนาคม วันที่ 17 ไปเที่ยวลาว หลวงพระบาง กลับวันที่ 22 มีนาคม เพิ่งกลับมา และได้ส่ง e-mail ไปให้อูแล้วนะครับ ว่า KT คืออะไร และ KTB คืออะไร
ขอบอกว่า KT ไม่ใช่ กะเทย เพราะว่าผมไม่ได้เป็นกะเทย 55555 ผม rook krab 5555
ขอบอกใบ้ให้คุณ กร นะครับ
KT=คถ
KTB=คถบ(สำหรับ บ=บาน ครับ เพราะฉะนั้น คถ=?
เดาเอาเองครับ 555555)
KTB